ภรรยาใหม่ยอมถอย สยบศึกแย่งศพ ลูกสาวนำร่างพ่อไปบำเพ็ญกุศลที่ลพบุรีแล้ว

ศึกแย่งศพ เมียใหม่ที่อยู่กินกันมา 30 ปี แต่ไม่ได้จดทะเบียน กับลูกสาวผู้เสียชีวิต ล่าสุดฝ่ายภรรยายอมถอย ลูกสาวนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่จังหวัดลพบุรีแล้ว

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าที่วัดแห่งหนึ่ง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เกิดเหตุชาวบ้านเปิดศึกแย่งศพกันระหว่างลูกสาวของผู้เสียชีวิตกับภรรยาใหม่ที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ท่ามกลางสายตาชาวบ้านจำนวนมากที่มางานศพ

จากการลงพื้นที่ที่ศาลาวัดที่ได้ทำพิธีบำเพ็ญกุศลศพ นายสายยนต์ อายุ 67 ปี ที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งที่บ้านพักเมื่อช่วงเช้าวันที่ (23 มิ.ย. 2567) ญาติพี่น้องรวมทั้งชาวบ้านมาร่วมงาน จึงได้นำร่างผู้เสียชีวิตไปที่วัด เพื่อประกอบทำพิธีบำเพ็ญกุศลศพ ตามที่นายสายยนต์สั่งเสียไว้ว่าให้ทำพิธีที่วัดแห่งนี้

ต่อมา ลูกสาวผู้ตายทั้ง 3 คน เดินทางมาถึงที่วัด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กบินทร์บุรี เพื่อจะขอนำศพของพ่อไปบำเพ็ญกุศลที่จังหวัดลพบุรี ส่วนทางญาติพี่น้องรวมทั้งภรรยาใหม่ไม่ยอมให้ศพไปที่จังหวัดลพบุรี เนื่องจากผู้ตายได้สั่งเสียให้นำศพมาไว้ที่วัดแห่งนี้ ซึ่งมีคลิปเสียงของผู้ตายบันทึกไว้ ทำให้ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน จนเกิดการโต้เถียงและชุลมุนกันขึ้น ทางชาวบ้านต้องเป็นช่วยกันห้ามอยู่นาน

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าหย่าศึกชิงศพ พร้อมชี้แจงในข้อกฎหมายให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจ ในที่สุดทางญาติพร้อมภรรยาก็ยินยอม ให้ลูกสาวผู้เสียชีวิตนำศพพ่อไปบำเพ็ญกุศลที่จังหวัดลพบุรี

ทั้งนี้ คลิปเสียงที่ญาติพี่น้องได้บันทึกไว้ก่อนที่นายสายจะเสียชีวิต ได้บอกว่า “ไม่ไปหรอก เพราะญาติพี่น้องอยู่นี่ ไม่ไปหรอก ส่วนไอ้หนูนั้นมันเป็นทหาร (ลูกสาว) ถ้าไปญาติพี่น้องที่ไหนจะตามไป เพราะลูกยังหวังดีจะทำให้พ่ออยู่ เพราะทหารเขามีหน้ามีตา ที่นี่โคตรเหง้ามันอยู่ที่นี่ ต้องทำอยู่นี่ เขาจะได้นอนศาลาได้อย่าถือทิฐิกันลูกเอ้ย พ่อตายตาหลับไม่อยากคิดมาก พี่น้องพ่อเขาดีทุกคน เขาให้กินทุกปี เขาไม่เข้าใจหรอก พูดไปจะเป็นขี้ปากสังคม ถ้าพ่อตาย เพราะพ่อแม่ของพ่ออยู่ที่นี่ ส่วนศพเอาไว้ 2 คืน พี่น้องพี่เขาก็ช่วยเหลือพ่อ พ่อตายให้อยู่วัดที่นี่ ที่ตำบลหนองกี่ อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี”

ด้านนางสำ อายุ 60 ปี ภรรยาใหม่ของนายสายยนต์ กล่าวว่า นายสายยนต์และเธออยู่กินกันมากว่า 30 ปี ไม่ได้จดทะเบียนสมรสด้วยกัน ซึ่งตอนแกป่วยหนัก ลูกสาวของนายสายยนต์ก็ไม่ได้เอาไปดูแล เธอดูแลนายสายยนต์จนเสียชีวิต ซึ่งญาติพี่น้องของนายสายยนต์อยู่ที่จังหวัดปราจีนบุรีหมด พร้อมกับสั่งเสียก่อนตายว่า ให้เอาศพไว้ที่นี่

