ทลายสาวหมวยนั่งตู้ ‘อาบ อบ นวด’ ย่านห้วยขวาง โยงทุนจีนสีเทา

มีรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของคืนที่ผ่านมา (25 ม.ค.67) ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มีคำสั่งให้ผู้บังคับการ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล นำกำลังร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสน. พื้นที่ เข้า ตรวจค้นจับกุม สถานบริการอาบอาบอบนวด ชื่อ The Office ซึ่งตั้งอยู่ในย่านห้วยขวางเขต สน. มักกะสัน การตรวจค้นดังกล่าวสามารถจับกุมผู้ที่ร่วมกระทำความผิดได้ทั้งสิ้น 43 ราย

โดยเบื้องต้น มีการแจ้งหามั่วสุมในสถานการค้าประเวณี เพื่อประโยชน์ในการค้าประเวณีของตนเองหรือผู้อื่น จำนวน 37 ราย แบ่งเป็นสัญชาติไทย 9 ราย สัญชาติจีน 16 ราย และ สัญชาติเวียดนาม 12 ราย

และมีการแจ้งข้อหาร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใดให้เพื่อบุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม และไม่ว่ากระทำต่าง ๆ อันประกอบเป็นความผิดนั้นจะได้กระทำภายในหรือนอกราชอาณาจักร, เป็นเจ้าของกิจการการค้าประเวณี ผู้ดูแลหรือผู้จัดการกิจการการค้าประเวณี หรือเป็นผู้ควบคุมผู้กระทำการค้าประเวณีในสถานการค้าประเวณี จำนวน 6 คน คือ ไทย 5 ราย และ จีน 1 ราย

โดยปฏิบัติการในครั้งนี้ คณะทำงานตรวจพบว่ามีผู้หญิงชาวจีน และชาวเวียดนาม เข้ามาปะปนในสถานบริการ อาบ อบ นวด ในพื้นที่กรุงเทพ จึงเริ่มมีการสืบสวนจนทราบว่า มีการเชื่อมโยงกับทุนจีน จึงเกิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้น จับกุมดังกล่าว

พล.ต.ต.ธีรเดช ระบุว่า เบื้องต้นขั้นตอนต่อจากนี้ จะต้องทำการสอบสวนให้ได้ทราบข้อเท็จจริงก่อนว่า ใครเป็นนายทุนของสถานที่แห่งนี้ ซึ่งขณะนี้ขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลในส่วนนี้จากกลุ่มผู้ต้องหาที่มีการดำเนินการจับกุมมา

รวมถึงจะต้องทำการ สืบสวนสอบสวนให้ได้ว่าใครเป็นนายหน้าในการจัดหาหญิงต่างชาติเข้ามาที่สถานบริการแห่งนี้ ซึ่งในขณะนี้ยังไม่พบว่ามีพฤติการณ์นำหญิงไทย ออกไปยังต่างประเทศ แต่ขบวนการนี้จะเป็นการนำหญิงต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีนและเวียดนาม เข้ามาในสถานบริการ แบบนี้ในประเทศไทย

ขณะที่ในส่วนของบรรยากาศสถานบริการดังกล่าวในวันนี้ พบมีเจ้าที่รักษาความปลอดภัยยังคงปฏิบัติงานอยู่ภายในรั้วของตัวสถานบริการ แต่ประตูด้านหน้ามีการปิดเอาไว้อย่างมิดชิด ไม่มีใครเข้าออก

ขณะที่ขั้นตอนการดำเนินการ ทราบว่าในช่วงสายที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สน. มักกะสัน มีการรวบรวมผู้ต้องหาทั้ง 37 ไปดำเนินการส่งฟ้องต่อศาลแขวงพระนครเหนือ ตามขั้นตอน

ในส่วนของ 6 ผู้ต้องหา ที่ถูกแจ้งข้อหาเป็นธุระจัดหา ขณะนี้ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน และเตรียมนำส่งศาลอาญาถนนรัชดา ภายในวันพรุ่งนี้เนื่องจากทั้ง 6 ถูกแจ้งข้อหาที่มีอัตราโทษจำคุก จำเป็นต้องส่งศาลอาญา

ซึ่งมีรายงานในส่วนของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ว่าขั้นตอนต่อจากนี้ หากทางศาลมีคำสั่งให้ประกันตัว ผู้กระทำความผิด หรือมีคำสั่งให้เปรียบเทียบปรับเท่านั้น ก็จะต้องปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ในส่วนของผู้ต้องหาชาวไทยและต่างชาติ

ส่วนผู้ต้องหาต่างชาติ หากทางพนักงานสอบสวนมีการยื่นให้มีการเพิกถอนวีซ่า ก็จะต้องมีการทำเรื่องมาที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อพิจารณาพิจารณาในประเด็นดังกล่าว และหากมีการเพิกถอนวีซ่าเป็นที่เรียบร้อย ก็จะเข้าขั้นตอนในการดำเนินการเรียกผู้ต้องหาชาวต่างชาติที่ถูกเพิกถอนวีซ่า มาทำการกักตัวและผลักดันออกนอกประเทศกลับไปสู่ประเทศต้นทาง โดยค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับทั้งหมดจะเป็นของผู้ต้องหาเอง หากผู้ต้องหาหรือญาติไม่สามารถดำเนินการจัดหาค่าใช้จ่ายในการกลับประเทศได้ ก็ต้องถูกกักอยู่ในห้องกักของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองไปจนกว่าจะสามารถเดินทางกลับประเทศตนเองได้