สังคม
พบเบาะแส 5 ชีวิตสูญหาย วงจรปิดจับภาพ ‘แบงค์’ พากบดานย่านลาดพร้าว ตร.ลงพื้นที่แต่ยังไม่เจอตัว
โดย paweena_c
30 มิ.ย. 2566
704 views
พบเบาะแส 5 ชีวิตสูญหาย พบแวะปั้มน้ำมันที่เชียงราย ภาพวงจรปิดที่ปั๊มน้ำมันจับภาพ ฟ้าใสกับรุ้งเข้าไปหยิบมือถือของนักท่องเที่ยวจีนที่ลืมไว้ในห้องน้ำ ทำให้ตำรวจตามจับ นาย นพดล ตามหมายจับค้างเก่าได้
ภาพเหตุการณ์ช่วง 4 โมงเย็นของวันที่ 8 พฤษภาคม ทั้ง 5 คน และนายแบงก์ นั่งรถตู้ทะเบียน นข 8797 อุดรธานี ซึ่งมีนายนพดล เป็นคนขับ มาแวะที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.ในอำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย หลังทั้งหมดเพิ่งเดินทางไปเที่ยวที่อำเภอแม่สายมา
โดยฟ้าใส (เสื้อฟ้า) และรุ้ง (เสื้อเขียว) มาเข้าห้องน้ำ โดยฟ้าใสเข้าไปแล้วพบโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่องถูกวางลืมทิ้งไว้ จึงเรียกให้ "รุ้ง" เข้ามาดู แล้วรุ้งก็เป็นคนหยิบมือถือออกไป
จากนั้นวันที่ 9 พฤษภาคม มีนักท่องเที่ยวหญิงชาวจีนมาแจ้งความที่ สภ.แม่สรวย ว่ามือถือหายและมีข้อมูลสำคัญ ตำรวจจึงตรวจสอบกล้องวงจรปิด และตามตัวทั้ง 5 คน ที่นั่งรถตู้ไปให้เอามือถือมาคืน ซึ่งตอนนั้นทั้งหมดอยู่ในพื้นที่ของ สภ.แม่ใจ จังหวัดพะเยา จึงนำโทรศัพท์ไปคืนให้ที่ สภ.แม่ใจ
แต่เมื่อตำรวจตรวจสอบข้อมูลพบว่า นาย นพดล คนขับรถตู้ มีหมายจับค้างเก่า เมื่อเดือนพฤษภาคม 2565 คดีฉ้อโกงธนาคารแห่งหนึ่ง ในจังหวัดอุดรธานี จึงอายัดตัวและแจ้งข้อหาทันที ซึ่งคดีนี้นายแบงก์ และนางสาว บังอร (คนที่แนะนำแบงก์ รู้จักกับบีม) ก็เป็นผู้ต้องหาด้วย แต่ตำรวจไม่ได้จับนายแบงก์ เพราะตรวจสอบแต่คนขับ ส่วนเรื่องมือถือสาวจีนไม่ได้ติดใจ พอได้ข้อมูลที่ต้องการก็บินกลับประเทศทันที
ทีมข่าวได้โทรศัพท์คุยกับนาย นพดล คนขับรถตู้ บอกว่า รู้จักกับนายแบงก์มานานแล้ว ต่อมาได้ว่าจ้างให้เขาขับรถตู้เพื่อไปหาพื้นที่เปิดปั๊มน้ำมัน ในจังหวัดนครศรีธรรมราช จนได้เจอกับได้เจอกับนางสาวชนนิกานต์ หรือ บีม ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช จากนั้นตัวเองไม่ทราบว่า แบงค์คบหากับบีมตอนไหน มารู้อีกทีคือแบงค์บอกว่าให้ไปรับบีมและน้องๆ รวมถึงนางอุษา ที่บ้าน
ซึ่งตัวเอง ไปที่บ้านของ นางอุษา ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมีนาคม ตามที่ปรากฎในกล้องวงจรปิดที่บันทึกได้ แต่ละวันทั้งหมดก็ใช้ชีวิตปกติ เช้าไปรับออกมากินข้าว เย็นกลับไปส่งที่บ้าน จนกระทั่งช่วงเดือนเมษายน 2566 ตัวเองจำวันที่ไม่ได้ แบงค์ให้มารับ นางอุษาและบีมรวมถึงเด็กๆที่บ้านตามเดิม