นางดวน อายุ 65 ปี น้องสาวผู้เสียชีวิต กล่าวว่า พี่ชายล้มป่วยเป็นปี ลูกๆ เขาไม่เคยมาดูแลแกเลย สุดท้ายพอพ่อเสีย ลูกจะเอาศพไปทำพิธีที่ลพบุรี ตอนป่วยทำไมไม่มาเยี่ยมพ่อเอาไปรักษา ต้องให้ทุเรศทุรังเหมือนกับหมา พอญาติจะเอามาบำเพ็ญกุศล เขาบอกว่าอยากจะได้พ่อเขาไปที่ลพบุรี ญาติก็ไม่ได้ติดใจคือลูกเขาจะเอาไปก็ให้เขาเอาไป เพราะเธอเป็นน้องสาวไม่มีสิทธิ์

ล่าสุดทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ เดินทางไปที่วัดเขาพระงาม จังหวัดลพบุรี สถานที่ตั้งสวดพระอภิธรรมศพของนายสายยนต์

นางสาวกรรณิกา ลูกสาวคนเล็ก เปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า พวกเธอ 3 คนที่เป็นลูกสาวแท้ๆ ของนายสายยนต์ ซึ่งพ่อทิ้งพวกเธอไปมีเมียใหม่เกือบ 30 ปี จึงต้องการประกอบพิธีศพให้กับพ่อครั้งสุดท้ายอย่างสมเกียรติและพวกเธอทำงานอยู่ที่จังหวัดลพบุรีจึงสะดวกทำพิธีที่นี่ ไม่ได้มีนัยยะแฝงเรื่องผลประโยชน์ เงินประกันหรือมรดกอะไรเลย ซึ่งพ่อไม่ได้มีทรัพย์สินและไม่ได้ทำประกันไว้ด้วย ยืนยันว่าต้องการส่งพ่อครั้งสุดท้าย หนำซ้ำพ่อยังมีหนี้ไฟแนนซ์อีกประมาณ 120,000 กว่าบาท ตามกฎหมายพวกเธอต้องรับผิดชอบหนี้ในส่วนนี้ของพ่ออยู่แล้ว

นางสาวกรรณิกา กล่าวอีกว่า พ่อของเธอป่วยเป็นมะเร็งตับ ประมาณช่วงปลายปีที่แล้ว โดยขณะนั้นพ่อใช้ชีวิตอยู่ที่ปราจีนบุรี แต่หลังจากพวกเธอทราบข่าวว่าพ่อป่วยก็ดำเนินการเรื่องที่โรงพยาบาล ค่ารักษาพยาบาลต่างๆ และเคยไปรับพ่อกลับมาอยู่ด้วยกันที่ลพบุรี พากินพาเที่ยวใช้ชีวิตดูแลกัน ยืนยันว่าไม่เคยทอดทิ้งพ่อ

ส่วนประเด็นดรามาที่แย่งศพของพ่อและมีคลิปที่พ่อพูดไว้ก่อนเสียชีวิตว่าให้ตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่จังหวัดปราจีนบ้านเกิดนั้น เธอได้เคาะโลงบอกพ่อแล้วว่า ลูกทั้งสามคนขอนำร่างของพ่อมาบำเพ็ญกุศลศพที่จังหวัดลพบุรี ที่ผ่านมาเมียใหม่พ่อ แย่งพ่อไปจากพวกเรา 30 ปีแล้ว ช่วงลมหายใจสุดท้ายของพ่อ ขอพวกเราดูแลพ่อเป็นครั้งสุดท้าย อย่างไรก็ตาม หากครอบครัวเมียใหม่ของพ่อและญาติของพ่อต้องการมาร่วมสวดบำเพ็ญกุศลที่จังหวัดลพบุรี

พวกเธอก็ยินดี เพราะที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรกัน โดยหลังจากฌาปนกิจศพพ่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะเก็บเถ้ากระดูกของพ่อไว้ที่จังหวัดลพบุรีเพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ทุกปี