สังคม

'สมีกาโตะ' สับขาหลอก คืนเงิน 6 แสนวัดอื่น พระคนกลางล่องหน ค้นประวัติมีคดีติดตัว

โดย thichaphat_d

5 พ.ค. 2565

1.5K views

อดีตพระกาโตะ แอบคืนเงิน 6 แสนแล้ว โดยสับขาหลอกไปคืนเงินในวัดต่างอำเภอ มีพระผู้ใหญ่เป็นพยานรับทราบ ด้าน ปปป.เตรียมสอบเอาผิด ฐานเป็นเจ้าพนักงานเบียดบังทรัพย์

จากกรณีที่คณะกรรมการวัดรายหนึ่งออกมาเปิดเผยว่า เมื่อ 2-3 วันก่อน อดีตพระกาโตะ หรือนายพงศกร จันทร์แก้ว ถอนเงินสดออกจากบัญชีวัดจำนวน 6 แสนบาท และต่อมาอดีตพระกาโตะ ก็ออกมายอมรับกลางรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์เมื่อวานนี้ว่า มีการเบิกเงินวัด 6 แสนบาทมาจริง แต่เป็นการยืมเงินวัด ซึ่งเดิมทีตั้งใจว่าจะนำเงินมอบคืนวัดอยู่แล้ว แต่พอเกิดมีเรื่องราวขึ้นมาก่อน จึงจะนำเงินมาคืนเลย

และเมื่อช่วงเย็นวานนี้ มีการเผยแพร่ภาพเอกสารระบุว่า "วัดคลาราม" 4 พ.ค. 2565 ตามที่อดีตทิศกาโตะได้เบิกเงินวัดเพ็ญญาติไปเป็นเงินจำนวน 600,000 บาทเท่านั้น จึงเป็นที่สนใจต่อสังคมเป็นอย่างมาก วันนี้ทิศกาโตะ นายพงศกร จันทร์แก้ว ได้นำเงินมาคืนที่วัดมังคลาราม เป็นเงินจำนวน 6 แสนบาท

โดยมีพยานรับทราบเป็นพระครู 2 รูป คือ 1. พระครูอรรถธรรมโกวิท เจ้าคณะอำเภอฉวาง วัดวังม่วง 2. พระบุญการ โกศล เจ้าคณะตำบลพิปูน วัดมังคลาราม 3. นายบำรุง ยอดมณี นายก อบต.กะเปียด 4.นายกิตติ หนูเนตร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 5. นายจิรรัชญ์ เกษมเพชร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ซึ่งนายบำรุง นายก อบต.กะเปียด รับนำเงินไปเข้าธนาคารบัญชีวัดเพ็ญญาติ นอกจากนี้ก็มีกรรมการวัด 2 คน คือ นายโชคดี นุมาศ นายวสันติ จงรวย เซ็นชื่อรับทราบด้วย

มีรายงานว่า อดีตพระกาโตะ ได้นำเงินไปมอบให้ที่วัดมังคลาราม อยู่ในพื้นที่ อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นคนละอำเภอกับ ต.กะเปียด อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อหลบหนีการติดตามของกองทัพนักข่าว โดย 1 ในพยานผู้ร่วมเซ็นรับทราบมีนายสันติ จงรวย กรรมการวัดที่มีอำนาจในการเซ็นเบิกเงินในบัญชีวัดเพ็ญญาติ ที่ร่วมเซ็นเบิกเงิน 6 แสน กับอดีตพระกาโตะร่วมอยู่ด้วย

ขณะที่ทีมข่าวสอบถามไปที่ นายวสันติ จงรวย กรรมการวัด ที่มีชื่อร่วมเซ็นเบิกกับอดีตพระกาโตะ เล่าว่า อดีตพระกาโตะอ้างว่า จะเบิกเงิน 6 แสนบาท ไปจ่ายค่าก่อสร้างเสนาสนะใวัด แต่ตนมารู้จากการติดตามข่าวว่าน่าจะนำเงินไปจ่ายให้กับสีกาตอง 3 แสน และนักข่าว 3 แสนบาท ผ่านทางพระผู้ใหญ่ ซึ่งการที่ตนเซ็นเบิกเงินด้วยเป็นเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จึงออกมาเปิดเผยความจริง ขณะนี้กำลังดูข้อกฎหมายว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ถ้าตนจะมีความผิดด้วย ก็อาจเข้าแจ้งความเร็ว ๆ นี้

