‘ไต้ฝุ่นโนรู’ ถึงเวียดนามแล้ว เริ่มอ่อนกำลัง ทำฝนถล่มอุบลฯ พัดเต็นท์อพยพเสียหาย

ไต้ฝุ่นโนรู พัดขึ้นฝั่งทางตอนกลางของประเทศเวียดนามแล้วเมื่อตอนตี 1 ที่ผ่านมา ทำให้เกิดฝนตกหนัก และลมกระโชกแรง มีบ้านเรือนของประชาชนพังเสียหายหลายหลัง ล่าสุด โนรูอ่อนกำลังเล็กน้อย แต่อิทธิพลยังทำให้เกิดฝนตก

รายงานของสื่อท้องถิ่นเวียดนามระบุว่า ขณะพัดขึ้นฝั่งเมื่อเวลาประมาณ 1.00 น. ที่จังหวัดกว๋างนาม ทางตอนกลางของประเทศ ไต้ฝุ่นโนรู มีความเร็วลมอยู่ที่ 133 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งอิทธิพลของพายุลูกนี้ ก็ทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงในหลายพื้นที่

ศูนย์อุทกศาสตร์และอุตุนิยมวิทยาของเวียดนาม ระบุว่า หลังจากที่พัดขึ้นฝั่งแล้ว โนรูได้อ่อนกำลังลงเล็กน้อย ในช่วงตี 4 ที่ผ่านมา วัดความเร็วลมได้ 117 กิโลเมตร/ชั่วโมง และตั้งแต่เวลา 4.00 - 7.00 น. สามารถวัดปริมาณน้ำฝนได้ 50 -100 มิลลิเมตร แต่ในบางพื้นที่สูงถึง 150 มิลลิเมตร

นอกจากนี้ ยังเกิดเหตุไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง กระทบประชาชนกว่า 555,000 ครอบครัว ในจังหวัดกว๋างหงายและกว๋างนาม ฝนที่ตกหนักและลมกระโชกแรงยังสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนของประชาชนหลายร้อยหลังคาเรือน รวมถึงมีป้ายโฆษณา ต้นไม้ หักโค่นและล้มระเนระนาด เพราะถูกลมพัด

แม้ว่าล่าสุดไต้ฝุ่นโนรูจะอ่อนกำลังลงแล้ว โดยมีความเร็วลมอยู่ที่ 62 – 74 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่อุตุนิยมวิทยาของเวียดนาม ยังคงประกาศเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวังและรับมือ เพราะอิทธิพลของโนรูยังคงทำให้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องไปอีก 2 วัน คือ วันนี้กับพรุ่งนี้ รวมถึงยังจะเกิดน้ำท่วมฉับพลัน และดินถล่มตามมาด้วย อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีรายงานว่า มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตหรือไม่

ในขณะที่ไทย กรมอุตุนิยมวิทยา เกาะติดพายุไต้ฝุ่นโนรู คาดว่าเข้าไทยคืนนี้ แต่ขณะนี้ อิทธิพลของพายุ ทำฝนตกหนักหลายจังหวัดภาคอีสานแล้ว และจะตกต่อเนื่องตลอดทั้งวัน

ภาพถ่ายดาวเทียมล่าสุด จากเว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา จะเห็นว่า ศูนย์กลางของพายุโนรู ที่คาดว่าจะอ่อนกำลังเป็นโซนร้อน หลังขึ้นฝั่งที่เวียดนาม แต่ยังมีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 150 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่ลดลงเล็กน้อย กำลังเคลื่อนตัวอยู่ระหว่างชายแดน สปป.ลาว และ เวียดนาม

สำหรับเส้นทางพายุโนรู หลังขึ้นฝั่งเวียดนามเมื่อประมาณ ตี 1 ที่ผ่านมา คาดว่า จะเข้าสู่ลาวในเวลาประมาณ 4 โมงเย็น จากนั้นจะเข้าสู่ประเทศไทยคืนนี้ช่วงเวลา 22.00 – 1.00 น.

