คาใจ! น้องสาวปวดท้อง รอหมอจนช็อกเสียชีวิตคา รพ. ซ้ำเจอพยาบาลพูดไม่ดี จี้ชี้แจง-ขอขมา

พี่สาวคาใจ ร้องสื่อน้องสาวปวดท้องรอหมอ ช็อกดับคาโรงพยาบาล เจอพยาบาลพูดไม่ดี อยากให้มาขอขมา พร้อมกับชี้แจงว่า หมอทำไมไม่มารักษาให้เร็วกว่านี้

นางสุภาวดี มีแก้ว อายุ 31 ปี พี่สาวของ น.ส.ทิพยวรรณ อายุ 27 ปี ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า น้องสาวมีโรคประจำตัว คือโรค SLE หรือโรคแพ้ภูมิตัวเองลงไต และกล้ามเนื้อขาอ่อนแรง เริ่มมีอาการปวดท้องรุนแรงกลางดึก เวลาประมาณ 2.00 น. ของวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่บ้านจึงพาไปโรงพยาบาล เมื่อไปถึงก็เข้าห้องฉุกเฉิน เพื่อตรวจดูอาการ พยาบาลเวรบอกว่า น้องเป็นโรคกระเพาะ และพาไปให้หมอฉีดยา ก่อนจะส่งน้องไปอยู่ห้องผู้ป่วยรวมชั้น 3 ระหว่างนั้นน้องอาเจียนออกมา และยังปวดท้องอยู่ น้องเลยขอยาเพื่อที่จะฉีดให้ตัวเองไม่เจ็บ พยาบาลบอกว่า ให้ยาไปแล้ว ให้เยอะไม่ได้เดี๋ยวจะมีอาการแน่นหน้าอก

ต่อมาช่วง 7.00 น. เห็นว่ายังไม่มีหมอหรือพยาบาลมา จึงเอาโทรศัพท์มาถ่ายคลิป ตอนนั้นไม่คิดว่าน้องจะเสียชีวิต แค่อยากให้เป็นหลักฐานว่า ไม่มีพยาบาลและหมอมาดูน้อง เธอวิ่งลงไปตามหมอ เผื่อจะมีหมอที่ชั้น 2 ชั้น 1 ไปถึงเขาบอกว่า หมอคนละคนกับที่รักษาชั้น 3 ก็เลยวิ่งขึ้นมาหาข้างบนอีกที แล้วยังเห็นน้องกรีดร้องอยู่

เมื่อมีพยาบาลเดินมาก็เลยสอบถาม พยาบาลพูดไม่ดีบอกว่า “หมอไม่อยู่ หมอไปรักษาคนไข้คนอื่นอยู่ ไปรักษาคนอื่นเคสที่สำคัญ” เธอก็ถามว่า “เคสของน้องเธอไม่สำคัญหรือ น้องเจ็บจะตายอยู่แล้ว” พยาบาลบอกว่า “หมอมาเดี๋ยวถามหมอเลย” เหตุการณ์ตามคลิปที่ถกเถียงกับพยาบาล เพราะเขาสั่งให้ลบคลิป แต่เธอไม่ลบ อยากเอาไว้เป็นหลักฐาน แต่ไม่ได้ต้องการเอาไปเผยแพร่ แต่เขาไม่พอใจ แล้วมาสั่งแม่เธอด้วย เขาบอกว่า เขาพูดดี อันนี้เธออยากจะให้พยาบาลคนนี้มาขอขมาน้อง

หลังจากที่ได้พบหมอในช่วงเช้า ก็คุยกับหมอว่าขอไปรักษาต่อที่ จ.สุราษฎร์ ได้ไหม เพราะว่าก่อนหน้านั้น หมอได้อธิบายแล้วว่า น้องได้รับยาไปทุกตัวแล้ว น้องก็ยังอาการไม่ดีขึ้น แล้วก็ต้องมีขั้นตอนในการไปสุราษฎร์ธานี หากเดินทางไปเร็ว คือต้องเดินทางไปเอง แต่ถ้าให้โรงพยาบาลส่งตัวจะต้องทำตามขั้นตอน ทำในทันทีไม่ได้ เธอเลยตัดสินใจคุยกับพ่อ และพาไปเอง

จากนั้นน้องก็ได้ขึ้นเปล เพื่อที่จะส่งลงไปข้างล่าง ก่อนจะลงไป พยาบาลได้บอกว่าอย่าส่งเสียงดัง ไม่เช่นนั้นจะส่งไปห้องฉุกเฉินอีกรอบ น้องก็เลยทน ทั้งที่ตัวเองเจ็บมาก จนไปช็อกและเสียชีวิตที่หน้าห้องฉุกเฉิน ทั้งที่พ่อกำลังเอารถมารับไปรักษาที่สุราษฎร์ธานี

ในส่วนสาเหตุการเสียชีวิตเธอไม่ติดใจ ยังเชื่อมั่นในตัวหมอ แค่ข้องใจตรงที่หมอไปไหน ทำไมการรักษาไม่ดูแลคนไข้ อยากให้น้องเป็นเคสสุดท้าย และอยากให้โรงพยาบาลพัฒนาบุคลากรให้มีประสิทธิภาพ มีจรรยาบรรณมากกว่านี้ เพื่อที่คนไข้จะได้รู้สึกปลอดภัย ไม่ใช่ไปโรงพยาบาลแล้วรู้สึกว่า เราจะรอดกลับไปหรือเปล่า

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/KLM9ip7mx6I