สังคม

รู้ตัวแล้ว 2 เยาวชนเหิม บุก รร.ล็อกคอเด็ก 10 ขวบ 'ขู่ฆ่า-ชิงมือถือ' เด็กวอนขอคืน มีรูปพ่อที่เสียชีวิต

โดย nattachat_c

2 เม.ย. 2567

289 views

จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Gus Bell โพสต์ภาพสองคนร้ายขี่จักรยานยนต์ สีน้ำเงิน เข้ามาในโรงเรียนบ้านคำบง จังหวัดขอนแก่น ซึ่งมีเด็กนักเรียนรอซ้อมฟุตบอลอยู่ข้างสนาม จากนั้นคนร้ายทั้งสองคนล็อกคอขู่ฆ่าเด็ก 10 ขวบ บังคับให้บอกรหัสปลดล็อกโทรศัพท์มือถือ ก่อนจะเอาโทรศัพท์มือถือของเด็กไปหนึ่งเครื่อง แล้วขี่จักรยานยนต์หลบหนีไป ซึ่งเด็กผู้เสียหาย เป็นหลานของผู้โพสต์


จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ของโรงเรียนบ้านคำบง  ต.สะอาด อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น สามารถจับภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 31 มี.ค.2567 ที่ผ่านมา


โดย เวลาประมาณ 14.34 น. เยาวชนที่ก่อเหตุ  2 คน ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาภายในโรงเรียน จากนั้นมีกล้องอีกมุมหนึ่ง จับภาพ 'นายโหน่ง' อายุ 17 ปี ผู้ก่อเหตุ ซึ่งเคยเรียนอยู่ที่โรงเรียนบ้านคำบง เดินเข้ามาตรงบริเวณสนามฟุตบอล ที่เด็ก ๆ นั่งอยู่ นับหนึ่ง สอง สาม แล้วเรียกเด็ก 3 คน ที่นั่งอยู่ ให้ออกมา ก่อนจะตรงเข้าไปล็อกคอน้องเอิร์ธ (เด็กชายผู้เสียหาย) ส่วนเพื่อนน้องเอิร์ธอีก 2 คน วิ่งหนีออกไปทางด้านหลังโรงเรียนได้ทัน  


ผู้ก่อเหตุได้ดึงตัวน้องเอิร์ธไปยืนใต้ต้นไม้ ห่างจากจุดม้านั่งหินอ่อนประมาณ 20 เมตร ซึ่งตรงนั้นไม่มีกล้องวงจรปิด พอข่มขู่เอาโทรศัพท์ของน้องได้แล้ว นายโหน่งก็วิ่งออกไปทางหลังโรงเรียน และซ้อนท้ายจักรยานยนต์ ที่เด็กหญิงบี อายุ 14 ปี สตาร์ทเครื่องรอไว้ และขี่รถหลบหนีไปในเวลาประมาณ 14.57 น.  

--------------

วานนี้ (1 เม.ย. 67) ผู้สื่อข่าวไปพบกับ นางรัตน์ อายุ 60 ปี ชาวบ้านบ้านคำบง ต.สะอาด อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น และ น้องเอิร์ธ อายุ 10 ปี พาไปชี้ดูจุดเกิดเหตุภายในโรงเรียน พร้อมกับเล่าว่า


เมื่อวันอาทิตย์ที่ 31 มี.ค.2567 ที่ผ่านมา ตอนช่วงบ่าย น้องเอิร์ธไปนั่งเล่นโทรศัพท์กับเพื่อนที่โรงเรียน ซึ่งอยู่ตรงข้ามบ้าน ซึ่งปกติก็จะมานั่งเล่นเป็นประจำและรอซ้อมบอลกับพี่ ๆ ตอนเย็น  


ขณะที่ นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ที่ม้านั่งหินอ่อนข้างสนามฟุตบอลกับเพื่อนอีก 2 คน รวมเป็น 3 คน คนร้าย 2 คน ขี่จักรยานยนต์เข้ามาในโรงเรียน แล้วมานั่งลงกลางวง พร้อมกับนับเลขแล้วพูดว่า “หนึ่ง สอง สาม ส่งโทรศัพท์มา ไม่งั้นตาย” พอคนร้ายพูดจบ เพื่อนของน้องเอิร์ธ 2 คน ลุกขึ้นวิ่งหนีทันที ส่วนน้องเอิร์ธถูกคนร้ายจับล็อกคอไว้ แล้วลากมาที่ใต้ต้นไม้ ห่างจากไม้หินอ่อนประมาณ 20 เมตร แล้วบอกว่า “เอาโทรศัพท์มาให้พี่คุยกับลุงที่อยู่กรุงเทพหน่อย” น้องเอิร์ธจึงบอกคนร้ายไปว่ายายห้ามให้โทรศัพท์คนอื่นเด็ดขาด คนร้ายจึงขู่ว่า “ถ้ามึงไม่ให้โทรศัพท์กู กูจะตีมึง” น้องเอิร์ธกลัว ต้องส่งโทรศัพท์ให้คนร้ายไป และยังบังคับให้บอกรหัสปลดล็อกโทรศัพท์ พอคนร้ายได้รหัสปลดล็อกโทรศัพท์แล้ว ก็ปล่อยตัวน้องเอิร์ธ ก่อนจะขึ้นจักรยานยนต์ ขี่หลบหนีไปทางหน้าสถานีอนามัยในหมู่บ้าน  


น้องเอิร์ธบอกว่า คนก่อเหตุชื่อนายโหน่ง เคยเห็นมาเล่นที่โรงเรียนประจำ ตอนนี้อยากได้โทรศัพท์คืน เพราะเป็นสมบัติชิ้นเดียวของพ่อที่เหลืออยู่ หลังจากพ่อตาย มีข้อมูลและรูปภาพของพ่ออยู่ในนั้น ที่น้องเอิร์ธเก็บไว้ดูเวลาคิดถึง


