ฟันแล้ว 2 ตำรวจ ด.ต.ผิดม.157 - พ.ต.ท.ผิดวินัย บังคับขู่เข็ญ 'ลุงเปี๊ยก' รับสารภาพฆ่า 'ป้าบัวผัน'

วันที่ 20 มกราคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลตำรวจโทสมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมด้วยคณะกรรมการตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน กรณีการเสียชีวิตของป้าบัวผัน ซึ่งถูกเยาวชน 5 คน ทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต โดยใน 5 คนนั้น มีลูกตำรวจเข้าร่วมก่อเหตุด้วย รวมไปถึงกรณีของ นายปัญญา หรือ ลุงเปี๊ยก ที่ตร.จับผิดตัวแจ้งข้อหาฆ่าป้าบัวผัน และต่อมายังพบว่า ดาบตำรวจภิเศก ผู้บังคับหมู่สืบสวน สภ.อรัญประเทศ ได้นำถุงดำมาคลุมศีรษะ และข่มขู่ให้รับสารภาพ ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมด เกิดขึ้นภายใน สภ.อรัญประเทศ


ผู้บัญชาการภาค 2 ระบุว่า จากการแต่งตั้งรอง ผบช.ภ. 2 เป็นประธานกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่มีคลิปเสียงเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรอรัญประเทศ มีการบังคับขู่เข็ญให้นายปัญญา รับสารภาพในคดีฆาตกรรมนางสาวบัวผัน ตามที่ตำรวจภูธรภาค 2 มีคำสั่งที่ 14/2567 ลงวันที่ 17 ม.ค.67 และแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่มีคลิปเสียงเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรอรัญประเทศ มีการบังคับขู่เข็ญให้นายปัญญา รับสารภาพในคดีฆาตกรรมนางสาวบัวผัน โดยตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เสร็จสิ้นภายใน 3 วัน


ล่าสุด คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเสร็จสิ้นแล้ว ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง “มีข้าราชการตำรวจ สถานีตำรวจภูธรอรัญประเทศ จำนวน 2 นาย เข้าข่ายกระทำความผิดวินัยตำรวจ ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 ” และมีเพียง 1 นาย กระทำผิดอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157


ส่วนความผิดตาม พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 พยานหลักฐานยังไม่เพียงพอที่จะแจ้งข้อกล่าวหา


ตำรวจภูธรภาค 2 จะส่งสำนวนการตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้พนักงานสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว สืบสวนสอบสวน รวบรวบพยานหลักฐานเพิ่มเติม หากพบว่ามีการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 หรือกฎหมายอื่นใด จะได้กล่าวโทษดำเนินคดีกับตำรวจผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาด


ตำรวจภูธรภาค 2 ยืนยันว่า ในคดีดังกล่าวจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายกับประชาชนขอให้มั่นใจในการปฏิบัติงานของตำรวจภูธรภาค 2 ที่จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความโปร่งใส เป็นธรรมและตรวจสอบได้


โดยทางตำรวจพบกลุ่มลูกตำรวจและกลุ่มตังค์ไม่ออกเป็นคนละกลุ่มตระเวนก่อเหตุในพื้นที่ พลตำรวจตรีออมสิณ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้วเปิดเผยกรณีการก่อเหตุของกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่อรัญประเทศว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุแยกเป็นสองกลุ่มคือกลุ่มลูกตำรวจ กับกลุ่มตังค์ไม่ออก โดยกลุ่มตังค์ไม่ออกมีจำนวนคนมากกว่ากลุ่มแก๊งลูกตำรวจ จากรายงานของการสืบสวน กลุ่มลูกตำรวจมี 5 คน ส่วนกลุ่มตังไม่ออกมีจำนวน 12 คน ทั้งสองกลุ่มเป็นคนละกลุ่มกัน แต่เวลามาทำกิจกรรมยังไม่แน่ชัดว่ามาร่วมกันทำกิจกรรมอะไรหรือไม่ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ซึ่งเด็กกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ครอบครัวมีปัญหาเฉลี่ยอายุวัยรุ่น ไม่ถึง 18 ปี ก็จะก่อเหตุอาละวาด ทำลาย ทำร้าย ในพื้นที่ เมื่อถามว่าเหตุใดมีกลุ่มแก๊งขนาดนี้ตำรวจจึงไม่ดำเนินการปล่อยให้ประชาชนต้องเจอการก่อเหตุของกลุ่มเหล่านี้



