สังคม
สองผัวเมียขี่จักรยานยนต์เปิดไฟฉุกเฉิน ติดสติกเกอร์ 191 อ้างรถติดรีบไปทำงาน
โดย panisa_p
10 พ.ค. 2567
412 views
วันที 10 พฤษภาคม 2567 พันตำรวจตรี ปพนเอก บุญอนันต์ สารวัตรปราบปราม สภ.พระประแดง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจาก เจ้าหน้าที่กู้ภัยและชาวบ้านว่ามีรถจักรยานยนต์ ซ้อน 2 ผู้ชายขับและผู้หญิงนั่งซ้อนท้าย โดยรถจักรยานยนต์ได้ติดตั้งสัญญาณไฟฉุกเฉิน แล้วเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินบนถนนสุขสวัสดิ์เจอช่วงเช้าและช่วงเย็น วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้ทำการไปดักรอรถคันดังกล่าวบริเวณปากซอยสุขสวัสดิ์ 43 จนพบรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวขับตามถนนสุขสวัสดิ์จากสามแยกพระประแดงมุ่งหน้าพระสมุทรเจดีย์ โดยเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินมาตลอดทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยจึงได้ทำการหยุดรถเพื่อตรวจสอบ
ผู้ขับขี่ชื่อนายสัณฐิติ อายุ 36 ปี และภรรยาซ้อนท้ายมา โดยตรวจสอบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นคลิก150 สีดำ หมายเลขทะเบียน 5 กล 333 กรุงเทพมหานคร โดยที่รถด้านหน้าติดสติ๊กเกอร์กองทัพเรือ และด้านข้างติดสติ๊กเกอร์ 191 และด้านหน้ากับด้านท้ายรถติดสัญญาณไฟฉุกเฉินสีแดง ส่วนหมวกกันน็อคที่สวมใส่สีดำติดไฟกระพริบทั้ง 2 ใบ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวผู้ขับขี่และรถจักรยานยนต์ ไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.พระประแดง
โดยผู้ขับขี่และภรรยาทำงานอยู่แถวพระราม 3 และตนเองไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่หรืออาสาสมัครแต่อย่างใดและบ้านพักอยู่ภายในซอยสุขสวัสดิ์ 74 หรือซอยวัดชมนิมิตร โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูได้สอบถาม ว่าทำไมต้องเปิดไฟสัญญาณฉุกเฉิน ทราบว่าจะรีบไปทำงานและรีบกลับบ้านในช่วงเวลาเช้า - เย็น จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหา ใช้สัญญาณไฟฉุกเฉินหรือสัญญาณไฟวาบๆโดยไม่ได้รับอนุญาต และได้ทำการปรับไปจำนวนเงิน 1,000 บาท และให้นาย เอ ถอดสัญญาณไฟฉุกเฉินและเอาสติ๊กเกอร์ 191 ออก
โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยได้รับผลกระทบ โดยชาวบ้านเข้าใจผิดนึกว่าเป็นเจ้าหน้าที่หรือเป็นอาสาสมัครมูลนิธิที่เปิดไฟฉุกเฉินเพื่อไปช่วยเหลือผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บหรือมีเหตุฉุกเฉิน ส่วนเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัย ก็จะได้รับผลกระทบในการขณะที่มีเหตุจริงหรือในการช่วยเหลือผู้ป่วยผู้บาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาล จะทำให้ชาวบ้านที่ใช้รถใช้ถนนเข้าใจผิดและจะไม่ให้ความร่วมมือในการเปิดเส้นทางขณะที่มีเหตุฉุกเฉิน
ส่วนทางด้านผู้ขับขี่ กล่าวว่า ตนก็ต้องขอโทษทางเจ้าหน้าที่และชาวบ้านที่ใช้เส้นทางบนถนน ที่ตนได้เอาสัญญาณไฟฉุกเฉินมาติดที่รถเพื่อสะดวกในการใช้เส้นทางช่วงเช้าขณะไปทำงานและช่วงเย็นขณะกลับบ้านพัก และรวมถึงสติ๊กเกอร์ 191 ที่ตนติดเพื่อเวลาไปเจอกลุ่มวัยรุ่นที่ขับจักรยานยนต์ ที่ขับรถแว้นประมาทหวาดเสียว เมื่อเห็นตนก็จะได้หลีกเลี่ยงไม่มายุ่งกับตน เพราะก่อนหน้านี้ตนใช้รถชอบมีปัญหากับวัยรุ่นบนท้องถนน พอมาติดสัญญาณไฟฉุกเฉินและติดสติ๊กเกอร์ ปัญหานั้นก็หายไป ตนจึงได้ติดมาตลอดจนวันนี้ถูกเจ้าหน้าที่เรียกตรวจสอบและรู้ว่าผิดกฎหมาย
นายณัฐกิตติ์ พรนิมิตรเทพ จนท.มูลนิธิร่วมกตัญญูเล่าว่า เท่าที่เราทราบมามีรถจักรยานยนต์ ได้ติดตั้งสัญญาณ ไฟวับวาบและใช้ความเร็วในพื้นที่ จึงได้ทำการดักรอว่าจะมีการเปิดสัญญาณไฟวับวาบไหม ตามที่ได้รับแจ้งมาจากการร้องเรียนของประชาชน ของผู้พบเห็นและในวันนี้ทางเราจึงได้มาพบกับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวว่าเปิดไฟสัญาณจริง จากการสอบถามว่าเปิดเพราะสาเหตุอะไร มีเหตุที่ไหน คู่กรณีแจ้งว่า ต้องการที่จะกลับบ้านได้รวดเร็วขึ้น เนื่องจากการจราจรติดขัดจึงขอเปิดสัญญาณไฟ โดยที่ไม่มีเหตุการณ์อะไร จึงให้ทางเรา ได้ว่ากล่าวตักเตือน
จากนั้นจึงส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ เนื่องจากรถที่ติดตั้งสัญญาณไฟ มันผิดกฎหมาย และมีตราสัญลักษณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย นอกจากนี้ยังสร้างความเสื่อมเสียให้กับมูลนิธิด้วย จึงจำเป็นต้องนำคู่กรณีดังกล่าวมาที่สถานีตำรวจสภ.พระประแดง เพื่อสอบปากคำและดำเนินคดีตามกฎหมาย หากการเปิดสัญญาณไฟวับวาบย่อมส่งผลกระทบ ซึ่งถ้า ไม่มีเหตุ อันควรจริงๆ บางทีประชาชนเขาอยากจะมีความช่วยเหลือ สังคมซึ่งเมื่อเห็นสัญญาณไฟฉุกเฉินมา ก็อยากจะหลบหลีกให้แต่ว่า เมื่อหลบหลีกแล้วรถคันดังกล่าว ไม่ได้มีเหตุการณ์จริงอาจจะทำให้ประชาชนเข้าใจผิดและเสื่อมศรัทธา ในอาสามูลนิธิหรืออาจจะเสื่อมศรัทธาในสัญญาณไฟ ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์จริง ประชาชนอาจจะไม่หลบหลีกก็ได้ทำให้ เกิดการเสียโอกาสกับผู้ป่วยหรือผู้ได้รับบาดเจ็บ ที่เราจะต้องนำส่งโรงพยาบาล ณ เวลานั้น
แท็กที่เกี่ยวข้อง รถติด ,จักรยานยนต์ ,ไฟฉุกเฉิน