แฉแหลก !! ‘น้ำผึ้ง’ โมเดลลิ่งเก๊ หลอกเก็บเงินถ่ายโฆษณา เหยื่อโผล่เพียบ

สายไหมต้องรอด พาผู้เสียหายถูกโมเดลลิ่งเก๊หลอก แจ้งความเพิ่มอีก 6 ราย รวมมูลค่าเสียหายมากกว่า 10 ล้าน

พ่อแม่ผู้ปกครอง 6 รายรวมตัวกันไปแจ้งความที่ สอท. หลังรู้ข่าวว่า "น้ำผึ้ง" โมเดลลิ่งหลอกครอบครัวเหยื่อที่จังหวัดแพร่ถ่ายงาน โดยหลอกเอาเงินมัดจำสูญเงินไปกว่า 8,700,000 บาท ซึ่ง 6 ครอบครัวสูญเงินไปตั้งแต่ 3,000,000 บาท , 1,500,000 บาท , 870,000 บาท , 400,000 , 220,000 บาท และ 130,000 บาท

โดย 1 ในครอบครัวผู้เสียหายเดินทางมาจากพัทยา เล่าว่า ประมาณ 1 ปีที่แล้วรู้จักกับน้ำผึ้ง ผ่านทางเฟซบุ๊กเช่นกัน น้ำผึ้งแนะนำให้ไปเรียนการแสดง และทำสัญญาเป็นนักแสดงในสังกัด จากนั้นก็เริ่มส่งงานให้ไปแสดงละครได้ออกอากาศจริง ต่อมาน้ำผึ้งบอกว่า มีงานให้น้องไปถ่ายโฆษณาได้ค่าตัวงานละ 1 หมื่นบาท แต่ทุกงานต้องวางเงินประกัน เพื่อป้องกันเราเบี้ยวงาน มีการดีลงานลักษณะนี้ และวางเงินประกันมาเรื่อยๆ หลายครั้ง แต่ไปถ่ายจริงๆ 4 งาน ซึ่งน้ำผึ้ง อ้างว่า เป็นโฆษณาของต่างประเทศ จึงไม่เคยเห็นว่าได้ออกอากาศหรือไม่

จนเมื่อประมาณ 3 เดือนที่แล้วเริ่มเอะใจ เพราะค่าตัวและเงินประกันที่ต้องได้คืนเริ่มค้างเยอะ พอทวงถามก็อ้างว่า เดี๋ยวจะจ่ายให้แล้วก็เงียบไป ติดวันหยุด ติดเสาร์อาทิตย์ หรือไม่สบายบ้าง เลยหยุดรับงานไปก่อนจนกว่าจะได้เงินประกันคืน

เช่นเดียวกับคุณแม่คนนี้ ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของน้ำผึ้ง เล่าว่า รู้จักกับน้ำผึ้งตั้งแต่ปี 2565 เพราะบ้านอยู่ใกล้กัน ต่อมาก็ชวนลูกสาวไปเรียนการแสดงที่บ้าน ที่ทำเป็นสตูดิโออยู่ในหมู่บ้านย่านบางใหญ่ เรียนครั้งละ 1-2 ชั่วโมง มีครูที่เป็นนักแสดงตัวประกอบมาสอนให้จริงๆ ลูกตนได้เรียนไป 5 ครัั้ง หลังจากนั้นก็บอกว่า มีงานโฆษณานมยี่ห้อหนึ่งติดต่อมา แต่ต้องวางเงินประกันก่อนหลักหมื่น จึงโอนเงินไป แล้วก็ได้ไปถ่ายจริงๆ มีสตูดิโอและทีมงาน เธอโดนให้มัดจำเงินเพื่อถ่ายงานแบบนี้อยู่หลายครั้ง วางเงินประกันมีตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสน รวมแล้วโอนเงินไป 870,000 บาท แต่เพิ่งได้ค่าตัวน้องมาแค่ 3,000 บาท และไม่เคยได้เงินประกันคืนเลย พอทวงก็อ้างเหตุผลต่าง ๆ นานา

