หัวจะปวด! รองผอ.ถูกชายคุกคาม มโนเป็นเมีย ทั้งที่ไม่รู้จักกัน พ่อแม่เผยวันๆดูดกัญชาไม่ทำงาน

รองผู้อำนวยการโรงเรียน ถูกชายในหมู่บ้านคุกคาม มโนว่ามีความสัมพันธ์ชู้สาว หาเงินมาสร้างบ้านให้ 3 ล้าน ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกัน แจ้งตำรวจ 2 ครั้ง แต่ช่วยอะไรไม่ได้ สุดท้ายต้องมาร้องกำนันให้ช่วยเหลือ



กล้องวงจรปิดหน้าบ้านผู้เสียหาย เผยให้เห็นเหตุการณ์ขณะชายคนหนึ่ง ขี่มอเตอร์ไซค์มาจอดที่หน้าบ้าน แล้วตะโกนโวยวายข้ามรั้ว บอกว่า พูดดีๆ ผมมาพูดดีๆ ผมไม่ได้ฝากของอะไรมากมาย ผมฝากปืน คนในบ้านโมโห ท้าวเอวตอบ ปืนอะไร พ่อแม่ฉันไม่เคยบอกว่า มีปืน ชายผู้มายืนยังเถียงว่า อยู่ในห้อง เก็บใส่ตู้ไว้ แล้วยังถามถึงรองผู้อำนวยการโรงเรียน ซึ่งคนในบ้านก็ตอบว่า ไม่อยู่



จากนั้นชายคนดังกล่าว ก็บอกว่า ถ้าผมผิด แจ้งตำรวจจับผมเลย ทำให้คนในบ้านยิ่งโมโห บอกว่า แจ้งจับไปแล้ว เขาก็ปล่อยมาเหมือนเดิม ฝ่ายชายเสียงดัง บอกว่า ไปแจ้งจับตอนนี้เลย แล้วก็ถามหารองผู้อำนวยการโรงเรียนอีก คนในบ้านจึงบอกว่า มายุ่งวุ่นวายอะไรบ้านคนอื่น ไปหาสร้างบ้านให้พ่อแม่ตัวเองไป ไปหาทำงานไป



คราวนี้ชายผู้มาเยือนหงุดหงิด ตะคอกเสียงดังว่า โอ้ย! ผมไม่ได้ยุ่งอะไร ผมฝาก เขาเป็นเมียผม พร้อมทิ้งท้ายว่า ไปแจ้งความมาจับผมวันนี้เลย



ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.อิน (นามสมมุติ) อายุ 57 ปี รองผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมชื่อดังในเมืองขอนแก่น บอกว่า เหตุการณ์นี้ไม่ใช่เหตุการณ์แรก แต่เป็นเหตุการณ์ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้เคยเกิดมาแล้ว 2 ครั้ง ชายคนนี้ ชื่อ นายอารักษ์ อายุ 42 ปี ไม่มีใครในบ้านรู้จัก แต่เขามโนเองว่า รู้จักกับคนในบ้าน และเคยคบหาเป็นแฟนกับตนตั้งแต่สมัยวัยรุ่น เคยให้เงินสร้างบ้านหลังนี้กว่า 3 ล้านบาท วันนั้นเข้ามาตามหาตนเองกับพี่สาว ถามหาปืน เอกสารทิพย์ และเงินสดอีกหลายล้านบาทในตู้เซฟ ซึ่งไม่มีความจริงแม้แต่น้อย คำพูดเหล่านี้ทำให้คนอื่นเข้าใจผิด เสื่อมเสียชื่อเสียงได้