จากนั้นพามาเที่ยวทะเลบางแสน ก่อนจะขึ้นไปที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งจะขับบอกเล่าของนายนพดลสอดคล้องกับกล้องวงจรปิดในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในอำเภอแม่สรวยจังหวัดเชียงราย บันทึกภาพไว้ได้ขณะที่น้องฟ้าใส(เสื้อฟ้า) กับ รุ้ง(เสื้อเขียว) เดินลงจากรถมาเข้าห้องน้ำ ซึ่งตั้งแต่ออกจากบ้านที่อำเภอท่าศาลา แวะมาใช้ชีวิตเที่ยวเล่น นายแบงค์ได้บอกให้ทั้งหมดนำโทรศัพท์มือถือไปขายนำเงินมาใช้จ่ายในแต่ละวัน ทำให้ไม่สามารถติดต่อกับครอบครัวได้
หลังจากนั้นนายนพดลบอกว่า ทั้งหมดก็เที่ยวอยู่ที่จังหวัดเชียงราย จนถึงช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แม่ของนายนพดล เสีย นายนพดลจึงขอตัว กลับมางานศพแม่และทิ้งรถไว้ให้นายแบงค์กับทั้ง 5 คนใช้ และนายนพดล ก็แยก กับนายแบงค์ และน้าหลานทั้ง 5 คนตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม
จนกระทั่งตัวเองถูกตำรวจ จับกุมตัวได้ที่บ้านเกิดในจังหวัดพะเยาช่วงต้นเดือนมิถุนายน และได้ให้การกับตำรวจ ตามข้อเท็จจริงไปหมดแล้ว ยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองว่า ไม่รู้เห็นหรือเกี่ยวข้อง หากนายแบงค์พาทั้ง 5 คนไปทำอะไรที่ผิดกฎหมาย
ล่าสุดภาพวงจรปิด พบ 5 คน ที่แมนชั่นแห่งหนึ่ง ย่านลาดพร้าว ขณะเมื่อวานนี้ ตำรวจลงพื้นที่ตามไปไม่เจอทั้ง 5 คนแล้ว
ภาพจากกล้องวงจรปิด พบ 5 คน เข้าพักที่แมนชั่นแห่งหนึ่งในซอยลาดพร้าว และออกจากแมนชั่นแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. เวลาประมาณ 11.50 น.
จะเห็นน้องฟอร์ดเด็กชายวัย 13 ปี และน้องฟ้าใส เดินออกจากอพาร์ทเม้นท์ ไปยังลานจอดรถ ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
สักพักก็จะเห็นนางอุษาและน้องบีมเดินมาคู่กัน จากนั้นทั้งหมดก็เดินกลับเข้าไปยังลานจอดรถซึ่งในภาพกล้องวงจรปิด มีบุคคลเสื้อแดงเพิ่มขึ้นมาอีก 1 คนสอบถามจากทางญาติทราบว่าชื่อ ญาสุมินทร์ (รุ้ง)เป็นเพื่อนของบีม
หลังจากได้เบาะแสเพิ่มเติมทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์คุณนฤชา กมุทโยธิน ลงพื้นที่อพาร์ทเม้นท์ดังกล่าว ภายในซอยลาดพร้าว 130 ซึ่งเจ้าหน้าที่ของอพาร์ทเม้นท์ บอกว่าได้ให้กล้องวงจรปิดทั้งหมดไปกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลาดพร้าว และ ได้ตรวจสอบรายชื่อ นายลมกรด , นายนพดล , นางอุษา , น.ส.ชนนิกานต์ ไม่ปรากฏว่ามีรายชื่อเปิดห้องพักภายในอพาร์ทเม้นท์แห่งนี้ มีความเป็นไปได้ว่า อาจจะเปิดห้องพักในชื่อคนอื่น หรืออาจจะเปิด ห้องเช่าอพาร์ทเม้นท์อื่นและเดินผ่านบริเวณนี้ ซึ่งทางอพาร์ทเม้นท์ ได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปหมดแล้ว