จนเดือนกุมภาพันธ์ 2566 น้ำผึ้ง บอกว่า น้องจะได้ถ่ายละครของช่อง 3 แต่ต้องวางเงินประกัน 150,000 บาท ก็โอนเงินไป ต่อมาก็อ้างว่ามีงานถ่ายภาพยนตร์กับณเดชน์-ญาญ่า ให้วางเงินประกันอีก 150,000 บาท แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่เคยได้ถ่าย และที่เอะใจ คือ ช่างแต่งหน้าในกองมาบอกว่า กองถ่ายนี้เซตขึ้นมา แม่ดูไม่ออกเหรอ ไม่มีที่ไหนที่จ้างนักแสดงแล้วเก็บเงินก่อน ทำให้เธอรูว่าน่าจะโดนหลอกแล้ว

นี่เป็นแชทข้อความที่น้ำผึ้งคุยกับผู้เสียหาย วันที่ 13 ธันวาคม 2565 บอกว่า ปีหน้า (2566) แม่ผึ้งดิวงานกับช่อง 3 เขาต้องการนักแสดงเด็กหน้าใหม่ร่วมงาน เลยจะชวนน้องเข้าโครงการ คุณแม่สนใจไหมคะ แต่ต้องติดสัญญา 3 ปี น้องมีโอกาสได้เซ็นต์สัญญากับช่อง ในช่วงที่ติดสัญญาจะมีงานป้อนให้ แต่ต้องวางเงินประกัน 1 แสน 2 หมื่นบาท ประกันจะได้คืนเมื่อครบสัญญา เป็นประกันการเบี้ยวคิวงานหรือไม่มาถ่ายตามกำหนด แต่ก่อนรับงานถ้าไม่ว่างสามารถปฏิเสธได้เลย แต่ถ้ารับงานต้องมา ถ้าแม่โอเคจะนัดไปรับเอกสารทำเรื่องที่บ้าน สัญญาจะเริ่มมกราคมต้องเร่งยื่นเรื่องนะคะ

อีกแชทวันที่ 13 มกราคม 2566 ถ่ายสินค้าแบรนด์ ดิออ วางเงินประกัน 3 หมื่น ได้คืน 14 วันหลังจากถ่ายงานจบ ถ่ายวันที่ 28-29 มกราคม ใช้สตูดิโอที่พัทยา ไม่เลื่อน ใช้ทีมงานแม่ผึ้ง อยากให้น้องได้งานนี้เผื่อมีโอกาสไปทำงานในต่างประเทศ

อีกแชทสมัครถ่ายปฏิทิน และร่วมเดินสายมอบกระเช้าสวัสดีปีใหม่ ค่าสมัคร 5,900 บาท แถมปฏิทินให้ 5 อัน หรือจะสั่งเพิ่มอันละ 150 บาท และจากสลิปโอนเงินที่ผู้เสียหายส่งมา ทุกอันจะถูกระบุว่าเป็นค่ามัดจำถ่ายโฆษณาสินค้าแบรนต่างๆ รวมถึงเงินกระกันทำสัญญาช่อง 3 ด้วย

พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 บอกว่า ตอนนี้ผู้เสียหายที่รวมตัวมาแจ้งความแล้ว มีมูลค่าความเสียหายรวมกันไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งเหตุเกิดต่างพื้นที่กัน และเป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระ หากมีผู้เสียหายรายอื่นๆ อีก ขอให้รีบเข้ามาพบพนักงานสอบสวน สามารถไปแจ้งความที่ สน.ท้องที่ได้ เพราะกรณีนี้รู้ตัวตนผู้ก่อเหตุอยู่แล้ว

ทีมข่าวโทรศัพท์ไปพูดคุยกับช่างแต่งหน้า ที่ถูกผู้เสียหายพาดพิงถึง ได้ให้ข้อมูลกับทีมข่าวทางโทรศัพท์ว่า เธอก็เป็นเหยื่อ เพราะน้ำผึ้ง จ้างไปแต่งหน้าในกองถ่ายแล้วไม่จ่ายเงินรวมกว่า 1 แสนบาท โดยรู้จักกับน้ำผึ้ง ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จากการไปโพสต์หางานแต่งหน้าในเฟซบุ๊ก แล้วน้ำผึ้งก็ติดต่อมาให้ไปแต่งหน้าเด็กในกองถ่ายโฆษณา งานแรกได้เงินค่าจ้างปกติ แต่ 2-3 งานต่อมา ก็เริ่มได้ช้าขึ้น และตั้งแต่สิ้นเดือนกุมภาพันธ์จนถึงปัจจุบัน ก็ยังไม่เคยได้เงินเลย ค้างไว้ 10 กว่างาน เป็นเงินหลักแสนบาท