เคยแจ้งความกับตำรวจ สภ.น้ำพอง เมื่อเดือนเมษายน แต่ไม่สามารถดำเนินคดีตามกฎหมายได้ แถมเค้ายังมาคุกคามซ้ำ จนต้องไปแจ้งความเป็นครั้งที่ 2 แต่ยังดำเนินคดีอะไรไม่ได้ โดยบอกว่ายังไม่เกิดเหตุ ทั้งที่วันนั้นตำรวจไปจับกุมนายอารักษ์ที่บ้าน ก็พบว่ากำลังเสพกัญชาอยู่ จึงนำส่ง รพ.น้ำพอง ไปบำบัดรักษา 3 วัน ก็ออกจากโรงพยาบาล แต่ก็ยังคงเที่ยวพูดมโนไปเหมือนเดิมว่า ตนเองเป็นภรรยา บ้านที่สร้างเป็นเงินของเขา จนเหตุเกิดครั้งล่าสุด ตนต้องไปร้องขอให้กำนัน ต.หนองกุง ช่วยเหลือ เกรงว่าหากปล่อยไว้จะเกิดเรื่องรุนแรงกว่านี้



ล่าสุด ตำรวจ สภ.น้ำพอง พร้อมกำนัน ต.หนองกุง นำเจ้าหน้าที่ไปคุมตัวนายอารักษ์ ถึงห้องนอนในบ้าน เจ้าตัวยังอ้างว่า ตัวเองเป็นตำรวจมือปราบชื่อจอร์จ เคยรับราชการที่ สภ.น้ำพอง แต่ต้องออกจากราชการเพราะฆ่าคนตาย ส่วนความสัมพันธ์กับครู เกิดขึ้นในสมัยที่เป็นวัยรุ่นอายุ 18 ปี ช่วงคบหากันตนเป็นคนหาเงินให้ครูอินสร้างบ้านราคา 3 ล้านบาท ที่ไปหาครั้งล่าสุดแค่จะถามเรื่องปืนที่ฝากไว้ เป็นปืนลูกโม่ชนาด .22 ไม่ได้ไปข่มขู่หรือจะทำร้าย แต่คนในบ้านพูดไม่ดี แถมยังบอกนักข่าวว่า ตำรวจจับตัวเองไม่ได้ เพราะไม่ได้ทำผิด ยอมรับว่าเสพกัญชามานานแล้ว แต่ไม่ได้ทำให้คนอาละวาดได้ มีแต่เสพแล้วนอนแล้วสนุก ถ้าไม่ได้เสพก็จะหงุดหงิดง่าย



ด้านนายประยงค์ อายุ 69 ปี และนางคำใหม่ อายุ 65 ปี พ่อแม่ของนายอารักษ์ บอกว่า ลูกชายเสพกัญชามาตั้งแต่เด็ก เมื่อก่อนลูกชายก็มีอาการปกติ เคยเข้าไปทำงานที่กรุงเทพฯ แต่ช่วงสองปีที่ผ่านมา ลูกชายเอาสูบกัญชาอยู่แต่ในห้อง ไม่ออกจากบ้าน ไม่ยอมทำงาน พ่อกับแม่ต้องหาข้าว หาอาหารและวางเงินไว้ให้ ซึ่งหากลูกชายสูบกัญชาเฉยๆ ก็ไม่เป็นอะไร แต่เมื่อไรที่ดื่มเหล้าเข้าไป จะตาขวางทันที เริ่มโมโหร้ายด่าพ่อแม่ ขู่ฆ่าพ่อแม่ บอกไม่ใช่พ่อแม่กู เป็นแค่คนมาเลี้ยงดูเท่านั้น จนต้องนำอาวุธที่เป็นมีด จอบ เสียมไปซ่อนไว้ที่อื่น เมื่อลูกอาละวาดหนัก ก็ต้องออกไปนอนที่นา



เมื่อเจ้าหน้าที่มาจับลูกชายไป พ่อแม่ไม่ติดใจ จะจับเข้าคุกก็จับไป นำไปบำบัดด้วยก็จะดียิ่งขึ้น หรือจะฆ่าให้ตายก็ยังได้ ไม่อยากให้มาเป็นภาระพ่อแม่อีก เพราะฐานะพ่อแม่ก็แค่นี้หาเช้ากินค่ำ ส่วนคำพูดที่ลูกชายพูดเกี่ยวกับครูนั้น พ่อแม่ไม่เคยทราบเรื่อง เพราะไม่สนิทกันจึงไม่เคยพูดคุยกัน เพียงแค่เป็นคนหมู่บ้านเดียวกันเท่านั้น



รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/OcFNLy8Te5E