สังคม

แม่ผัวโวย ลูกสะใภ้กีดกันไม่ให้เจอลูกชาย เชื่อโดนคุณไสยมนต์ดำ ลูกชายโต้กลับแม่ดูละครมากไป

โดย paweena_c

4 ก.ค. 2566

245 views

คุณแม่ร้องสื่อ ถูกลูกสะใภ้กีดกัน ไม่ให้เจอหน้าลูกชาย เชื่อลูกชายถูกคุณไสยมนต์ดำ เพราะก่อนหน้านี้เคยเอาผ้าถุงคลุมหัวให้ลูกชายและมีอาการตาขวางตาเขียวใส่ ด้านลูกชายและแฟนสาว โต้กลับที่แม่พูดไม่เป็นความจริง เหมือนดูละครมากไป

ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์คุณนฤชา กมุทโยธิน เดินทางไปพูดคุยกับนางโอ๋ อายุ 62 ปี โดยนางโอ๋ เปิดเผยถึงเรื่องราวชีวิตสุดเศร้าของตัวเองที่อยากเจอหน้าลูกชาย คือนายวุฒิ หลังไปอยู่กินกับ นางสาวมะลิ แล้วทิ้งแม่ไป โดยไม่เหลียวแล นานกว่า 4 ปี

แม้กระทั่ง โทรศัพท์มือถือก็บล็อคเบอร์แม่ ย้ายที่อยู่อาศัยไม่ให้ แม่ได้รับรู้ จนทุกวันนี้ นางโอ๋ กินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะคิดถึงแต่ลูกชายเพียงคนเดียวที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่แบเบาะจน ส่งเสียเล่าเรียนจนจบชั้น ปวส.

นางโอ๋ เล่าอีกว่า ตนเองมีลูก 2 คนคนโตผู้หญิง ส่วนคนเล็กผู้ชาย ซึ่งสามีเสียชีวิตด้วยโรคเบาหวาน เมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา หลังจากนั้น ก็ใช้ชีวิตกัน 3 คนแม่ลูก นางโอ๋เลี้ยงดูลูกมาอย่างดี และมีความผูกพันกับลูกชายคนนี้มาก เมื่อก่อนทุกครั้งที่เขากลับจากเรียนหนังสือ เขาก็จะมาหอมแก้มกอดแม่ตลอดเวลา

ต่อมาลูกชายก็มารู้จักกับนางสาวมะลิ และคบหาเป็นแฟนกันนั้น ลูกชายเคยพาแฟนสาวมาอาศัยอยู่ที่บ้านตนนานถึง 3 ปี ตลอดเวลาตนก็รักแฟนลูกชายคนนี้เหมือนที่ลูกชายรัก บางครั้งลูกชายทะเลาะกับแฟนสาวตนยังเข้าข้างแฟนสาวของลูกชายเลย มาระยะหลังๆตนรู้สึกว่า ลูกชายมีอาการเหม่อลอย และหลงใหลในตัวแฟนสาวคนนี้มาก

ญาติพี่น้องของตนจึงเอารูปลูกชายและแฟนสาว ไปให้พระอาจารย์ชื่อดังใน จังหวัดนนทบุรี ดู เมื่อพระอาจารย์เห็นรูปลูกชายกับแฟนสาว ก็บอกว่า ลูกชายโดนมนต์เสน่ห์อย่างแน่นอน

จนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่ง นางโอ๋ ได้เอาผ้าถุง คลุมหัวลูกชาย ปรากฏว่า ลูกชายทำตาเขียวใส่แล้วตะคอกว่า "อย่ามาทำแบบนี้นะ คิดว่าโดนของหรอ" แล้วจู่ๆเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 65 ทั้งสองคนก็ได้หอบเสื้อผ้าออกจากบ้านไป โดยไปเช่าบ้านอยู่แถววัดสวนแก้ว ตนเองก็รู้สึกเสียใจมาก เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด รักทั้งสองคนไม่น้อยไปกว่ากัน หลังจากตนเองทราบว่าทั้งสองคนไปเช่าบ้านอยู่ ตนเองจึงได้ชวนญาติไปหาลูกชาย

แต่เมื่อไปถึงทางแฟนลูกชายและแม่ของเขาก็กีดกัน ไม่ยอมให้ลูกชายของตนออกมาพบหน้า ให้แค่เพียงตนยืนคุยกับลูกชายผ่านรั้วประตูบ้านเท่านั้นตนได้แต่ร้องไห้คร่ำครวญ ขอให้ลูกชายออกมาข้างนอกเพื่อจะขอกอดให้หายคิดถึง แต่ก็ไม่ได้รับอนุญาตจากแฟนสาวของเขา

ตนจึงเปิดประตูเข้าบ้านไป เขาก็ตะโกนไม่ให้เข้ามา ก่อนจะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเอาตัวตนออกไป และแจ้งข้อหาบุกรุก โชคดีที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เอาเรื่อง

