ตายายร้องสื่อ บ้านกลายเป็นที่ตาบอด ขอทางไม่ได้ สุดท้ายต้องมุดรั้วหมาลอดใต้กำแพงเข้า-ออก

ตายายร้องสื่อ 3 ชีวิตคนแก่ บ้านกลายเป็นที่ตาบอด หลังมีคนมาซื้อที่ดินรอบ ๆ จนทุกวันนี้ต้องมุดเข้าออกลอดใต้กำแพงทางที่หมาเข้า ขณะที่ญาติพี่น้องที่ดินแปลงติดกัน บอกว่าอนุญาตให้เข้าออกได้เฉพาะในเวลาจำเป็น

โดยมีตา-ยาย คู่หนึ่งร้องมายังเพจ โหนกระแส พร้อมระบุข้อความว่า ตายายคู่หนึ่งต้องมุดลอดกำแพง เป็นช่องเล็กๆเวลาเข้าออกบ้านของตนเอง บ้านอยู่ในที่ดินตาบอด

ล่าสุดทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์คุณนฤชา กมุทโยธิน ลงพื้นที่ไป หาตายายคู่นี้ ซึ่งบ้านอยู่ในที่ดินตาบอดบนถนนบางบอน 5 ซอย 7 เขตบางบอน กทม. โดยรอบๆเป็นที่ดินของบุคคลอื่นซึ่งการจะเดินเข้าไปหาตายาย ต้องลัดเลาะตามแนวกำแพงที่ดินแปลงข้างๆ ไปจนสุดทางระยะทางประมาณ 200-300 เมตร จากนั้นจะพบรูเล็กๆใต้กำแพง พอทีมข่าวมุดลอดเข้าไป พบบ้านของตายายเป็นลักษณะเพิงเล็กๆอยู่ด้านใน เนื้อที่ประมาณ 1 ไร่

จากการสอบถาม ยายแอ๋ว อายุ 65 ปี เจ้าของบ้านที่ดินตาบอด บอกว่า ที่ผ่านมาที่ดินผืนนี้เป็นที่ดินมรดกตกทอดจากรุ่นตายาย ซึ่งโดยรอบบ้านมีเนื้อที่ทั้งหมด 22 ไร่ 2 งาน 42 ตารางวา ต่อมามีการแบ่งให้ลูกๆทุกคน จากนั้นก็มีการขายต่อกันเรื่อยมา ซึ่งแม่ของยายแอ๋ว ได้รับส่วนแบ่งทั้งหมด 6 ไร่ แต่จากนั้นมีการนำที่ไปขายฝาก 5 ไร่ ต่อมาไม่มีเงินส่งที่จึงถูกยึดทำให้เหลือออยู่ 1 ไร่ ที่ใช้เป็นที่พักอาศัย

ส่วนที่ดินบริเวณด้านหน้า ก็ถูกขายต่อมาเรื่อยๆซึ่งตอนนี้ก็ถูกแปรสภาพเป็นที่ดินของคนอื่น ซึ่งให้เช่าทำสวน ทำให้ปิดทางเข้าบริเวณด้านหน้า ส่วนด้านข้างก็เป็นที่ของโรงงานแป้งมัน โดยมีการทำรั้วปิดไว้ เวลาเข้าออกจึงต้องใช้การมุดรั้วกำแพงปูน ที่หมาขุดไว้

ยายแอ๋วบอกว่า ถ้าไม่ได้หมามาขุด คงไม่มีทางเข้าออก และยังตัดพ้อชีวิตอีกว่าที่ผ่านมาลำบากมาตลอดชีวิต จนถึงตอนนี้ยังต้องลำบากไม่มีทางเข้าออกบ้านอีก

ที่ผ่านมาเคยมีเรื่องฟ้องร้องกับที่ดินแปลงติดกัน โดยยายแอ๋วบอกว่าจะขอพี่เป็นทางเข้าออกประมาณ 1 เมตรครึ่ง แต่ทนายฝั่งยายบอก ขอไปก่อน 3 เมตร ซึ่งกฎหมายให้ได้ไม่ถึงขนาดนั้นทำให้ฝังยายกับตาแพ้คดี

ขณะที่ นายสมุทร ขวัญเต่า อายุ 59 ลูกพี่ ลูกน้องยายแอ๋ว ซึ่งมีแปลงที่ดินอยู่ติดกัน เปิดเป็นอู่ซ่อมรถทัวร์ บอกว่าหลังเป็นประเด็นในโลกโซเชียลตัวเองถูกทัวร์ลงหนัก หาว่าเป็นคนใจจืด ใจดำกับญาติพี่น้อง นายสมุทรฝากถึงชาวเน็ต บอกว่าไม่ต้องเอาทัวร์มาลงแล้วแค่ลำพังที่อู่รถทัวร์มาให้ซ่อมก็เยอะพอแล้ว

พร้อมเล่าว่า ที่ดินของตัวเองด้านหลังบ้านสามารถให้ยายแอ๋วเดินผ่านเข้าออกได้ แต่เฉพาะในกรณีฉุกเฉิน หากเดินเข้าออกทุกวันตลอดเวลาหรือไปจนชั่วลูกชั่วหลาน ตนเองก็ขอความเห็นใจด้วย เพราะว่าถ้าจะเดินผ่านคือต้องผ่านตัวบ้านตนเองเลย หากมีของหายใครจะรับผิดชอบ

ขณะที่ นายเกรียงศักดิ์ อายุ 61 ปี เป็นผู้เช่าที่ดินและเป็นผู้ดูแลที่ดินพิพาท ที่ฟ้องร้องกับยายแอ๋ว บอกว่า ที่ผ่านมาเคยมีการเจรจาขอซื้อที่ดินจากยายแอ๋ว ซึ่งกรมที่ดินได้เข้ามาประเมินราคาแล้ว มีราคา 2 ล้าน 4 แสนบาท แต่ยายแอ๋ว ตั้งราคาขายไว้ 3 ล้านบาท เจ้าของที่เลยไม่ซื้อเพราะตั้งราคาสูงกว่าที่ประเมินไว้

ต่อมาตนมาเช่าทำสวนเรื่อยมาจนกระทั่งเขามากั้นกำแพงเขาก็เลยฟ้องทางนี้ ซึ่งก่อนที่จะกั้นกำแพงในปีพ.ศ.2535 เขาเดินผ่าศูนย์กลางในจุดที่ไปมุดรู พอทีนี้เขามาฟ้องตนในกรณีว่าเขาเดินออกไม่ได้ เขาจะเดินเข้าออกทางนี้ โดยทางเดินทางนี้ตนเองก็ให้แล้ว 1 เมตรเขาก็ไม่เอา ยายแอ๋วจะเอา 3 เมตร ยายแอ๋วจึงไปฟ้องศาล โดยบอกกับตนเองว่าไปเจอกันที่ศาล แล้วเขาจะฟ้องเอาจากฝั่งนู้นอีก 3 เมตร ซึ่งทางเจ้าของที่ดิน เขาบอกว่าให้เดินไม่ได้ ที่ผ่านมาตนเองก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเขาลอดรูออกมา เพิ่งจะมารู้ก็วันนี้

https://youtu.be/1gwPkZJCe60