ไล่ล่า ‘มีน พระราม 3’ โมเดลลิ่งเก๊ หลอกข่มขืนเด็กเอนฯ ก่อนฉกเงิน พบผู้เสียหายนับ 100 ราย

ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวน บช.น. สั่งไล่ล่าไอ้มีน พระราม 3 ซึ่งเป็นวินมอเตอร์ไซค์สวมรอยเป็นโมเดลลิ่ง ลวงเด็กเอนฯ ไปขโมยทรัพย์สินและข่มขืน หลังก่อเหตุลอยนวลมากว่า 3 ปี

จากกรณีผู้เสียหาย ซึ่งเป็นสาวเอ็นเตอร์เทน ได้เดินทางมาขอความช่วยเหลือกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกนายกิตติกร หรือ ฉายา "ไอ้มีน พระราม 3" อ้างตัวเป็นโมเดลลิ่ง ก่อนเบี้ยวค่าจ้าง และขโมยทรัพย์สินผู้เสียหายไปแล้วกว่า 100 คน

โดยผู้เสียหายเปิดเผยว่า ที่ผ่านมาต้องทนทุกข์ทรมาน เพราะเงินที่ผู้ก่อเหตุขโมยไป เป็นเงินที่ต้องเก็บไว้เลี้ยงครอบครัว และบางคนโชคร้ายโดนข่มขืนและคิดสั้นถึงขนาดจะฆ่าตัวตาย แต่ทุกวันนี้ผู้ก่อเหตุยังลอยนวล ผู้เสียหายหลายคนไปแจ้งความแต่คดีไม่คืบหน้า จึงมาขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด

ล่าสุดทีมข่าวได้คุยโทรศัพท์ กับเหยื่อซึ่งเป็นสาวเอนเตอร์เทนอีก 1 คน ซึ่งเธอไม่สะดวกให้บันทึกเสียงสนทนา แต่ได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ผู้ก่อเหตุได้ปลอมตัวเป็นโมเดลลิ่ง โดยรูปโปรไฟล์ของผู้หญิงคนหนึ่ง ทักหาตน โดยบอกว่ามีงานให้ไปดูแลลูกค้าวีไอพี ได้ค่าจ้าง 3 พันบาท โดยให้ไปที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านถนนพระราม 3 จากนั้นได้ส่งรูปของหญิงสาวและชายหนุ่ม ที่แสดงให้เห็นว่ามีการจัดงานปาร์ตี้ จึงทำให้ตนหลงเชื่อ

ต่อมาผู้ก่อเหตุได้ขี่มอเตอร์ไซด์มารับตน โดยบอกว่าเป็นลูกค้าที่ติดต่อไว้ ส่วนที่ขี่มอเตอร์ไซด์มารับ เพราะจอดรถยนต์ไว้บ้านเพื่อน ซึ่งตนก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะอยากรีบทำงานให้จบ จึงยอมไปด้วย

จนไปถึงที่โรงแรม ซึ่งตอนนั้นตนไม่รู้ว่าที่ไหน เพราะตอนนั้นมืดแล้ว ผู้ก่อเหตุได้ให้ตนเข้าไปรอในห้อง ซึ่งเมื่อเข้าไปตนก็เห็นว่าไม่มีใครอยู่ จนได้พิมพ์ข้อความไปถามโมเดลลิ่ง ซึ่งโมเดลลิ่งได้ตอบว่าให้รอสักครู่ เดี๋ยวคนอื่นจะตามมา ตนก็หลงเชื่อและเก็บโทรศัพท์เพราะตอนทำงานตนจะไม่ใช้โทรศัพท์เป็นปกติอยู่แล้ว

ต่อมาผู้ก่อเหตุได้ชวนตนดื่มเบียร์ และพูดทำนองว่าได้เงินมาจากการเล่นพนันจำนวนมาก และหากบริการดี จะให้ทิปอีกด้วย จากนั้นผู้ก่อเหตุก็ฉวยโอกาส ข่มขืนตน ทั้งที่ตนไม่ยินยอม เพราะตนรับเอนเตอร์เทนอย่างเดียว ไม่ได้รับเอ็นวี

