โจรใจบาปตัดเศียรพระประธาน อายุ 214 ปี วงจรปิดจับภาพคนร้ายชัด

นนทบุรี-โจรใจบาปตัดเศียรพระประธาน อายุ 214 ปี วงจรปิดจับภาพคนร้ายชัด

วันที่ 20 สิงหาคม 64 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก พระพรพรหม ถาวโร อายุ 33 ปี พระลูกวัด วัดศรีราษฎร์ ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ว่ามีคนร้ายบุกเข้ามาภายในพระอุโบสถของวัดที่กำลังบูรณะ หลังจากนั้นคนร้ายได้ทุบทำการตัดเศียรพระประธาน หลวงพ่อหิน ที่อยู่คู่กับอุโบสถแห่งนี้มาตั้งแต่ก่อสร้างอุโบสถ ซึ่งมีอายุเก่าแก่ถึง 214 ปี จนได้รับความเสียหาย เศียรพระหลุดออกมาจากองค์พระ

ภาพจากกล้องวงจรปิด จับภาพคนร้ายขณะเดินเข้ามาที่อุโบสถและเดินกลับออกไปโดยไม่สามารถเห็นภาพขณะลงมือ เนื่องจากภายในอุโบสถไม่มีกล้องวงจรปิด มีเพียงด้านนอก โดยเหตุเกิดเมื่อกลางดึกของวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา จนขณะนี้ยังไม่มีกรรมการวัดไปแจ้งความดำเนินคดีกับคนร้ายเลย

พระพรพรหม เปิดเผยว่า จากกการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของวัด พบว่าเมื่อเวลา 23.40 น. ของคืนวันที่ 16 สิงหาคม มีคนร้ายเป็นชายอายุ ประมาณ 30-40 ปี เป็นเด็กใกล้วัดชื่อ ปอนด์ โดยคนร้ายเดินแอบเข้าไปในอุโบสถทางด้านประตูหลัง ก่อนจะหายไปไม่นานก็เดินกลับออกมา ซึ่งคนร้ายก็รู้อยู่ว่าเป็นใคร มีหลักฐานชัดเจน แต่แปลกใจว่าทำไมคณะกรรมการของวัดจึงไม่ไปแจ้งความเอาผิดกับคนที่ก่อเหตุ

พอหลวงพี่สอบถามก็มีชาวบ้านออกมาขู่ว่าจะทำร้ายหลวงพี่ ตอนนี้ได้มีการซ่อมแซมพระไปบ้างบางส่วนแล้ว โดยมีการนำเศียรพระกลับไปติดไว้ที่องค์พระเหมือนเดิม เพื่อไม่ต้องการให้สะเทือนใจของชาวบ้านที่พบเห็น ส่วนการที่ซ่อมแซมให้กลับมาเหมือนเดิมนั้นคงไม่ดีเท่าเดิม เหมิอนแก้วที่แตกร้าวมีร่องรอยซ่อมแซม ตอนนี้ได้แจ้งไปทางกรมศิลปากรแล้ว เนื่องจากวัดแห่งนี้เป็นโบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนไว้กับทางกรมศิลปากร แต่ต้องรอให้มีการยกอุโบสถให้เสร็จเรียบร้อยเสียก่อน

สำหรับประวัติของวัดวัดศรีราษฎร์ พบว่ามีอายุเก่าแก่สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2350 ไม่ปรากฎว่าผู้ใดเป็นผู้สร้าง ได้รับพระราชทานวิสุงคามเสมา เมื่อ พ.ศ.2361 เดิมชื่อวัดเทราษฎร์ บ้างเขียนว่าวัดเทลาด เพราะตั้งอยู่บนพื้นที่ลุ่มที่ลาดลงสู่คลองอ้อมนนท์ ต่อมาได้ย้ายมาอยู่ที่ดอนซึ่งเป็นที่ตั้งปัจจุบัน และเปลี่ยนชื่อเป็น วัดศรีราษฎร์ ปัจจุบันมีอายุ 214 ปี

ส่วนพระประธาน หลวงพ่อหิน ที่ถูกทุบทำลายนั้นเดิมพบว่าสร้างด้วยไม้แล้วมีการห่อหุ้มองค์พระด้วยปูนอีกชั้นหนึ่ง ตามแบบสมัยของกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย

ส่วนเหตุการณ์ในครั้งนี้ทางวัดจะเข้าแจ้งความที่ สภ.บางใหญ่ พร้อมทั้งจะมอบหลักฐานกล้องวงจรปิด ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเวลา 21.00 น. เจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.บางใหญ่ เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้น พร้อมทั้งวางกำลังเฝ้ารอบพระอุโบสถเกรงคนร้ายจะย้อนกลับมาตัดเศียรพระไปอีก ส่วนประเด็นที่คนร้ายเอาเศียรพระไปไม่ได้ ชาวบ้านต่างเชื่อว่าอาจเจอปฏิหาริย์ขององค์หลวงพ่อจนหลอนแล้วหลบหนีไป