แม่ติดใจ 'โยโกะ' พริตตี้สาวตายมีเงื่อนงำ พิรุธไซยาไนด์ในเลือด มั่นใจลูกสาวไม่ได้ฆ่าตัวตาย

เปิดภาพวงจรปิด "น้องโยโกะ" ภาพสุดท้ายหลังกลับเข้ามาที่คอนโด ก่อนจะพบเป็นศพเสียชีวิตในห้องพัก แม่ตั้งข้อสงสัยหลังพบพิรุธวันที่พบศพน้อง กล้องวงจรปิดบางช่วงหายไปเป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

จากกรณีการเสียชีวิตของ น้องโยโกะ พริตตี้สาววงการยานยนต์ ที่พบเสียชีวิตในห้องพักคอนโดแห่งหนึ่ง จนมีคนไปพบศพเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ปี 2566 โดยทางครอบครัวได้ส่งศพชันสูตรที่คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ต่อมาผลชันสูตรพบสารไซยาไนด์ ทำให้ญาติติดใจสาเหตุการตาย

ขณะเดียวกันจากการที่ทีมข่าวตรวจสอบยังพบ ความผิดปกติของไทม์ไลม์ วันที่ น้องโยโกะ เสียชีวิต โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดของคอนโดมิเนียม ที่น้องโยโกะอาศัยอยู่ พบว่าวันที่ 30 ตุลาคม เวลา 23.45 น. จับภาพน้องโยโกะ เดินออกจากห้องพักคอนโดฯ ไปข้างนอก โดยมีแฟนหนุ่มมารับไปกินข้าวที่บ้านเพื่อน โดยอยู่งานเลี้ยงกับแฟนหนุ่มจนถึงช่วงเวลาตีสองของวันที่ 31 ตุลาคม

เวลาประมาณ 06.43 น. วันที่ 31 ตุลาคม แฟนหนุ่มมาส่งโยโกะที่คอนโด ภาพกล้องวงจรปิดจับภาพน้องโยโกะเดินขึ้นลิฟท์มาเพียงลำพังโดยมีท่าทีปกติ

จากนั้นเวลา 07.20 น. จับภาพโยโกะเดินออกจากลิฟท์กลับเข้ามาที่ห้องพัก โดยเล่นโทรศัพท์มือถือไปด้วย

กล้องวงจรปิดบริเวณสระว่ายน้ำ ซึ่งเป็นบริเวณหลังห้องของโยโกะจับภาพช่วงเวลาประมาณ 06.38 น. ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่โยโกะจะกลับเข้ามาที่ห้อง พบชายปริศนาคนหนึ่งเดินถือถุงสีฟ้า อยู่ที่บริเวณแถวๆด้านหลังห้อง ซึ่งเป็นสระน้ำ นอกจากนั้นก็ไม่พบความผิดปกติอะไร

กระทั่งเวลาประมาณ 02.48 น. ถึง 03.46 น. ของวันที่ 1 พฤศจิกายน แฟนหนุ่มของน้องโยโกะได้มานั่งรออยู่ที่ล็อบบี้ นานเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง ก่อนที่จะกลับออกไปโดยที่ไม่ได้ขึ้นไปบนห้องของน้อง

และเวลา 20.18 น. วันที่ 1 พฤศจิกายน ลูกพี่ลูกน้องของน้องโยโกะได้มาที่ห้อง หลังได้รับแจ้งจากแฟนหนุ่มของน้องว่า ไม่สามารถติดต่อน้องได้ จึงได้ประสานกับนิติคอนโดเข้ามาตรวจสอบ เมื่อมาดูก็ต้องตกใจเมื่อพบกับน้องเป็นศพก่อนจะเดินออกมาร้องไห้ โทรศัพท์แจ้งครอบครัว

ด้าน แม่นก แม่ของโยโกะ บอกว่า ภาพจากกล้องวงจรปิดมันมีพิรุธ เพราะมีภาพบางช่วง บางตอนขาดหายไป ในช่วงเช้ามืดวันที่ 1 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวัน ที่มีการพบศพของน้อง

โดยภาพวงจรปิดทางเดินเข้าห้องของน้องโยโกะ วันที่ 1 พฤศจิกายน เวลาสุดท้าย ช่วงประมาณเที่ยงคืน แต่อยู่ดีดีภาพก็ขาดหายไปและกระโดดข้ามไปอยู่ในช่วงเวลาประมาณ 02.54 น. หลังจากนั้นจับภาพได้เพียงนาทีเดียวคือถึง 02.55 น. แล้วกระโดดไปที่ 03.48 น.เลย ซึ่งหลังจากนั้นกล้องวงจรปิดก็ดูได้ปกติ

