หวั่นคดีไม่คืบ! ร้องหลานชายถูกแก๊งโจ๋ตีหัวดับ ตร.แจ้งเป็นอุบัติเหตุ บอกค่อยเช็กบิลผู้ร้ายทีหลัง

ป้าวอนขอความเป็นธรรม หลานชายอายุ 16 ปี ถูกวัยรุ่นต่างหมู่บ้านใช้ท่อนเหล็กตีศีรษะขณะขับรถไปกับเพื่อนจนรถล้มเสียชีวิตแต่ตำรวจแจ้งให้ลงเป็นอุบัติเหตุเอาไว้ก่อน เดี๋ยวค่อยตามเช็กบิลทีหลัง หวั่นคดีไม่คืบ



วันที่ 14 พ.ย. 67 น.ส.ปราณี เงินรัตน์ อายุ 40 ปี ร้องสื่อ เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และอยากให้ตำรวจติดตามกลุ่มวัยรุ่นคาดว่ามีมากกว่า 20 คน มาดำเนินคดี



น.ส.ปราณี เล่าว่าเมื่อเวลา 01.00 น. คืนที่ผ่านมา นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี หลานชายถูกกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายบริเวณสามแยกข้างโรงพยาบาลห้วยราช ถนนสายห้วยราช-สตึก ต.ห้วยราชา อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์



จึงรีบไปที่โรงพยาบาลพบว่าหลานชายเสียชีวิตแล้ว ในลักษณะศีรษะถูกของแข็งจนกะโหลกเปิดออก ซึ่งจากการสอบถามนายบี (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี เพื่อนหลานชาย ซึ่งได้รับบาดเจ็บที่ขาขวา บอกว่าถูกกลุ่มวัยรุ่นเอาท่อนเหล็กมาตีหัวขณะขับรถแล้วรถล้มลง



ต่อมา ร.ต อ.สุธี ดาศรี รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ห้วยราช อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ ได้มาแจ้งกับตนว่า ทางตำรวจจะลงความเห็นว่าเป็นอุบัติเหตุเอาไว้ก่อน แล้วค่อยตามเช็คบิลกับผู้ก่อเหตุในภายหลัง



ส่วนตัวมองว่าทำได้ด้วยเหรอ ในทางคดีหากตำรวจลงความเห็นว่าเป็นอุบัติเหตุไปแล้ว จะมีผู้ต้องหาหรือตามหาคนร้ายได้อย่างไร จึงอยากจะให้ตำรวจทำงานอย่างตรงไปตรงมา เพราะมีกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน



น.ส.ปราณี เล่าอีกว่า ตนเลี้ยงหลานชายมาตั้งแต่หลานอายุได้ 3 เดือน เพราะพ่อแม่หลานชายแยกทางกัน ต่อมาน้องชายคือพ่อของหลาน เส้นเลือดในสมองแตก กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ตนซึ่งทำงานขับรถวินมอเตอร์ไซค์อยู่ที่พัทยา จึงเอาหลานไปหัดขับรถวินด้วย มีรายได้หลานก็ส่งมาให้พ่อเป็นค่าจ้างคนดูแล ตอนนี้หลานเสียชีวิตไปแล้วยังไม่รู้ว่าจะมีเงินที่ไหนมาดูแลน้องชายที่ป่วยติดเตียง



สอบถามนายเพียว เพื่อนหลานชาย เล่าว่าก่อนเกิดเหตุ มีผู้หญิงที่รู้จักกันทางเฟซบุ๊ค โทรให้ตนออกไปหา ตนจึงชวนเพื่อนคนผู้เสียชีวิตไปเป็นเพื่อน เมื่อไปจุดนัดพบเห็นผู้หญิง 2 คนนั่งก้มหน้าอยู่ฟุตบาท เพื่อนจึงขับรถแบบชะลอความเร็วลง จากนั้นได้มีรถจักรยานยนต์ซ้อนกันมา 2 คน ขับสวนมาแบบช้า ๆ จากนั้นคนซ้อนท้ายได้ใช้ท่อนเหล็กตีเสยใส่หัวของเพื่อนซึ่งเป็นคนขับก่อนรถจะเสียหลักล้มลง



หลังจากนั้นได้มีรถจักรยานยนต์อีกหลายคันขับมารุมทำร้ายตนคนเดียว จึงวิ่งหนีเข้าไปในร้านสะดวกซื้อเพื่อเอาตัวรอด เมื่อเรื่องสงบลงจึงเดินไปดูเพื่อนพบว่าไม่ได้สติแล้ว ตรงกับเจ้าของบ้านในที่เกิดเหตุเล่าว่าได้ยินเสียงดังเหมือนคนทำร้ายกัน มีคนในกลุ่มนั้นบอกว่าพอแล้ว ๆ