ตร.รวบหลานวัย 37 ขาดยาจิตเวช ฉุนยายไม่มีสาเหตุเตะดับ

หลานชายวัย 37 ปี ขาดยาจิตเวช เตะยายจนเสียชีวิตก่อนจะเดินหนีข้ามอำเภอ สุดท้ายจนมุมตำรวจคุมตัวดำเนินคดี

วันนี้ (6 มี.ค. 67) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า กรณีนายทิภากร อายุ 37 ปี หลานชาย เตะนางเที่ยง อายุ 91 ปี เป็นยายดับ ญาตินำนางเที่ยงส่งรพ. และเสียชีวิตในเวลาต่อมา


สภ.เวียงเก่า พนักงานสอบสวนพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ทำการสอบสวน นายทิภากร ก่อนที่จะควบคุมตัวเข้าควยคุมที่ห้องขัง โดยผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถาม นายทิภากร ว่าสาเหตุที่ลงมือเพราะอะไร ภายหลังจากทางตำรวจสอบสวนเสร็จได้เดินออกจากห้องสอบสวนมาโดยยังไม่ตอบคำถามกับผู้สื่อข่าว ซึ่งผู้สื่อข่าวถามถึงสาเหตุที่ลงมือใช่เพราะขอเงินไม่ได้ หรือทะเลาะกับยายนายทิภากร ก็ไม่ยอมตอบ ก่อนที่ผู้สื่อข่าวจะถามว่ารู้ตัวหรือไม่ว่าทำอะไรลงไป

นายทิภากรตอบว่ารู้ตัว ตอนที่ลงมือพอเห็นยายก็เตะทันที เพราะว่ารู้สึกโมโห โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงสาเหตุว่าทำไมถึงลงมือทำยายโมโหเพราะสาเหตุใด โดยนายป๋องไม่ยอมตอบและมีสีหน้าที่นิ่งเฉย เดินเข้าห้องควบคุมตัวผู้ต้องหา ก่อนที่ช่วงหน้าประตูผู้สื่อข่าวถามอีกครั้งว่าอยากจะขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นหรือไม่อยากจะขอโทษดวงวิญญาณคุณยายหรือไม่ ซึ่งนายทิภากรตอบว่าไม่เป็นไร ด้วยหน้าตาที่เรียบเฉยเดินเข้าห้องควบคุมตัวไป


พ.ต.อ.อติเมธ พลมุข ผกก.สภ.เวียงเก่า กล่าวว่า จากการสอบถามญาติพี่น้อง ทราบว่า ผู้ต้องหาเคยเสพยาเสพติด และกลายเป็นผู้ป่วยจิตเวช รักษาตัวมาตลอด แต่ระยะหลังไม่ยอมกินยา จนมีอาการลืมตัว หลงลืม และเอะอะโวยวาย แต่ไม่ทำร้ายใคร เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจปัสสาวะ ในเบื้องต้น ไม่พบสารเสพติดแต่อย่างใด


ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งพบญาติพี่น้องตั้งบำเพ็ญกุศลศพ และสวดอภิธรรมศพนางเที่ยงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้านนายอดิศร อายุ 41 ปี พี่ชายของนายทิภากร กล่าวว่า ตอนนี้ครอบครัวไม่สะดวกให้ข่าวเพราะทุกคนเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ส่วนที่บ้านที่เกอดเหตุนั้น ครอบครัวอยู่กัน 4 คน คือ พ่อ แม่และนายทิภากรและยาย และที่น้องชายเป็นแบบนี้นั้น เพราะเมื่อก่อนน้องชายเคยเสพยาเสพติดจนกระทั่งป่วยจิตเวช แต่ไม่เคยมีเหตุการณ์รุนแรง และการที่น้องชาย ทำร้ายยาย จนตายก็ไม่ทราบสาเหตุ เพราะไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ และยังไม่คิดเรื่องประกันตัวน้องชาย เพราะต้องจัดงานศพให้ยายก่อน เพราะช่วงเกิดเหตุ พ่อแม่ไปตลาดไปซื้อของมาขาย ที่บ้านจึงเหลือยายกับน้อง เพราะที่บ้าน เปิดเป็นร้านขายของชำ