นางโอ๋ บอกว่า ขอให้ลูกชายเปลี่ยนชื่อ - นามสกุล เปลี่ยนชื่อเล่น และนำทรัพย์สินเงินทองมาคืนด้วย มี ทอง 2 บาท , นาฬิกา 1 เรือน , หลวงพ่อแป๊ะยิ้ม , รูปถ่ายพ่อแม่ และเงินฝากในธนาคารที่บัญชีเป็นชื่อลูกชาย ที่แม่จะฝากไว้ให้ทุกเดือนเตรียมที่จะเซอร์ไพรส์ลูก แต่มาเกิดเหตุการณ์แบบนี้แม่จึงขอคืน ส่วนรถมอเตอร์ไซค์ ที่แม่และ ญาติพี่น้องของแม่ซื้อให้ ยกให้ลูกชายไม่เอาคืน

ขณะที่นายอั๋น ลูกชาย และนางสาวมะลิ แฟนของลูกชาย เปิดเผยถึงสาเหตุที่ต้องออกจากบ้านมาพร้อมกับแฟนสาว ว่า

ตัวเองคบหาเป็นแฟนกับนางสาวมะลิ ตั้งแต่สมัยเรียน ปวช. แล้วพามาอยู่ด้วยที่บ้านแม่ ซึ่งมีป้า , น้าสาว และพี่สาวอยู่ด้วย ช่วงแรกๆ อยู่ด้วยกันก็ยังไม่มีปัญหาอะไรกระทั่งทั้งคู่เรียนจบ

นายอั๋นรู้สึกว่า ที่บ้านไม่มีใครชอบ มะลิ ทำอะไรก็ไม่ถูกใจ เหมือนโดนจ้องจับผิด ตอนนั้น อั๋น ก็ทำงานขับแกร๊ป หาเงินมาช่วยค่าน้ำค่าไฟ ส่วน มะลิ ก็ทำงานเหมือนกัน แต่มีภาระต้องส่งเงินให้ทางบ้าน แต่ทางแม่ฝ่ายชายก็ไม่พอใจ อยากให้แฟนลูกชาย ช่วยแบ่งเบาภาระที่บ้านหลังนี้ด้วย

จนกระทั่งเริ่มมีปากเสียงทะเลาะกันเรื่อยมาและหนักขึ้น ถึงขั้นเอาผ้าถุงมาคลุมหัวทีเผลอเพราะคิดว่าตนโดนของ ซึ่งตนเอง ก็งงว่าแม่ทำอะไรน่าจะบอกกันดีๆ ตนเองก็ยอมทำให้ สุดท้าย อั๋นจึงตัดสินใจชวนแฟนสาว เก็บเสื้อผ้าออกไปหาห้องเช่าอยู่กันตามลำพังเพื่อตัดปัญหา

แต่แม่ ก็ยังร้องเรียนหน่วยงานต่างๆเพื่อให้ตามหาตัวลูกชาย ไปถึงมูลนิธิกระจกเงา จนเป็นเรื่องราวใหญ่โต ตนจึงคิดว่าแม่อายุเริ่มมากขึ้นมีอาการเลอะเลือนและถูกญาติพี่น้องบงการ เพราะมีบางช่วงแม่พยายามขอให้ตนเองเซ็นเอกสารอะไรบางอย่าง แต่ตนไม่ยอมเซ็นและก็เริ่มมีปัญหากันเรื่อยมา

ทั้งแม่และน้าสาวเคยดูถูกและไล่ตนกับแฟนออกจากบ้านแล้วพูดว่า "ไม่มีกูมึงจะอยู่ได้ไหม" ซึ่งตอนนี้ตนและแฟนสาวก็อยู่ได้แล้ว ยืนยันว่าไม่ได้โกรธ แต่ไม่อยากยุ่ง ยืนยันแม่ก็ยังเป็นแม่ ตัดขาดไม่ได้ สุดท้าย ขอให้แม่และน้าสาว อย่ามายุ่งกับตนอีกเลยต่างคนต่างอยู่ ตนขอจบเพียงเท่านี้ ทรัพย์สินต่าง ๆ ที่แม่อยากได้ จะคืนให้

ด้านมะลิ แฟนสาว บอกว่าช่วงที่ตัวเองไปอยู่บ้านแฟน 3 ปี มักเจอคำพูดด่าทอ ดูถูกสารพัด ซึ่งตนเองไม่เคยเจอคำหยาบคายมาก่อน แม่ของแฟนบอกว่า จะมาสู่ขอเป็นเรื่องเป็นราว ตนเองก็อดทนจนเรียนจบทั้งคู่คิดว่าจะมีอะไรดีๆเกิดขึ้นแต่สุดท้ายก็แย่ลงทุกที เคยถึงขั้นถูกน้าสาวของแฟนกระชาก ลงจากที่นอนและไล่ออกจากบ้าน

วันนี้ครอบครัวของแฟนกล่าวหาตนมากเกินไป เหมือนว่า จะดูละครมากไป ยืนยันว่าไม่คิด จะทำคุณไสย อย่างแน่นอน ตั้งแต่ตนกับแฟนย้ายออกมาจากบ้านมา มีแต่คนบอกว่าแฟนตนดูดีขึ้น โตขึ้น ตนกับแฟนมีความตั้งใจจะสร้างครอบครัว ด้วยกัน

มะลิ กล่าวอีกว่า ที่แม่แฟนให้สัมภาษณ์นั้นไม่ใช่ความจริง คำพูดกับการกระทำมันสวนทางกันเกิดไป



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Ui7uWSKxXQ4


คุณอาจสนใจ

Related News