ก.เกษตรฯ นำทีมตรวจสอบแปลงพิพาท 'บ้านเหวปลากั้ง' พบพิรุธหลายจุด ส่อออกมิชอบ

ความคืบหน้า กรณีออก ส.ป.ก.4-01 ในเเปลงที่ดินพิพาทบ้านเหวปลากั้ง ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา วันนี้ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมตำรวจ ป.ป.ป เจ้าหน้าที่ป.ป.ท. เเละหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบรายละเอียดการถือครองที่ดินของผู้ที่ได้รับสิทธิ์จำนวน 5 ราย โดยวันนี้มีผู้ได้รับสิทธิ์ 2 รายเข้ามาเเสดงตัวเเละ ยืนยันว่า เป็นเกษตรกรตัวจริงเเละไม่ได้เป็นนอมินีของนายทุน เเต่ก็ยอมรับว่า ตอนที่ไปเซ็นชื่อที่ส.ป.ก.นครราชสีมา ไม่ได้ตรวจดูรายละเอียด



ช่วงเช้าวันนี้ นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษา ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุมรภูมิ ไทยเขียว รองผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. / ป.ป.ท. เเละเจ้าหน้าที่อุทยานเเห่งชาติเขาใหญ่ ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดพิพาท ส.ป.ก. บริเวณบ้านเหวปลากั้ง หมู่ 10 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ที่มีข้อพิพาทการจัดสรรที่ดินของรัฐ ซึ่งที่ผ่านมามีชาวบ้านนำรถไถและรถแบ็คโฮเข้าไปปรับสภาพพื้นที่ จนถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เข้าจับกุมจำนวน 5 ราย



โดยประชาชนที่ถูกจับกุม ได้นำเอกสาร ส.ป.ก.4-01 ของสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมมาอ้าง และต่อมา นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืช ร่วมกับนายชัยยา ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นำหมายศาลไปตรวจยึดรถแบ็คโฮ 1 คัน และรถไถ 1 คัน เป็นของกลาง และต่อมา นายชัยวัฒน์ ถูกรองเลขาฯส.ป.ก.เข้าแจ้งความดำเนินคดี กรณีไปถอนหลักหมุด ส.ป.ก.4-01 ซึ่งพบว่าในจุดนี้มีการออกเอกสาร ส.ป.ก.ไปแล้วรวม 12 แปลง



ขณะที่ นายธนดล ระบุว่า การออกเอกสารสิทธิ์ผิดระเบียบ ซึ่งพบว่าการทำเอกสารมีรอยลบคำผิด และอาจเป็นการลงข้อมูลเท็จ ในขณะที่เกษตรกรยืนยันว่า ไม่ใช่นอมินีของนายทุน แต่ยอมรับว่าเดินทางไปเซ็นเอกสารที่สำนักงาน ส.ป.ก.นครราชสีมา ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ แต่ไม่ได้อ่านดูรายละเอียดระบุในเอกสารที่ให้เซ็นว่าอย่างไร



โดยเกษตรกรที่มาพบ 2 รายวันนี้ ระบุว่า เคยทำกินในพื้นที่ป่าเขาใหญ่มาก่อน แก้ไขจากคำว่าไม่เคยทำกิน เป็นเคยมีการทำการเกษตร ไร่มันสำปะหลัง ซึ่งไม่ตรงกับสภาพความเป็นจริง การออกเอกสารสิทธิ์ถือว่าผิดระเบียบ และอาจเป็นการลงข้อมูลเท็จ ที่จะนำไปสู่การตรวจสอบการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจจะเข้าข่ายความผิดวินัยร้ายเเรง



ส่วนเกษตรกรอีกราย ที่ได้รับจัดสรรสิทธิ์ 2 แปลง เเบ่งเป็นแปลงแรก จำนวน 38 ไร่ แปลงที่สอง 11 ไร่ ยืนยันว่า ไม่ทราบว่ามีการแก้ไขเอกสาร และเซ็นชื่อต่อหน้าเจ้าหน้าที่ ขณะที่เอกสารยังไม่กรอกรายละเอียดไม่ครบ และก็ยืนยันเช่นกันว่าเป็นเกษตรกรที่เคยทำกินบริเวณนี้จริง



พ.ต.อ.สุมรภูมิ ไทยเขียว รอง ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ และ พ.ต.ท.สราวุธ คำเหลือง ผู้อำนวยการกองอำนวยการต่อต้านการทุจริตในภาครัฐ สำนักงาน ป.ป.ท. ได้เก็บหลักฐานและสอบปากคำเกษตรกร ที่ได้รับการจัดสรรที่ดินบริเวณบ้านเหวปลากั้ง รวมทั้งพยานเพื่อตรวจสอบการจัดสรรที่ดินของ ส.ป.ก.นครราชสีมา ว่าเป็นไปตามระเบียบและถูกต้องหรือไม่ หลังมีการร้องเรียนว่าเจ้าหน้าที่ 6 คน ที่เกี่ยวข้องกับการออกเอกสารสิทธิ์ ดำเนินการผิดระเบียบ



จากนั้นในช่วงเวลาประมาณ 13.30 น.คณะเจ้าหน้าที่ได้เดินทางลงพื้นที่จุดที่ 2 บริเวณจุดปักหลักหมุด"เขาวังหิน" ที่ตรวจพบหลักหมุด ส.ป.ก. 5 หมุด ทั้ง 2 ฝั่งลำน้ำลำตะคอง โดยจัดแปลงไว้ทั้งหมด 8 แปลง 29 ไร่ ในพื้นที่ป่าไม้ธรรมชาติเเละภูเขาสูงชัน ที่เป็นจิ๊กซอว์จากการขยายผลกลุ่มทุนรายใหญ่ เข้าไปบุกรุกในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่ก่อนหน้านี้เคยมีเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน รวมทั้งนายอภิชาต ศิริสุนทร ประธานคณะกรรมาธิการการที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร์ พร้อมคณะกรรมาธิการ เข้าตรวจสอบพื้นที่ไปแล้ว



หลังจากนั้น นายธนดล ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยบอกว่าวันนี้ได้รับมอบหมายจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ลงพื้นที่ โดยสั่งการให้เอาจริง ไม่มีนโยบายเอื้ออะไรกับกลุ่มใด ถ้าทำผิดก็ดำเนินคดี วันนี้จึงร่วมกับเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย ลงมาตรวจสอบจุดพิพาท เพื่อประเมินว่าพื้นที่ดังกล่าว สมควรจัดให้ทำเกษตรกรรมได้หรือไม่



และจุดที่ 2 ที่เขาวังหิน นอกเขตอุทยานฯ เป็นพื้นที่ภูเขาสูงชันของกรมป่าไม้ นายธนดล บอกว่า ทั้ง 2 พื้นที่ออกเอกสาร ส.ป.ก.ไม่ได้ เนื่องจากพื้นที่เป็นป่าสมบูรณ์และเป็นภูเขาสูงชัน ไม่เคยทำกินมาก่อน ทำได้ก็คือทำโรงแรม รีสอร์ท และมีมูลค่ามหาศาล พรุ่งนี้จะนำเรื่องเข้าที่ประชุมให้ทุกจังหวัดทั้ง 72 จังหวัด ให้เกษตรกรผู้ที่ลงชื่อมาชี้ว่าใครเป็นเกษตรกร ใครเป็นนายทุน เเละอีกไม่นานจะกระชากหน้ากากไอ้โม้ง ที่หวังฮุบพื้นที่มาให้ดูหน้า ส่วนเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.หากการสอบสวนผลออกมาว่ากระทำผิด ก็ต้องว่ากันตามกฎหมาย