ด้าน นางรัตน์ บอกว่า ตนไม่อยากเอาเรื่อง เพราะกลัวคนก่อเหตุจะแค้น และย้อนกลับมาทำร้าย เพราะตนอาศัยอยู่กับหลานแค่สองคน แต่อีกใจก็กลัวคนก่อเหตุจะไปก่อเหตุที่อื่นอีก หากไม่จับกุมแล้วจะได้ใจ เบื้องต้น ยายไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน และพาหลานไปแจ้งความที่ สภ.น้ำพอง แล้ว


ขณะที่ นายแมน นันโมง ผู้ใหญ่บ้านบ้านคำบง กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นถือเป็นภัยสังคม ตนจึงพายายหลานผู้เสียหาย ไปแจ้งความแล้ว และรายงานให้ฝ่ายปกครองทราบ  


นอกจากนี้ ยังไปขอดูภาพจากกล้องวงจรปิด บริเวณทางเข้าโรงเรียนบ้านคำบง ก็พบภาพ 2 คนร้ายที่ก่อเหตุ จึงส่งภาพนิ่งของคนร้าย เข้ากลุ่มไลน์ฝ่ายปกครอง และส่งให้ตำรวจด้วย  


ซึ่งในเวลาต่อมา ทราบจากผู้ใหญ่บ้าน บ้านดงมัน ม.6 ต.สะอาด ที่อยู่ใกล้เคียงกัน แจ้งว่า เห็นรถคันดังกล่าวจอดอยู่ในหมู่บ้าน จึงไปยึดรถคันดังกล่าวมาไว้ก่อน โดยมีนางเอ อายุ 33 ปี ชาวบ้านบ้านดงมัน มาแสดงตัวเป็นเจ้าของรถ แต่ไม่สามารถคืนให้ได้ เพราะเป็นยานพาหนะในคดีชิงทรัพย์ จึงให้ตำรวจมายึดเป็นของกลาง


นางเอ เจ้าของรถ จึงพาลูกสาวชื่อเด็กหญิงบี อายุ 14 ปี มาพบผู้ใหญ่แมน และสองยายหลานผู้เสียหาย พร้อมกับยกมือไหว้ขอโทษ  โดยเด็กหญิงบี บอกว่า นายโหน่งเป็นเพื่อนของญาติ และมานอนที่บ้านญาติ จึงรู้จักกัน วันเกิดเหตุ นายโหน่งมาขอยืมจักรยานยนต์ เหมือนที่เคยยืมมาหลายครั้ง และบอกว่า จะไปขอเงินลุงที่บ้านคำบง และขอให้ตนนั่งรถไปเป็นเพื่อน


แต่นายโหน่งกลับขี่รถไปที่โรงเรียนดังกล่าว แล้วจอดรถ สั่งให้ตนนั่งรอที่รถ ก่อนจะเดินเข้าไปในโรงเรียน ก่อเหตุชิงโทรศัพท์เด็ก หลังจากนั้น ก็เดินออกมา และบอกให้ตนเป็นคนขี่รถพากลับไปบ้านเพื่อน


น้องบี บอกว่า ตนเองเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง แต่ไม่กล้าห้าม เพราะกลัวนายโหน่งทำร้าย เพราะนายโหน่งเป็นขาใหญ่ ที่ทำร้ายคนมาแล้ว จึงกลัว


เมื่อนายโหน่งได้โทรศัพท์มือถือก็ให้ตนขับรถพากลับมายังบ้านเพื่อนที่บ้านดงมัน  ตนจึงเล่าเหตุการณ์ให้ญาติที่เป็นเพื่อนของนายโหน่งฟัง เมื่อเพื่อนรู้เรื่องจึงไล่นายโหน่งออกจากบ้าน แล้วนายโหน่งก็หลบหนีไป


นางเอ บอกว่า ลูกสาวของตนก็อาจจะไม่ใช่เด็กดี แต่เรื่องที่เกิดขึ้น เกิดจากนายโหน่ง ลูกของตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องจริง ๆ จึงอยากขอให้ยกโทษให้ และหลังจากมีภาพของลูกสาวเผยแพร่ในโซเชียล มีการคอมเมนต์ด้วยถ้อยคำรุนแรง ทำให้ตนกังวลว่า ลูกสาวจะไม่ปลอดภัย และกลัวนายโหน่งจะมาทำร้าย จึงมาปรึกษาผู้ใหญ่บ้านว่าควรต้องทำอย่างไร


ด้าน พ.ต.อ.ชุมพล บัวชุม  ผกก.สภ.น้ำพอง  เปิดเผยว่า ขณะนี้ ตำรวจทราบตัวผู้ก่อเหตุทั้งสองคนแล้ว โดยในส่วนของนายโหน่งที่หลบหนี ตอนนี้ ชุดสืบสวนลงพื้นที่เก็บรวบรวมหลักฐานจากกล้องวงจรปิดในจุดเกิดเหตุ และตามเส้นทางที่คาดว่าจะหลบหนี คาดว่าจะจับกุมตัวได้เร็ว ๆ นี้


เบื้องต้น จะออกหมายเรียกนายโหน่ง และเยาวชนหญิงอายุ 14 ปี มารับทราบข้อหาชิงทรัพย์ แต่เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นเยาวชน ต้องมีทีมสหวิชาชีพในการร่วมสอบปากคำด้วย ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอนทั้งหมด

-------------



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/en37M3n2omI

คุณอาจสนใจ

Related News