จากนั้นผู้ก่อเหตุได้พาตนซ้อนมอเตอร์ไซด์ออกจากโรงแรม และยังพยายามมาพูดข่มขู่ ให้ตนเอาโทรศัพท์มือถือไปจำนำ โดยบอกว่าต้องการใช้เงิน แต่ตนไม่ยอม ผู้ก่อเหตุจึงปล่อยตนลงข้างทาง บอกว่าไปธุระเดี๋ยวจะมารับ ซึ่งตอนนั้นตนตกใจมากและทำอะไรไม่ถูก เมื่อผู้ก่อเหตุขี่มอเตอร์ไซด์ไปแล้ว จึงเริ่มได้สติ และเปิดกระเป๋าดู จึงพบว่าเงินได้หายไปแล้ว เชื่อว่าผู้ก่อเหตุน่าจะอาศัยช่วงเวลาที่ตนเข้าห้องน้ำ แอบขโมยเงินไป

หลังเกิดเหตุ ตนได้นำเรื่องนี้ไปแจ้งเตือนในกลุ่ม เด็กเอนเตอร์เทน ก็พบว่ามีเหยื่อโดนผู้ก่อเหตุรายนี้กระทำแบบตนหลายราย จนกระทั่งมาทราบข่าวที่มีเด็กเอนเตอร์เทนไปร้องเพจสายไหมต้องรอด จึงอยากให้เรื่องของตนเป็นอุทาหรณ์เพราะผู้ก่อเหตุยังลอยนวล และเชื่อว่าน่าจะคนร่วมรู้เห็นด้วย

ขณะที่ทีมข่าวลงพื้นที่ปากซอยสาธุประดิษฐ์ 23 หลังได้รับข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุ วิ่งวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่นี่ แต่จากเฝ้าสังเกตสังเกตการณ์ระยะหนึ่งไม่พบว่ามีวินมอเตอร์ไซด์ มาจอดอยู่ที่บริเวณหน้าปากซอยดังกล่าว และจากการสอบถามผู้ประกอบการบริเวณนี้ ไม่มีใครรู้จักผู้ก่อเหตุ แต่อย่างใด

พลตำรวจตรีธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการศุนย์สืบสวนสอบสวน บช.น. ระบุว่าเบื้องต้นตนเองได้สั่งการให้ชุดสืบสวนทำข้อมูลและรวบรวมหลักฐานของผู้กระทำความผิดรายนี้เป็นที่เรียบร้อยหลังได้รับการร้องเรียนมาจากเพจ สายไหมต้องรอด โดยคาดว่ายังหลบหนีอยู่ในพื้นที่ โดยพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุจะเลือกเหยื่อที่เป็นเด็กเอนเตอร์เทน เนื่องจากอาจจะมองว่าเป็นกลุ่มอาชีพที่หากถูกกระทำความผิด อาจจะไม่กล้าเข้าแจ้งความเพราะอาย หรือเสียชื่อเสียง

จึงอยากขอฝากประชาสัมพันธ์ผ่านทางช่อง 3 ขอให้ผู้เสียหายรายอื่น แจ้งข้อมูลมาได้ที่ เพจสืบนครบาล IDMB เพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการติดตามตัวผู้ก่อเหตุ

มีรายงานว่าพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุรายนี้ จะเช็คว่าเหยื่อพกเงินติดตัวหรือมีเงินในบัญชีเยอะหรือไม่ ด้วยการ ถามเหยื่อว่าพกเงินมาเท่าไร เมื่อเหยื่อถามว่าอยากรู้ไปทำไม ผู้ก่อเหตุก็จะหลอกว่า เล่นทายพนันกับเพื่อนไว้ว่า เด็กที่มาเอนเตอร์เทนมีเงินติดตัวมากี่บาท ถ้าทายถูกจะได้เงินพนัน และเงินพนันก็จะยกให้เด็กเอนเตอร์เทน ส่วนโรงแรมที่พาเหยื่อไปเปิดห้องและขโมยเงินก็จะเป็นโรงแรมย่านดาวคะนอง ซึ่งคาดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นคนในย่านดังกล่าว เพราะรู้เส้นทางหลบหนี

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/vEbvkRCbYMA