งงทั้งร้าน ตำรวจบุกยึด จยย.ไม่มีหมาย ซ้ำตะคอกใส่ ผกก.แจงตรวจรถไม่พบผิด

งงกันทั้งร้าน ตำรวจบุกเข้ามายึดรถมอเตอร์ไซด์ ขึ้นรถกระบะโดยไม่ยอมบอกเหตุผล แถมพูดจาตะคอกใส่เจ้าของร้าน สุดท้ายไม่พบว่ามอเตอร์ไซด์คันดังกล่าวผิดกฏ

คลิปภาพจากเฟซบุ๊ก เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้รีเทริน์ Part 2 ได้มีการแชร์คลิปการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจของโรงพักแห่งหนึ่ง ในจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งได้ไปที่ร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ และได้พูดคุยโต้เถียงกับเจ้าของร้านด้วยน้ำเสียงรุนแรง จนสร้างความแตกตื่นให้กับคนในร้าน และยังไม่บอกเหตุผลที่ยกเอารถมอเตอร์ไซด์ไป

ในโพสต์ระบุ “ตำรวจสีคิ้วอธิบายให้ประชาชนเข้าใจด้วย ถึงเหตุในการตรวจและยึดรถภายในร้าย #แบบนี้ก็ได้หรือ เถียงกันวุ่น เจ้าของอู่ซ่อมรถสุด งง ลูกค้านำรถมอเตอร์ไซด์เสียมาจอดซ่อม โดนตำรวจบุกมายกรถถึงร้าน”

ผู้สื่อข่าว ลงพื้นที่ไปยังที่เกิดเหตุ ในอำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา พบกับ นายปิยะเชษฐ์ สุคนธ์ขจร อายุ 29 ปี เจ้าของร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ เล่าให้ฟังว่า ตนมีคลิปภาพ เหตุการณ์ตั้งแต่แรกที่ตำรวจได้ขับรถกระบะ เข้ามาจอดที่บริเวณหน้าร้านของตน และได้ถามตนว่ารถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่หน้าร้านเป็นรถของใคร ซึ่งขณะนั้นตนเพิ่งกลับมาจากข้างนอก จึงไม่ทราบว่าเป็นรถของใคร แต่คิดว่าลูกน้องของตนน่าจะเป็นคนรับรถเอาไว้ ตนจึงได้ตอบตำรวจไปว่าเป็นรถของลูกค้า

ซึ่งหลังจากนั้นตำรวจก็ได้แจ้งว่าจะขอเอารถไปตรวจสอบก่อน ตนจึงถามไปว่ารถของลูกค้าควรต้องแจ้งให้เขาทราบก่อน แต่ทางตำรวจไม่ยอมฟัง และได้ยกเอารถมอเตอร์ไซค์ขึ้นรถกระบะไป แถมยังพูดตะคอกใส่ตน ด้วยท่าทีขึงขังตลอดเวลา ตนจึงถามว่าถึงหมายที่จะมาตรวจยึดรถ ซึ่งตำรวจก็ตอบเพียงว่าจะเอาไปตรวจสอบ และถ้าอยากได้รถคืนก็ให้เจ้าของรถไปติดต่อเอาเอง

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนก็รู้สึก งง มากที่อยู่ ๆ ตำรวจก็มาเอารถไปโดยไม่มีหมายอะไรมาแสดง แถมยังพูดจาตะคอกใส่ตนด้วย ซึ่งพฤติกรรมเช่นนี้ ทำให้ตนและร้านเสื่อมเสียชื่อเสียง เพราะชาวบ้านต้องคิดว่ามีเรื่องไม่ดีเกี่ยวกับที่ร้านของตนแน่ จึงอยากฝากบอกตำรวจว่าจะปฏิบัติหน้าที่อะไร ขอให้ชี้แจ้งประชาชนด้วยคำพูดที่ดีกว่านี้

ขณะที่ พันตำรวจเอก ยงยศ พลเดช ผู้กำกับการ สภ.สีคิ้ว เปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เนื่องจากมีชาวบ้านในพื้นที่แจ้งว่า มีรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งท่อไอเสียส่งเสียงดังรบกวน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้พบรถต้องสงสัยลักษณะเหมือนกับรถที่ได้รับแจ้งจอดอยู่ที่ร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ดังกล่าว

ตำรวจจึงได้แจ้งเจ้าของร้าน ขอนำรถคันนี้ไปตรวจสอบ แต่การพูดคุยอาจไม่เข้าใจกัน จนทำให้เกิดการโต้เถียงกับเจ้าของร้าน ซึ่งตนได้ว่ากล่าวตักเตือนเจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติหน้าที่ในวันนั้นไปแล้วว่า ควรชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจด้วยคำพูดที่สุภาพ ส่วนรถที่ตำรวจนำมาตรวจสอบก็ไม่พบว่ากระทำผิดกฎหมายแต่อย่างใด และเจ้าของรถก็ได้นำเอกสารมาติดต่อขอรับคืนไปแล้ว.