ส่วนกรรมการวัดอย่าง นายโชคดี นุมาศ หนึ่งในกรรมการวัดที่มีอำนาจในการเซ็นเบิกเงินของวัดเพ็ญญาติ และมีตำแหน่งเป็นไวยาวัจกร ระบุว่า ตนไม่ได้เป็นคนลงนามในการเบิกเงินครั้งนั้น แต่อดีตพระกาโตะ ได้โทรมาแจ้งก่อนที่จะขอเบิกเงิน โดยระบุว่าเป็นการขอยืม ซึ่งขณะนั้นไม่ได้มีปัญหา เพราะว่าเงินที่ได้มาของวัด อดีตพระกาโตะเป็นคนหาเข้ามา ซึ่งไม่มีใครกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ และในวันนี้เขานัดที่จะคืนเงิน 6 แสนบาทไว้แล้ว ซึ่งเมื่อมีการนำเงินมาคืนก็จบไม่มีปัญหาอะไร

ด้านพลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการ ปปป. เปิดเผยกับข่าวช่อง 3 ผ่านทางโทรศัพท์ว่า สั่งให้คณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีคณะกรรมการวัดและอดีตพระกาโตะเบิกถอนเงินของวัด 6 แสนบาท โดยจะดูวัตถุประสงค์ว่า เงินดังกล่าวเบิกถอนไปใช้อะไร เรื่องส่วนตัวจริงหรือไม่

แม้คณะกรรมการวัดบอกว่า จะไม่เอาผิดเพราะเป็นการยืม และเงินทั้งหมดอดีตพระกาโตะนำมาคืนแล้ว แต่ผู้บังคับการ ปปป. บอกว่า ความผิดสำเร็จไปตั้งแต่ตอนเบิกเงินแล้ว และวัดเป็นนิติบุคคล เงินเป็นของส่วนกลาง คดีนี้ไม่จำเป็นต้องมีผู้ร้องทุกข์ ถือเป็นคดีอาญาแผ่นดิน ตำรวจสามารถตรวจสอบและดำเนินคดีได้ทันที และถ้าคณะกรรมการวัดรู้เห็นอาจจะต้องโดนดำเนินคดีด้วย

สำหรับอดีตพระกาโตะ เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย มีโทษจำคุกตั้งแต่ 5 - 20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 100,000 - 400,000 บาท

ส่วนพระผู้ใหญ่รูปหนึ่ง ที่ถูกพาดพิงว่า เป็นพระคนกลางที่รับเคลียร์กับสีกาตอง และนักข่าว เพื่อให้ยุติการนำเสนอข่าวนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดวังตะวันออก ซึ่งพระคนกลางเป็นพระลูกวัดอยู่ บรรยากาศเงียบเหงา ไร้เงาของพระคนกลาง โดยมีกระแสข่าวว่า อาจจะหลบไปอยู่กับญาติที่ จ.พัทลุง อยู่ในเวลานี้

ล่าสุดมีกระแสข่าวรายงานว่า พระผู้ใหญ่รูปนี้ มีหมายจับของตำรวจนครศรีธรรมราช โดยเป็นหมายจับเลขที่ 258/2561 ลงวันที่ 13 มีนาคม 2561 ออกโดยศาลแขวงนครศรีธรรมราช ซึ่งเกี่ยวกับ พ.ร.บ.เช็ค และหมายจับนี้มีอายุความ 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2560 ถึง 15 กันยายน 2565 ซึ่งพบว่าสถานะหมายยังคงมีผลบังคับใช้ และระบุว่าผู้ต้องหาตามหมายจับอยู่ในสถานะ "หลบหนี"

คุณอาจสนใจ