จากการสอบถาม แม่ค้าร้านส้มตำ ในซอยดังกล่าว บอกว่า เคยเห็นน้องบีม พา รุ้ง รวมถึงน้องฟอร์ดและน้องฟ้าใส มากินส้มตำที่ร้านนี้ ประมาณ 3 วันก่อน ซึ่งสังเกตดูทั้งหมดก็ใช้ชีวิตปกติ ไม่ได้มีท่าทีหวาดกลัว หรือ ถูกบังคับ กักขังหน่วงเหนี่ยว แต่ไม่เคยเห็นนายแบงค์มาเดินอยู่แถวนี้
นอกจากนี้ทีมข่าวได้ข้อมูลจากชาวบ้านในพื้นที่อีกว่า ทั้ง 5 คนมาเปิดห้องเช่าที่อพาร์ทเม้นท์ แห่งนี้จริงโดยอาศัยอยู่บริเวณชั้น 2 และใช้ชีวิตปกติเหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วไป จนกระทั่งตำรวจลงพื้นที่เมื่อวานนี้ แต่ไม่พบ ซึ่งนางอุษา เห็นตำรวจ ก็พาเด็กๆทั้ง 3 คน ขึ้นรถกระบะ 2 ตอนสีดำขับออกไปจากลานจอดรถ โดยชาวบ้านไม่เห็นว่าใครเป็นคนขับ
ขณะที่ทีมข่าวของเรา ได้พูดคุยกับแม่ค้าขายน้ำที่อยู่ตรงข้ามแมนชั่น บอกว่า สังเกตเห็นทั้ง 5 คนเข้ามาพักอยู่ที่แมนชั่นแห่งนี้ มาหลายสิบวันแล้ว โดยห้องพักดังกล่าวอยู่ที่ชั้นสองตรงกับร้านน้ำพอดี
โดยแม่ค้าบอกว่า เมื่อวานนี้วันที่ 29 มิถุนายน /ก่อนที่ 5 คนนี้จะเดินทางออกจากแมนชั่น ตนได้สังเกตเห็นชายคนหนึ่งเดินทางมารับหนึ่งใน 5 คน นั่งอยู่ที่ล็อบบี้ของแมนชั่น โดยแม่ค้าได้ถ่ายภาพของกลุ่มคนดังกล่าวไว้เป็นหลักฐานเอาไว้
โดยในภาพจะเห็นเมื่อ 11:53 จะเห็นว่ามีบุคคลลักษณะเป็นผู้ชาย นั่งอยู่บริเวณล็อบบี้ฝั่งขวาด้านหลังป้ายแมนชั่น ลักษณะเหมือนคนหัวล้าน ซึ่งทางแม่ค้ายืนยันว่าเป็นนายแบงค์
ขณะที่ช่วงเที่ยงวันนี้ คณะทำงานจังหวัดนครศรีธรรมราช จะเข้าประชุมร่วมกับบิ๊กโจ๊ก เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีนี้
ตั้งแต่ 9 โมงเช้าที่ผ่านมา คณะทำงานติดตามการหายตัวไปของ 5 คน เข้ามาเตรียมข้อมูลเพื่อประชุมร่วมกับ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่สโมสรตำรวจ หลังพบว่าทั้ง 5 คน และนาย แบงก์ ยังใช้ชีวิตตามปกติ แต่ได้หลบหนีออกนอกพื้นที่ไปแล้ว ซึ่งตำรวจยังคงพบปัญหาเรื่องการติดตามตัว เพราะทั้งหมดไม่มีใครใช้โทรศัพท์มือถือ ทำให้แกะรอยได้ยาก แต่มีรายงานว่านายแบงก์ติดต่อคนใกล้ตัวด้วย และติดตามดูข่าวตลอด ซึ่งทีมสืบสวนเชื่อว่าที่เมื่อวานนาย แบงก์ พาทุกคนหลบหนีออกนอกพื้นที่เพราะเห็นว่าตัวเอง
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/x-6m2t9b6Aw