พันตำรวจเอกจตุรภัทร์ หัวหน้าชุดพนักงานสอบสวนระบุว่า ที่ผ่านมาเวลาเกิดเหตุประชาชนไม่มาแจ้งตำรวจหรือมองว่าเป็นกลุ่มแก๊งตำรวจ ถ้ามาแจ้งตำรวจก็จะดำเนินการตามกฎหมายไม่ช่วย พอดำเนินการอย่างจริงจังก็เริ่มทยอยออกมาแจ้งความ รวม7 คดี ส่วนแก๊งลูกตำรวจ พิสูจน์ทราบแล้ว จำนวน 4 คดี มีคดีทำร้ายร่างกาย ล่วงละเมิดทางเพศ 3 คดี
กลุ่มตังค์ไม่ออก พบว่ามี 2 คดี และคดีเก่ายังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ คดีทำร้ายร่างกาย และเผารถจักรยานยนต์
หากประชาชนผู้เสียหายรายใดคิดว่ากลุ่มเด็กกลุ่มนี้ก่อเหตุก็มาแจ้งตำรวจได้


ผู้บัญชาการภาค 2 ยังระบุถึงกรณีการใช้ถุงดำคลุมหัวลุงเปี๊ยกว่า ยังไม่สามารถระบุได้ว่ามีการซ้อมทรมานหรือไม่และใช้ถุงดำคลุมหรือไม่เพราะดาบภิเศก ให้การปฎิเสธซึ่งต้องรอฝ่ายสอบสวนดำเนินการตรวจสอบ ส่วนหลักฐานเรื่องการคลุมถุงดำนั้นก็จะต้องให้ฝ่ายสืบสวนสอบสวนพิจารณาว่า มีน้ำหนักเพียงพอที่จะเชื่อถือและดำเนินคดีได้หรือไม่เพราะผู้ต้องหาปฏิเสธ และจากข้อมูลของคณะกรรมการที่ตรวจสอบไม่สามารถตอบได้ว่าใช้ถุงดำคลุม หรือไม่ เพราะเป็นข้อมูลอยู่ในชั้นสอบสวน ของตำรวจเป็นการรวบรวมหลักฐานเบื้องต้น ไม่สามารถตอบได้ว่ามีอะไรบ้างซึ่งหลักฐานเพียงคลิปเสียงอย่างเดียว ก็ต้องพิจารณาพิจารณาดูว่ามีน้ำหนักเพียงพอจะเอาผิดดาบภิเศก ได้หรือไม่ รวมไปถึงหลักฐานอื่นๆซึ่งไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้

ส่วนคำให้การของลุงเปี๊ยกไม่สามารถเอามารวมกันได้เนื่องจากตอนนี้ไม่สามารถสอบปากคำเปี๊ยกได้เพราะอยู่ระหว่างการบำบัดรักษาอาการพิษสุราเรื้อรัง


กรณีตำรวจที่ทำแผนในวันเกิดเหตุและนำเก้าอี้มาให้ ลุงเปี๊ยกจำลองเหตุการณ์นั้นจะเข้าข่ายความผิดด้วยหรือไม่ขณะนี้คณะกรรมการชุดตรวจสอบยังไม่ได้พิจารณาตรงจุดนี้ ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว เตรียมแจ้งข้อกล่าวหาดาบเสกใช้ถุงคลุมหัวลุงเปี๊ยก


หลังจากแถลงข่าวเสร็จสิ้นพนักงานสอบสวนได้เตรียมนำ สำนวนและหลักฐาน หลักฐานเตรียมแจ้งข้อหา ดาบเศก คนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนนำถุงดำคลุมหัวลุงเปี๊ยก โดยหลักฐานจากคลิปเสียงยืนยันชัดเจนว่าดาบเศก เป็นผู้ก่อเหตุส่วนหลักฐานอื่นๆยังต้อรอจากการสอบปากคำจากลุงเปี๊ยกโดย พนักงานสอบสวนต้องไปหาข้อมูลหลักฐานตามที่ลุงเปี๊ยกให้การด้วยเพื่อประกอบสำนวนคดี


ทั้งนี้ พนักงานสอบ สวนจะยังไม่สามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้ในวันนี้เพราะต้องรอเอกสารหลักฐานอย่างอื่น มาประกอบรวมถึงการสอบปากคำลุงเปี๊ยกซึ่งอยู่ระหว่างการรักษาตัวโดยผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาคสองระบุว่า ลุงเปี๊ยก ให้การในแต่ละ ครั้งไม่ตรงกันจากอาการพิษสุราเรื้อรังและหลังจากนี้เมื่อรักษาตัวแล้วก็จะเชื่อถือคำพูดของลุงเปี๊ยกได้