ลูกสาวร้อง 'ผู้คุมไถเงิน' ค่าดูแลแม่ในเรือนจำ ก.ยุติธรรม สั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน

สาวร้องถูกหญิงอ้างเป็นผู้คุมทัณฑสถานหญิงธนบุรีหลอกเรียกรับเงิน แลกกับการดูแลแม่ที่อยู่ในเรือนจำให้สุขสบาย วอนกระทรวงยุติธรรมตรวจสอบด่วน ล่าสุดมีคำสั่งให้ผู้คุมออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว

นาย รณณรงค์ แก้วเพ็ชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาหญิงสาววัย 31 ปี นำหลักฐานเป็นคลิปเสียงที่พูดคุยกับคนที่อ้างตัวว่าเป็นผู้คุมหญิงที่ทัณฑสถานหญิงธนบุรี และสลิปการโอนเงิน มาร้องเรียนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมให้ข้อมูลว่า แม่ของเธอต้องโทษในคดีสนับสนุนกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะลูกสาวกับลูกเขยเอาบัญชีไปใช้ขายกัญชา และต้องโทษอยู่ทัณฑสถานหญิงกลางธนบุรี ตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน 2564

ต่อมามีสาวอ้างตัวว่า ชื่อ ประภาพร เป็นผู้คุมที่ทัณฑสถานแห่งนี้ โทรศัพท์มาหาพ่อหลายครั้ง เพื่อขอเงินแลกกับการให้แม่ได้อยู่อย่างสบายขึ้น ซึ่งพ่อก็หลงเชื่อและโอนเงินให้ บางครั้งเอาเงินไปให้ถึงแฟลตที่พักของเรือนจำภายในทัณฑสถานหญิงธนบุรีด้วย แต่สุดท้ายก็ ไม่ได้เป็นอย่างที่พูด

ต่อมาครั้งแรกขอ 1,000 บาท ช่วงปลายปี 2564 พ่อเอาเงินสดไปให้ ครั้งที่ 2 และ 3 ขออีก 1,000 บาท ครั้งที่ 4 อีก 200 บาท เป็นค่าผัดกะเพรา ครั้งที่ 5 อีก 500 บาท อ้างว่าเป็น ค่าเสื้อกันหนาวบอกจะเอาไปให้แม่ แต่แม่ก็ได้แค่เสื้อแจกจากรัฐบาล ครั้งที่ 6 เงินสด 1,000 บาทเอาไปให้ที่แฟลต ช่วงเดือน มกราคม 65 ครั้งที่ 7 คนร้ายที่บอกว่าเป็นผู้คุม อ้างว่าแม่เขียนจดหมายน้อยมา ข้อความว่า ให้พ่อเอาเงินให้นางประภาพร 1,000 บาท ครั้งที่ 8 โทรมาขอค่าเค้กงานวันเกิดลูกสาวเขา 1,000 บาท ครั้งที่ 9 อีก 400 บาท ค่าซื้อของในเรือนจำ

พอจะเข้าไปเยี่ยมผู้คุมอ้างว่า ไม่สามารถเข้าเยี่ยมได้เนื่องจากโรคระบาดโควิด-19 และไม่สามารถส่งจดหมายได้ด้วย ทำให้ครอบครัวไม่รู้ความจริงอะไรเลย จึงโทรศัพท์ไปสอบถามสาวที่อ้างตัวเป็นผู้คุมคนนี้

ด้วยความสงสัยเธอจึงตัดสินใจไปที่หน้าเรือนจำ เจ้าหน้าที่ด้านหน้าก็แจ้งว่าสามารถเขียนจดหมายได้ตลอด ทำให้รู้ว่าโดนหลอก ประกอบกับมีคนมาเตือนว่าผู้คุมคนนี้เรียกรับเงินญาติผู้ต้องขังหลายคนแล้ว

นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม บอกว่า เรื่องนี้แบ่งเป็น 2 ประเด็น คือ 1. ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยและอาญากับผู้คุมรายนี้ ซึ่งมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน และรอผลสอบภายใน 180 วัน และ 2. ความปลอดภัยของผู้ที่ถูกคุมขัง อาจจะต้องพิจารณาว่าย้ายไปเรือนจำอื่นหรือไม่