สังคม

ยังไร้เงา เจ้าของโกดังพลุระเบิด เหยื่อจี้รับผิดชอบ โทรตามลั่น "ช่างมัน ให้มันระเบิดไป"

โดย paweena_c

1 ส.ค. 2566

306 views

ยังไร้เงาเจ้าของโกดังเข้าพบตำรวจ หลังนัดมอบตัวเช้าวันนี้ ด้านชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบเรียกร้องเจ้าของโกดัง รีบกลับมารับผิดชอบ อย่ามัวแต่หลบหน้า แฉเพื่อนโทรไปตาม กลับเจอคำตอบ "ช่างมัน ให้มันระเบิดไป" ล่าสุดเปิดภาพเมียเจ้าของโกดัง โพสต์ภาพอาหารมื้อแรกขณะไปเที่ยวมาเลเซีย

กรณีโกดังเก็บพลุ ในตลาดมูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ระเบิด เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 29 กรกฎาคม ที่ผ่านมา สาเหตุเบื้องต้นเกิดจากช่างเชื่อมโลหะ ต่อเติมชั้นวางของในโกดัง แล้วเกิดสะเก็ดไฟกระเด็นไปถูกพลุ ที่เก็บไว้กว่า 2 คันรถสิบล้อ จนเกิดระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว รัศมีทำลายล้างกว่า 500 เมตร มีผู้เสียชีวิต 12 คน บาดเจ็บ 130 คน บ้านเรือนเสียหายเกือบ 300 หลังคาเรือน

ซึ่งที่จุดเกิดเหตุนอกจากซากปรักหักพังของบ้านเรือนประชาชน ยังพบหลุมขนาดใหญ่ ลึก 2 เมตร 2 หลุม ในหลุมมีดินประสิว ดินดำ จำนวนมาก มีปริมาณมากถึง 5 ตัน หรือ 5,000 กิโลกรัม เทียบได้กับ 2-3 คันรถสิบล้อ โดยชาวบ้านในพื้นที่ให้ข้อมูลว่า เจ้าของเพิ่งลำเลียงพลุมาเก็บที่โกดัง 2 วันก่อนเกิดเหตุ

สอดคล้องกับคลิปจากติ๊กต่อก ที่คนในพื้นที่โพสต์ จี้ถามความรับผิดชอบจากเจ้าของโกดัง ในภาพเป็นเมียเจ้าของร้านถ่ายคลิปโชว์พลุจำนวนมาก ที่เก็บไว้ในโกดัง โดยบอกว่า มีพลุพร้อมส่ง ซึ่งเป็นภาพก่อนเกิดเหตุไม่กี่วัน พร้อมระบุว่า "เจ้าของโกดังรีวิวก่อนจะระเบิด #แล้วใครจะรับผิดชอบ"

โดยโกดังที่ระเบิด มีการขออนุญาตก่อสร้างเป็นโกดังเก็บสินค้า ของร้านค้า ชื่อ ร้านวิรวัฒน์ภาณิช จดทะเบียนชื่อของ น.ส.ปิยะนุช ซึ่งเป็นภรรยาของนายสมปอง เจ้าของร้าน โดยขายสินค้าการเกษตร ของใช้ในครัวเรือน แต่มีการขายประทัดและดอกไม้ไฟด้วย ซึ่งตอนขออนุญาต ไม่ได้ระบุว่า จะเก็บสินค้าประเภทพลุ ประทัด โดยเมื่อ 2559 เจ้าของโกดัง เคยถูกเกี่ยวกับการครอบครองดอกไฟไม้ ซึ่งสามารถตรวจยึดของกลางได้มากถึง 6 ตัน

เมื่อวานนี้ พลตำรวจโท นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุโกดังระเบิด หลังได้รับรายงานจากชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด และกองพิสูจน์หลักฐาน ที่มาลงพื้นที่เก็บหลักฐาน และมีการคำนวนตรวจพิสูจน์จากความรุนแรงของการระเบิด ตีคร่าว ๆ ว่า เป็นความรุนแรงของระเบิด น้ำหนักมากกว่า 1,000 กิโลกรัมขึ้นไป โดยคาดว่า น่าจะเก็บดอกไม้ไฟไว้ประมาณ 3-5 ตัน

