น้ำทะลักอยุธยา จนท.เร่งทำคันกั้น เตรียมสูบน้ำ ป้องกันตัวเมือง ชาวบ้านวอนช่วย ยังขาดอาหาร-เรือ

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ หรือ กอนช. เตือนพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเตรียมรับมือ การระบายน้ำเพิ่ม ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคมเป็นต้นไป ทำให้หลายพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ



อย่างเช่นพื้นที่เกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา ต้องเร่งทำคันกั้น วางแนวกระสอบทราย และเตรียมเครื่องสูบน้ำแรงดันสูง เพื่อรองรับน้ำที่จะไหลเข้าตัวเมือง



ที่เกาะเมือง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สาเหตุสำคัญที่ต้องมารายงานทีนี้ เพราะย้อนไปปี 2554 เมื่อ 11 ปีก่อน วันนี้คือวันที่เกาะเมืองแตก คันดินกั้นแม่น้ำพัง ทำให้น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ทะลักเข้าพื้นที่เกาะเมือง ส่งผลกระทบกับโบราณสถาน โรงพยาบาล วัด โรงเรียน และบ้านเรือนของประชาชน



ล่าสุดวันนี้ ที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณเจดีย์ศรีสุริโยทัย ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดของเกาะเมือง จากภาพทุกท่านจะเห็นว่า แม้ระดับจากแม่น้ำเจ้าพระยา ยังไม่ไหลเข้าท่วมเกาะเมือง แต่ระดับน้ำ ก็สูงกว่าตลิ่งแล้ว ทำให้เทศบาลนคร พระนครศรีอยุธยา ต้องเร่งทำแนวป้องกันเป็น 2 ชั้น ชั้นแรกเป็นแผงบังเกอร์เหล็ก ส่วนอีกชั้นเป็นแนวคันดินยกสูงขึ้นมาประมาณ 1 เมตร 20 เซนติเมตร เพื่อให้มั่นใจ ว่าน้ำไม่เข้าเกาะเมือง



ส่วนฝั่งตรงข้ามเกาะเมือง วัดกษัตราธิราชวรวิหาร ตำบลบ้านป้อม ขณะนี้น้ำล้นตลิ่งมากกว่า 1 เมตรแล้ว แค่ทางวัดยังป้องกันศาสนสถานสำคัญไว้ได้



ทีมข่าวขับรถไปสำรวจพื้นที่เกาะเมือง ในเขตเทศบาลนคร พระนครศรีอยุธยา พบว่าเจ้าหน้าที่กำลังเร่ง ทำแนวป้องกันถนนรอบเกาะเมือง ให้มีความสูง 50 เซนติเมตร โดยใช้ยางมะตอย ผสมกับหินคลุก หรือเรียกว่ากากมิกซ์ เป็นการปรับรูปแบบจากปี 54 ที่มีประสบการณ์กระสอบทรายพัง เพราะแรงของน้ำ ปีนี้จึงใช้กากมิกซ์แทน เนื่องจากทนทานกว่ากระสอบทราย รถยนต์วิ่งบนคันกันได้ และที่สำคัญสามารถเพิ่มความสูงได้ตลอดเวลา



ล่าสุดเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เดินทางร่วมหารือกับนายกเทศมนตรีเทศบาลนคร พระนครศรีอยุธยา ที่ศูนย์ช่วยเหลือ และอำนวยการป้องกันน้ำเกาะเมือง บริเวณวัดศาลาปูนวรวิหาร ตำบลท่าวาสุกรี เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำ



พร้อมให้ข้อมูลว่า ขณะนี้เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำอยู่ที่ 3,003 ลบ.ม./วินาที ส่วนเขื่อนป่าสักระบายอยู่ที่ 861 ลบ.ม./วินาที และเขื่อนพระราม 6 ระบายอยู่ที่ 1,052 ลบ.ม./วินาที จะส่งผลให้รดับน้ำพื้นที่ตัวเมืองพระนครศรีอยุธยา มีน้ำเพิ่มสูงอีก 10-15 เซนติเมตร แต่ในส่วนเกาะเมืองนั้นขอให้มั่นใจได้ว่าสามรถป้องกันน้ำได้ เพราะเทศบาลทำแนวป้องกันไว้ สามารถรองรับน้ำได้อีก 1 เมตร ถึง 1 เมตร 50 เซนติเมตร และทุกจุดเสี่ยง จุดลุ่มต่ำ ก็ทำแนวป้องกันไว้ทั้งหมดแล้ว แต่คาดว่าจุดสูงสุดของน้ำ จะอยู่ประมาณวันที่ 10 ตุลาคม



ทีมข่าวได้ไปสำรวจชุมชนนอกเขตเมือง บริเวณชุมชนวัดเชิงท่า พบว่าจุดนี้อยู่ติดกับคลองเมือง ซึ่งรับน้ำมาจากแม่น้ำจ้าพระยา ถูกน้ำท่วมขังมานานกว่า 1 เดือนแล้ว ระดับน้ำยังคงเพิ่มขึ้น บางจุดท่วมสูงกว่า 2 เมตร วันนี้ทีมข่าวต้องใช้การปีนหลังคาบ้าน ขึ้นไปชั้น 2 เพื่อไปสำรวจระดับน้ำในชุมชน



ชาวบ้านสะท้อนกับทีมข่าวว่า ตอนนี้อยากได้อาหารแห้ง และเรือใช้สัญจร เข้า-ออก หมู่บ้าน เพราะตอนนี้เรือไม่เพียงพอ แต่ที่กังวลอย่างมาก คือกลัวว่าระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากบานบางหลังอีก 30-40 เซนติเมตร น้ำก็จะท่วมถึงพื้นบ้านชั้น 2 แล้ว



ข้อมูลเทศบาลนคร พระนครศรีอยุธยา ล่าสุดขณะนี้ ในพื้นที่ 10 ตำบล จำนวน 67 ชุมชน มีชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมแล้ว 46 ชุมชน บ้านเรือนถูกน้ำท่วม 2,000 ครัวเรือน ประชาชนเดือดร้อน 5,000 คน ต้องอพยพมาอาศัยศูนย์พักพิง 9 แห่งของเทศบาล จำนวนมากกว่า 200 คน

https://youtu.be/l-T3lq2RyYU