อ.มหาวิทยาลัยติดเชื้อไข้หูดับจากการหั่นเนื้อหมูขณะมีแผลที่มือ

อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ในจังหวัดพิษณุโลก ติดเชื้อโรคไข้หูดับ เนื่องจากหั่นเนื้อหมูสไลด์ ขณะที่มือมีบาดแผล อาการหนักถึงขั้นเสียชีวิต โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก รายงานผลสอบสวนโรคเบื้องต้น ระบุว่า ผู้เสียชีวิตรายนี้ เป็นหญิง อายุ 49 ปี ไม่มีโรคประจำตัว ไม่ดื่มสุรา เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ซื้อหมูสไลด์แช่แข็งมาทำหมูกะทะรับประทานกับเพื่อนรวม 7 คน โดยผู้เสียชีวิตใช้มือที่มีบาดแผลอยู่แล้ว จับหมูหั่น จากนั้นในวันที่ 14 มิ.ย. สั่งหมาล่ามารับประทาน จนกระทั่งกลางดึก เริ่มมีอาการท้องเสีย อาเจียน จึงถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล

ช่วงเช้าวันที่ 15 มิ.ย. อาการไม่ดีขึ้น มีอาการปวดกระดูก หนาวสั่น ปากเขียว และเข้ารับการรักษาในห้องไอซียู แต่ร่างกายไม่ตอบสนอง และเสียชีวิตในเวลา 23.58 น. วันที่ 15 มิถุนายน หลังจากเสียชีวิต แพทย์สงสัยว่าจะเป็นโรคไข้หูดับ จึงได้ส่งตัวอย่างไปตรวจสอบ ผลยืนยันว่าเป็นโรคไข้หูดับ โดยญาติประกอบพิธีฌาปนกิจไปแล้วเมื่อวันที่ 21 มิ.ย.

นายแพทย์รัฐภูมิ ชามพูนท ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า โรคไข้หูดับ เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่พบในหมู แต่หากนำเนื้อหมูมาปรุงให้สุก ก็จะไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ทำให้โอกาสติดเชื้อในกระแสเลือดน้อยลง แต่เชื้ออาจเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ ในกรณีที่มีบาดแผลตามร่างกายหรือที่มือ แล้วไปสัมผัสกับเนื้อหมูดิบที่มีเชื้อดังกล่าว ดังนั้น หากมีบาดแผลควรหลีกเลี่ยงสัมผัสเนื้อหมู เลือดหมู หรือสิ่งสกปรกทั่วไป เพราะจะมีโอกาสติดเชื้อแบคทีเรียชนิดอื่นในกระแสเลือด จนเป็นสาเหตุทำให้เสียชีวิตได้ รวมทั้งรับประทานอาหารปรุงสุก หากมีอาการไม่สบาย มีอาการเพลีย มีไข้ ขอให้มาพบแพทย์ที่โรงพยาบาล เพื่อให้แพทย์ประเมินด้วยสัญญาณชีพ จะได้รับรักษาอาการได้อย่างถูกต้องรวดเร็ว และหากพบว่าติดเชื้อแบคทีเรีย ก็จะต้องรีบให้ยา ปฏิชีวนะ ซึ่งบางครั้งหากติดเชื้อรุนแรงก็ไม่สามารถรักษาและเสียชีวิตได้

สำหรับสถานการณ์โรคไข้หูดับที่จังหวัดพิษณุโลก ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-21 มิ.ย.64 พบผู้ป่วยแล้ว 12 ราย เสียชีวิตแล้ว 1 ราย

สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/aLu_7v81D1M