จากนั้นได้เข้าตรวจสอบบ้านเจ้าของโกดังอีกหลัง ซึ่งเป็นตึกแถว 2 ชั้น 3 คูหา ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับตึกแถว 4 คูหาที่ตรวจเมื่อวันก่อน โดยพบดอกไม้ไฟ ซึ่งเป็นชนิดลูกบอล 180 กระสอบ และดอกไม้ไฟชนิดต่าง ๆ อีก 22 ลัง มีน้ำหนักรวมกันประมาณ 900 กิโลกรัม เมื่อรวมกับที่ตรวจยึดได้ก่อนหน้านี้อีก 1,000 กิโลกรัม รวมเป็น 1,900 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนย้ายไปเก็บที่ค่ายกัลยานิวัฒนา เพื่อรอตรวจสอบต่อไป ขณะที่เจ้าของโกดัง นัดเข้าพบตำรวจวันนี้

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวไปติดตามความคืบหน้าในพื้นที่ ยังไม่พบว่า เจ้าของโกดังมาพบตำรวจตามนัด ขณะที่นายสุวรรณ เชิญชมพู อายุ 56 ปี ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ เผยว่า อาศัยอยู่ที่นี่ตั้งแต่เกิด ไม่เคยเจอโศกนาฏกรรมแบบนี้ ที่บ้านอาศัยอยู่ด้วยกัน 4 คน มีพี่สาว และหลานอีก 2 คน วันเกิดเหตุตนนอนอยู่ข้างในบ้าน อยู่ดี ๆ ได้ยินเสียงดัง ตู้ม แล้วหลังคาบ้านก็พังลงมาหมด ทำให้หลานที่นอนอยู่ในบ้านได้รับบาดเจ็บ

ที่ผ่านมาก็รู้ว่าโกดังแห่งนี้เก็บดอกไม้ไฟ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้พูดอะไรไม่ได้ ไม่มีใครสามารถไปคัดค้านเขาได้ พอเกิดเรื่อง ก็อยากให้เขารีบกลับมารับผิดชอบเรื่องบ้าน มาชดใช้ค่าเสียหาย อยากให้มาเร็ว ๆ ด้วย ไม่ใช่หายเงียบไปแบบนี้ ที่ช้ำกว่านั้น หลังเกิดเหตุ ได้ยินเพื่อนโทรไปหาเจ้าของโรงงาน บอกว่า โรงงานระเบิดแต่ได้คำตอบว่า "ช่างมัน ให้มันระเบิดไป"

ด้านนายอักมัล ดอเลาะ หนึ่งในผู้เสียหาย ที่สูญเสียคนในครอบครัวไป 5 ชีวิต รวมภรรยาและลูก เผยว่า ที่ผ่านมาไม่รู้ว่าเพื่อนบ้านที่เปิดโกดังใหญ่ มีการเก็บพลุไฟไว้มากขนาดนี้ จึงอยากให้มาแสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคนทั้งหมู่บ้าน

ขณะที่โลกออนไลน์ ได้โพสต์ภาพ 2 ผัวเมีย เจ้าของโกดัง พร้อมระบุว่า บุคคลที่ชาวมูโนะ อยากเจอมากที่สุด นอกจากนี้ยังมีภาพที่ 2 ผัวเมีย พาครอบครัวไปเที่ยว โดยมีชาวเน็ตเข้าไปคอมเมนต์ เรียกร้องให้กลับมารับผิดชอบ พร้อมถามหาจิตสำนึกว่า เก็บของอันตรายไว้กลางชุมชนได้อย่างไร อำนาจเงินทำได้ทุกอย่างจริง ๆ ทำคนตายขนาดนี้ยังกล้าไปเที่ยวอีกหรือ จิตใจทำด้วยอะไร

ล่าสุด ทีมข่าวได้ภาพที่เมียเจ้าของโกดังโพสต์ ซึ่งเป็นช่วงใกล้เคียงกับเหตุโกดังระเบิด เป็นอาหาร เช็คอินที่รัฐเปรัก ประเทศมาเลเซีย พร้อมข้อความ มื้อแรกที่อีโปร์.

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/28QEmzqFlk0

คุณอาจสนใจ

Related News