บ้าน 5 หลังเดือดร้อน! ถูกตัดออกโครงการ นิติฯห้ามเข้าออก-ใช้พื้นที่ส่วนกลาง ทั้งที่จ่ายค่าส่วนกลาง 3 ปี

สคบ.ลงพื้นที่โครงการหมู่บ้านจัดสรรหรู ย่านคลองสามวา หลังลูกบ้าน 5 หลังเดือดร้อน เพราะถูกนิติบุคคลตัดออกจากโฉนดของโครงการ ห้ามใช้พื้นที่ส่วนกลางทั้งที่จ่ายค่าส่วนกลางรายปี

ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ลงพื้นที่หมู่บ้านหรูย่านคลองสามวา หลังมีผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน 5 หลังร้องขอความเป็นธรรมกับเพจสายไหมต้องรอด เนื่องจากทั้ง 5 หลังนั้นซื้อบ้านของโครงการดังกล่าว ราคา 4 ล้านกว่าบาท และจ่ายค่าส่วนกลางล่วงหน้า 3 ปี แต่ปรากฏว่าอยู่ไปอยู่มา ทางโครงการตัดออกจากโฉนดของหมู่บ้าน ทำให้ไม่มีสิทธิ์ใช้พื้นที่ส่วนกลางและเวลาแขกมาหาก็ลำบาก ทางนิติบุคคลเคยห้ามไม่ให้เข้าออกด้วย

นายเฉลิมชลม์ ผู้เสียหาย พร้อมเจ้าของบ้านอีก 4 หลัง พาทีมข่าวเดินสำรวจพื้นที่โดยรอบ พบว่าบ้านทั้ง 5 หลัง อยู่ท้ายโครงการ เป็นเฟสสุดท้ายที่สร้างในลักษณะบ้านเดี่ยว มีพื้นที่ใช้สอยรอบบ้าน และอยู่ติดกับสระว่ายน้ำ ฟิตเนส แต่ถูกปล่อยให้รกร้างไม่มีคนดูแลรับผิดชอบ

นายเฉลิมชลม์ กล่าวว่า ซื้อบ้านหลังนี้มาในราคา 4 ล้านกว่าบาท ตอนปี 2564 และได้จ่ายค่าส่วนกลางล่วงหน้าไปแล้ว 3 ปี เป็นเงิน 32,000 กว่าบาท โดยทำสัญญากับทางโครงการอย่างถูกต้อง แต่ภายหลังทางโครงการได้ส่งมอบพื้นที่ทั้งหมดให้กับนิติบุคคลหมู่บ้านเข้ามาดูแล ปรากฏว่า บ้าน 5 หลังในโครงการและพื้นที่ส่วนกลางบางส่วน เช่น สระว่ายน้ำ ถูกตัดรายชื่อออกจากความรับผิดชอบดูแลของทางนิติฯ ซึ่งนิติฯ ให้เหตุผลว่า บ้านทั้ง 5 หลัง อยู่นอกพื้นที่ความรับผิดชอบ ไม่สามารถให้ใช้ถนนทางเข้าออกหมู่บ้านได้ และไม่ได้รับการอำนวยความสะดวกเหมือนกับบ้านหลังอื่นๆ รวมถึงไม่มีสิทธิใช้พื้นที่ส่วนกลางอื่นๆ ได้ เช่น สวนสาธารณะ สระว่ายน้ำ สปอร์ตคลับที่สร้างขึ้นมาใหม่

“ลูกบ้านทั้ง 5 หลัง งงมากว่าทำไมจึงไม่มีสิทธิ์ ทั้งที่จ่ายค่าส่วนกลางล่วงหน้าไปแล้ว 3 ปี เป็นเงิน 32,000 บาท พอไปตรวจสอบกับสำนักที่ดินเขตคลองสามวาพบว่า ในโซนบ้านทั้ง 5 หลัง ถูกตัด แยกโฉนดออกจากพื้นที่โครงการส่วนรวมทั้งหมด ซึ่งก็หมายความว่า โดดเดี่ยวกันอยู่ 5 หลัง และทางนิติบุคคลอ้างว่า ไม่ได้รับเงินค่าส่วนกลางบางส่วนจากโครงการ ส่วนทางโครงการก็อ้างว่าได้โอนเงินค่าส่วนกลางของลูกบ้านทั้ง 5 หลังที่จ่ายล่วงหน้าไปให้แล้ว” นายเฉลิมชลม์กล่าวและว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องที่เกิดขึ้น ทำให้ลูกบ้านทั้ง 5 หลังได้รับผลกระทบในการใช้ชีวิต จึงจัดสินใจร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อและเพจสายไหมต้องรอด

นายศุภชัย เลยานนท์ ประธานนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรดังกล่าว กล่าวว่า รู้สึกเห็นใจบ้านทั้ง 5 หลัง แต่ทางนิติบุคคลได้รับส่งมอบความรับผิดชอบและการดูแลจากเจ้าของโครงการ เฉพาะแค่เฟส 1 และเฟส 2 จำนวน 300 กว่าหลังคาเรือนเท่านั้น ในส่วนของเฟส 3 ที่ก่อสร้างขึ้นมาใหม่เป็นบ้านเดี่ยว ตอนแรกทางนิติฯ และลูกบ้านหลังอื่นๆ ก็เข้าใจว่าอยู่ในพื้นที่โครงการเดียวกัน ที่ผ่านมาบ้านทั้ง 5 หลัง ก็เข้าออกใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกันตามปกติ และทางนิติยังเป็นคนจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ในส่วนของสระว่ายน้ำฟิตเนส บริเวณนั้นให้ด้วย เดือนละ 5,000 กว่าบาท

ส่วนกรณีที่ลูกบ้าน 5 หลัง ระบุว่า ได้จ่ายค่าส่วนกลางไปล่วงหน้า 3 ปีนั้น นิติบุคคล กล่าวว่า ไม่ได้รับโอนเงินส่วนนั้นจากทางเจ้าของโครงการ และพอไปตรวจสอบกับกรมที่ดิน ก็พบว่า พื้นที่ดังกล่าวยังไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์มาอยู่ในความรับผิดชอบดูแลของนิติบุคคล ทำให้นิติฯ จำเป็นต้องปฏิบัติตามระเบียบ คือ ดูแลรับผิดชอบเฉพาะพื้นที่ที่โครงการส่งมอบให้ คือ เฟส 1 และเฟส 2 ในส่วนของ 5 หลัง เกินความรับผิดชอบของนิติฯ และสิ้นปีนี้จำเป็นจะต้องยกเลิกบัตรผ่านเข้าออกของบ้านทั้ง 5 หลัง แต่อาจจะอะลุ่มอล่วยให้เข้าออกโดยการแลกบัตรแทน ซึ่งอาจจะไม่สะดวกสบายสำหรับบ้านทั้ง 5 หลัง

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/zNsKLPFxcUc