ผู้คุมเรือนจำเครียด เขียนจดหมายลาตาย คว้าปืนยิงขมับ ปลิดชีพตัวเอง

สลด ผู้คุมเรือนจำปราจีน เขียนจดหมายลาตาย ก่อนคว้าปืนยิงขมับ ปลิดชีพตัวเอง หลังภรรยาและลูกผิดสังเกต ผู้ก่อเหตุไม่กลับบ้านหลังเลิกงาน คาดสาเหตุุมาจากความเครียดส่วนตัว 

ปราจีนบุรี- เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2565 เวลา 17.00 น. ร.ต.อ.มงคล ราลินทา รอง.สว.(สวนสวน) สภ.เมืองปราจีนบุรี รับแจ้งเหตุมีผู้ยิงตัวเองบาดเจ็บสาหัส บริเวณบ้านพักผู้คุมเรือนจำปราจีนบุรี

ที่เกิดเหตุพบบริเวณป้อมพักเข้าเวรของผู้คุมเรือนจำ มีขนาดความกว้างประมาณ 3 x 2 เมตร ภายในพบกองเลือดและสาดกระจายทั่วบริเวณ

เบื้องต้นรับแจ้งว่าผู้ยิงตัวเองได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส และมีบาดแผลถูกยิงบริเวณขมับซ้ายทะลุขมับขวา ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองพิสูจน์หลักฐานปราจีนบุรี ได้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่ามีกองเลือดอยู่บริเวณพื้น และข้างกำแพงและบริเวณกระจก โดยกระจกบานเกล็ดบานที่ 3 มีรอยของกระสุนทำให้กระสุนปืนทะลุออกมาโดนรถยนต์เก๋งนิสสัน มาร์ช สีขาว ซึ่งจอดห่างจากห้องจุดเกิดเหตุประมาณ 5 เมตร มีรอยกระสุนบริเวณกระจกด้านหน้าซ้ายและทะลุไปโดนกระจกด้านหน้า ภายในรถพบหัวกระสุนอยู่ 1 หัว เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ส่วนภายในห้องพักยังพบจดหมาย คาดว่าน่าจะเป็นลายมือของผู้ที่ยิงตัวเองได้เขียนข้อความระบุว่า " กราบขอโทษทุกๆคนด้วย เครียดครับ ระบบที่ทำงานก็เหนื่อยหล้ามาก ของทุกอย่างอยู่ในรถนะ พร้อมทั้งให้เบอร์โทรติดต่อแต่ละคน คาดว่าน่าจะเป็นญาติให้ไว้ "

โดยทราบชื่อผู้ก่อเหตุชื่อนายชำนิ เพชรนวม อายุ 46 ปี ตำแหน่งเจ้าพนักงานกรมราชทัณฑ์ ชำนาญงาน และพบปืนพกสั้นขนาด 9 มม. ตกอยู่ที่พื้น 1 กระบอก โดยมีปลอกกระสุนกระเด็นออกจากห้องมาอยู่ที่หน้าห้องประมาณ 10 เมตร

สำหรับสาเหตุเพื่อนร่วมงานว่าทำงานมานกว่า 10 ปี ก่อนหน้านี้ประมาณ 2 อาทิตย์ผู้ที่ก่อเหตุนั้นมีอาการเครียดลงอย่างเห็นได้ชัด และทางเพื่อนพยายามสอบถามแต่คนก่อเหตุก็ไม่เล่าอะไรให้ฟัง

จากการสอบถามเบื้องต้นมีคนให้ข้อมูลว่า ผู้ก่อเหตุนั้นเข้าเวรอยู่ที่เรือนจำและปกติต้องเลิกงานประมาณ 16:00 น. โดยทางภรรยาและลูกเห็นสามีไม่กลับบ้านจึงโทรตาม และบอกว่าจะมารับด้วยตนเอง พอมาถึงที่เกิดเหตุเห็นผู้ก่อเหตุนั่งอยู่ในห้อง จนภรรยาและลูกไปถึงกล่าวว่า “ป๊าไปก่อนนะอ้วน” และได้ใช้ปืนยิงบริเวณศีรษะจนเกิดเหตุสลดดังกล่าว

ด้านนางสาวสุคนธ์ทิพย์ ชมลาภ อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นคนที่พักอาศัยอยู่ตรงข้ามกับที่เกิดเหตุกล่าวว่า ขณะตอนกำลังพักผ่อนอยู่บริเวณชั้น 2 ของบ้านนั้นได้ยินเสียงดังคล้ายปืนขึ้น 1 นัดหลังจากนั้นไม่นานได้ยินเสียงผู้หญิงกรีดร้องและขอความช่วยเหลือ ตนจึงรีบวิ่งลงมาดูเพราะคิดว่าน่าจะเกิดเหตุร้ายอย่างแน่นอน

หลังจากที่ตนวิ่งมาดู ได้พบกับผู้ได้รับบาดเจ็บนั่งอยู่บริเวณเก้าอี้ ลักษณะแขนห้อยและเลือดท่วมโต๊ะและห้อง ตนจึงตั้งสติ รีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้ามาตรวจสอบเหตุดังกล่าว โดยปกติแล้วตนจะไม่ค่อยได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่เท่าไหร่เพราะทำงานคนละหน้าที่ ซึ่งตอนเกิดเหตุนั้นก็ไม่ได้มีเสียงดังโหวกเหวกหรือทะเลาะกันแต่อย่างใดคาดว่าผู้ก่อเหตุนั้นน่าจะตั้งใจก่อเหตุมากกว่า

หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบพื้นที่ และรวบรวมเก็บหลักฐานต่างๆในที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งสอบพยานที่เห็นเหตุการณ์แล้ว จะเรียกภรรยาที่เห็นเหตุการณ์มาสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาเหตุจูงใจในการลงมือก่อเหตุครั้งนี้ต่อไป

ซึ่งในขณะนี้ได้รับรายงานว่า ผู้ที่ได้ลงมือยิงตัวเอง เสียชีวิตแล้วที่ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร หลังจากที่ทีมแพทย์ได้พยายามช่วยชีวิต แต่ไม่เป็นผลเนื่องจากบาดแผลถูกบริเวณสำคัญ ก่อนที่จะเก็บร่างผู้เสียชีวิตเพื่อชันสูตรโดยละเอียดต่อไป