แม่ของน้องโยโกะ บอกอีกว่า มั่นใจลูกสาวไม่ได้คิดสั้นฆ่าตัวตาย นอกจากพิรุธกล้องวงจรปิดที่บางช่วงขาดหายไป ยังพบพิรุธขวดยาไซยาไนท์ ที่พบอยู่ในตู้เซฟ รวมถึงแฟนหนุ่มที่อ้างว่า มีการโทรหาน้องช่วงเช้ามืดวันที่ 1 พฤศจิกายน แต่ไปค้นในประวัติไม่พบว่ามีการโทรหาน้อง แต่นั่งรออยู่เฉยเฉยที่ล็อบบี้เป็นเวลา 1 ชั่วโมงก่อนจะออกไปจากคอนโด และตอนแรกที่โทรศัพท์มาแจ้งญาติ บอกว่าตัวเองไม่สามารถเข้าห้องของน้องได้ให้ญาติมาช่วยดู แต่สุดท้ายพอญาติมาถึงกลับบอกวิธีการเข้าห้องของน้องและจริง ๆ แล้ว แฟนของน้องรู้รหัสและสามารถเปิดเข้าห้องน้องได้

ซึ่งวันที่พบศพน้องโยโกะตนเดินทางมาที่คอนโดด้วยทำให้ได้พบกับแฟนหนุ่มของลูกสาว เมื่อเข้าไปดูในห้องก็พบว่าลูกสาวนอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงนอนในสภาพที่เหมือนนอนหลับไปเฉยเฉย ไม่มีร่องรอยบาดแผลถูกทำร้ายและไม่มีร่องรอยการต่อสู้ภายในห้องดังกล่าว ส่วนมือถือชาร์จวางไว้บนเตียงข้างตัว ส่วนแฟนหนุ่มก็ร้องไห้ระงมทันทีที่เห็นศพ พูดแต่ว่าไม่มีสัญญาณอะไรมาก่อนเลย

หลังจากนั้น แฟนหนุ่มเป็นคนโทรหาตำรวจ สน.คลองตัน และตำรวจเข้ามาที่จุดเกิดเหตุ ซึ่งการตายผิดธรรมชาติ ต้องมี พฐ.มาร่วมตรวจสอบด้วย แต่วันที่เกิดเหตุไม่มีพฐ.เข้ามาตรวจสอบ

จากนั้นตำรวจได้นำแคปซูลยาที่พบในห้องไปตรวจสอบ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต แต่ต่อมาผลการชันสูตรศพก็ออกมาว่าก่อนเสียชีวิตลูกสาวไม่ได้กินยาอะไร มีแค่กาแฟที่อยู่ในกระเพาะเท่านั้น ตนคาใจสาเหตุการตาย จึงขอส่งศพลูกสาวไปชันสูตรซ้ำ ทำให้พบว่ามีสารไซยาไนด์อยู่ในร่างกาย

คุณแม่ บอกว่าจึงร้องขอให้มีการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุซ้ำอีกครั้ง เพื่อเก็บร่องรอยลายนิ้วมือแฝง ในช่วงประมาณกลางเดือนพฤศจิกายน โดยในการเข้าตรวจสอบขณะนั้นก็พบว่า มีขวดไซยาไนด์ ถูกเก็บอยู่ภายในตู้เซฟซึ่งอยู่ข้างเตียง

แม่นก ยังบอกอีกว่า ลูกสาวมีอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้าจริง แต่แค่ในระยะแรก ไม่ได้รุนแรงถึงขั้นจะคิดสั้นฆ่าตัวตายอย่างแน่นอน รวมถึงไม่ได้มีลางบอกเหตุอะไรที่ลูกสาวจะทำแบบนี้ แถมก่อนหน้านี้ก็ยังเคยวางแผนอนาคตกับแม่ว่าจะมารับช่วงดูแลธุรกิจต่อจากแม่ด้วย

แม่เองก็สงสัยว่า ลูกสาวอาจถูกจัดฉากฆาตกรรม หรือไม่ เพราะแม่เองมีหลักฐานบางอย่างที่ยังไม่สามารถจะเปิดเผยได้ รวมไปถึงมีข้อพิรุธหลายอย่างที่ตั้งข้อสงสัยไปถึงคนใกล้ชิดของลูกสาว อีกทั้งถ้าลูกสาวจะคิดสั้นฆ่าตัวตายโดยกินไซยาไนท์จริงแล้วจะเอาไซยาไนด์ไปเก็บไว้ในตู้เซฟทำไม ทำไมไม่พบขวดตั้งอยู่ข้างนอก แต่ไปพบในตู้เซฟ

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/sNfTDjN3Dcw