สังคม

อสังหาฯภูเก็ต ฮอตมาก! มูลค่าพุ่งทะยานแสนล้าน ราคาที่ดิน 25-100 ล้านบาทต่อไร่

โดย chutikan_o

8 ก.พ. 2567

80 views

อสังหาฯภูเก็ตความนิยมสูง ราคาที่ดิน 25-100 ล้านบาทต่อไร่ มูลค่าพุ่งทะยานแสนล้านบาท แพงสุดในประวัติศาสตร์

วันนี้ (8 ก.พ. 2567) นายภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2567 ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตตลอดทั้งปี 2566 ได้รับความนิยมอย่างมาก ทำให้ราคาที่ดินสูงถึงไร่ละ 25-100 กว่าล้านบาท มีคอนโดมิเนียมและบ้านตากอากาศเปิดขายใหม่สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ ด้วยมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท มีคอนโดมิเนียม 36 โครงการ 8,743 หน่วย กว่า 49,559 ล้านบาท จากปกติเปิดปีละ 2,000-3,000 ยูนิต และเป็นผู้พัฒนารายใหญ่จากกรุงเทพฯ และในพื้นที่ เช่น บมจ.แสนสิริ บมจ.แอสเซทไวส์ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ บจ.บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป เป็นต้น

ส่วนปี 2567 คาดว่าจะมีเปิดขายอีก 4,500 ยูนิต ขณะที่ในตลาดมีคอนโดมิเนียมอยู่ระหว่างขาย 75 โครงการ 22,253 ยูนิต ขายไปแล้ว 14,484 ยูนิตหรือ 65.08% รอขายอยู่ 7,769 ยูนิต คิดเป็น 34.91% ส่วนใหญ่สนใจพัฒนาโครงการพื้นที่ฝั่งตะวันตกของภูเก็ต เช่น บางเทา เชิงทะเล รอบลากูน่า กมลา ระดับราคา 5-10 ล้านบาท

สำหรับบ้านพักตากอากาศมีเติบโตแบบก้าวกระโดดเช่นกัน มีเปิดขายใหม่ถึง 61 โครงการ 1,108 ยูนิต ด้วยมูลค่ากว่า 51,002 ล้านบาท สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา ส่วนใหญ่อยู่ฝั่งตะวันตกของเกาะ โดยเฉพาะบางเทา เชิงทะเล และรอบลากูน่า โดยมีผู้พัฒนา เช่น บมจ.ลากูน่า รีสอร์ท แอนด์ โฮเท็ล และผู้พัฒนารายใหญ่จากกรุงเทพฯ เช่น บมจ.แสนสิริ, บมจ.แอสเซทไวส์, บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้, บจ.ฮาบิแทท กรุ๊ป รวมถึง บมจ.ไซมิส แอสเสท และหลายโครงการได้รับความสนใจจากผู้ซื้อเป็นอย่างดี โดยเฉพาะกำลังซื้อรัสเซียที่ซื้ออยู่เองและเหมาเพื่อลงทุนปล่อยเช่าให้คนรัสเซียด้วยกันเอง รวมถึงเริ่มมีคนอิสราเอลเข้ามาเช่าที่อยู่อาศัยหรือโรงแรมพักระยะยาวมากขึ้นในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา หลังเกิดสงคราม

ขณะที่ปัจจุบันมีโครงการอยู่ระหว่างการขาย 107 โครงการ 2,316 ยูนิต ขายได้แล้ว 1,220 ยูนิต เหลือขาย 1,096 ยูนิต กว่า 98% เป็นบ้านเดี่ยว ราคาต่ำกว่า 30 ล้านบาท รองลงมา 30-50 ล้านบาท และ 50-70 ล้านบาท โดยตลาดบ้านพักตากอากาศปี 2566 ที่ผ่านมา ได้ความสนใจจากกำลังซื้อต่างชาติมาก จากยุโรป เช่น เยอรมัน เดนมาร์ก และเอเชีย เช่น จีน ฮ่องกง และ สิงคโปร์ เป็นต้น ทำให้ทุกโครงการมียอดขายต่างชาติเต็มโควต้า 49% ต้องขายแบบเช่าระยะยาว 30+30+30 ปี ขณะที่ผู้พัฒนาโครงการ บมจ.ออริจิ้น มีส่วนแบ่งตลาดมากสุดในส่วนของตลาดคอนโดมิเนียม ส่วนบ้านตากอากาศเป็น บจ.โบทานิก้า ลักชูรี่ ภูเก็ต

คุณอาจสนใจ

Related News