ว่าที่ร้อยตรีธนะสิทธิ์ เอี่ยมอนันชัย รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ฝ่ายวิชาการ กล่าวว่า คืนนี้พายุโนรูจะเคลื่อนเข้าไทย พื้นที่ระหว่างจังหวัดอำนาจเจริญและอุบลราชธานี ซึ่งขณะเข้าไทยช่วงแรกยังเป็นพายุโซนร้อนอยู่ ก่อนอ่อนกำลังเป็นดีเปรสชั่น และเมื่อเวลา 9.00 น.ที่ผ่านมา ศูนย์กลางของพายุ อยู่ห่างจากอำเภอเขมราฐ จ.อุบลราชธานี 150 กิโลเมตร ซึ่งคาดว่า อ.เขมราฐอาจจะเป็นจุดแรกที่พายุเข้า

ขณะนี้ขอบพายุที่เคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ได้ทำมีฝนตกแล้วที่อุบลราชธานี อำนาจเจริญ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ และสุรินทร์ ซึ่งจะตกชุกหนาแน่นตลอดทั้งวัน ซึ่งทำให้พื้นที่น้ำมูล น้ำชีที่ล้นตลิ่งและอิ่มน้ำ จะมีน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น

ในประกาศอุตุฯ ฉบับที่ 12 ได้เตือน 39 จังหวัด ในภาคเหนือ อีสาน กลาง ตะวันออกและภาคใต้ ฝนตกหนักในวันนี้ แต่ยังไม่มีการเตือนพื้นที่กทม.และปริมณฑล

อิทธิพลของพายุโนรู ส่งผลให้จังหวัดอุบลราชธานี มีฝนตกและลมแรง ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ต่อเนื่องจนถึงเช้านี้ และพื้นที่ได้รับผลกระทบมาที่สุดในขณะนี้ ของอุบลราชธานี คืออำเภอวารินชำราบ แม้ขณะนี้ศูนย์กลางของพายุโนรู ยังไม่ได้เข้าพื้นที่ จังหวัดอุบลราชธานี แต่ขณะนี้มีฝนตก ลมแรงพัดเต็นท์ ศูนย์อพยพของชาวบ้านเสียหาย ต้องเร่งอพยพออกหนีพายุ เป็นครั้งที่ 2 หลังจากหนีน้ำท่วมบ้านมา ย้ายไปศูนย์อพยพวัดแสนสำราษ

ขณะนี้รถทหารหนวยพัฒนาการเคลื่อนที่ 56 อุบลราชธานี ต้องเร่งเข้ามาช่วยขนย้ายสิ่งของ ที่ถูกลมพัดเสียหาย และสัตว์เลี้ยง ทั้งวัว ไก่ สุนัข ไปยังพื้นที่ปลอดภัย เนื่องจากถ้าพายุมาถึงอุบลราชธานีโดยตรง ความรุนแรงของลมและฝน น่าจะหนักมากกว่านี้

ขณะนี้เทศบาลเมืองวารินชำราบ มีชุมชนได้รับผลกระทบแล้ว 12 ชุมชน จาก 14 ชุมชน มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเดือดร้อน มากกว่า 2,637 ครัวเรือน หรือประมาณ 8,000 คน ทางเทศบาลคาดการณ์ว่าผู้ได้รับผลกระทบจะเพิ่มขึ้น เพราะจากการประเมินของกรมชลประทาน คาดว่าระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นอีก 1 เมตร จากเดิมที่ท่วมขังอยู่แล้ว 1 เมตร 73 เซนติเมตร

เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้านในพื้นที่ลุ่มน้ำมูล ล่าสุดอธิบดีกรมชลประทาน สั่งระดมเครื่องสูบน้ำ 200 เครื่อง ลงที่อำเภอโขงเจียม เพื่อระบายน้ำจากลำน้ำมูล ออกจากอุบล ไปลงแม่น้ำโขงให้มากที่สุด เพราะถ้าพรุ่งนี้ถ้าศูนย์กลางพายุเข้าพื้นที่อุบล ลมและฝนน่าจะหนักกว่านี้