โดยระยะหลัง เริ่มมีผู้ปกครอง และสตูดิโอที่ไปเช่าถ่ายทำ ติดต่อหาเธอมาเยอะมาก ว่ายังค้างค่าตัวนักแสดง ค้างค่าเช่าสตูดิโอ เธอก็ไม่รู้เรื่อง เพราะไม่ใช่ทีมงานแค่มารับจ้างแต่งหน้า

หลังจากเป็นข่าวเธอได้คุยกับผู้กำกับกองถ่ายโฆษณา จึงได้รู้ความจริงว่า ผู้กำกับกองถ่ายรู้จักสนิทสนมกับหลานของน้ำผึ้ง จึงถูกขอให้มาช่วยถ่ายให้ โดยน้ำผึ้งเป็นคนเมคงานทุกอย่างขึ้นมา ไปเช่าสตูดิโอที่ต่างๆ อ้างสินค้าแบรนด์ต่างๆ ส่วนงานละครที่พาเด็กไปแสดงเป็น Extra นั้น น้ำผึ้งก็มีคอนแทคกับกองถ่ายละครจริงๆ ที่หานักแสดงตัวประกอบเข้าฉาก และที่ส่งเด็กไปเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ หลังจากนั้นจึงหลอกมาถ่ายกองโฆษณาปลอมของตัวเอง

ก่อนหน้านี้เคยถามกับน้ำผึ้งหลายครั้งว่างานโฆษณาถ่ายจริงใช่ไหม น้ำผึ้งก็ยืนยันว่าจริง แต่ถ่ายเก็บไว้ ต้องรอบริษัทว่าจะได้ออนแอร์เมื่อไหร่ แต่ยิ่งทำให้เธอสงสัยเพราะเด็กบางคนเล่นไม่ได้เลย แต่ก็ได้มาถ่าย

ทีมข่าวลงพื้นที่มายังบ้านของน้ำผึ้ง ย่านบางใหญ่ นนทบุรี ที่ผู้เสียหายบลอกว่า เคยพาลูกมาเรียนการแสดงที่นี่ พบว่า บ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ภายในโครงการหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง ลักษณะเป็นบ้านทาวน์โฮม 3 ชั้น มีติดป้ายไว้ที่หน้าประตูว่า "เซเว่นเซนส์ ฟิล์ม" (7 SENSE FILM) แต่บ้านถูกปิดเงียบไม่มีคนอยู่ แต่บริเวณหน้าบ้านมีกล่องพัสดุแกะแล้ววางกองอยู่ และมีรองเท้าเด็กวางอยู่หลายคู่

ขณะที่คนสวนของหมู่บ้าน ให้ข้อมูลว่า บ้านหลังนี้มักจะอยู่กันเพียง 2 คน คือ น้ำผึ้งกับผู้ชายอีกคนหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้จะมีคนเข้าออกอยู่ตลอดเพราะเปิดเป็นโมเดลลิ่ง แต่ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมานี้ ไม่เห็นว่ามีใครมา บ้านถูกปิดเงียบ และเหมือนว่าแอร์ที่ชั้น 2 ของบ้านก็ถูกถอดออกไปเมื่อวานนี้ (30ก.ค.67)

จากนั้น ทีมข่าวได้เดินทางไปยังบริษัทสอนการแสดงของน้ำผึ้ง ตามโลเคชั่นในกูเกิ้ลแมป ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านพักเพียงแค่ 4 กิโลเมตร แต่พบว่ากลายเป็นร้านขายรองเท้าไปแล้ว จากการสอบถามเพื่อนบ้านให้ข้อมูลว่า บริษัทดังกล่าวได้ย้ายออกจากตรงนี้ไปแล้วกว่า 5 เดือน แต่เมื่อก่อนมีพ่อแม่ผู้ปกครองพาลูกหลานมาเรียนการแสดงกันเป็นจำนวนมาก

https://youtu.be/VsbOAckw8Vo