สังคม

DSI จ่อออกหมายเรียก 9 ตร.อรัญประเทศ แจ้ง ม.157-พ.ร.บ.อุ้มหายฯ ปมบีบ 'ลุงเปี๊ยก' รับฆ่า 'ป้าบัวผัน'

โดย panwilai_c

11 เม.ย. 2567

133 views

นอกจากคดีเยาวชน 5 คนที่สระเเก้ว ร่วมกันทำร้ายเเละฆาตกรรม นส.บัวผัน ย้อนกลับไปในช่วงนั้นถ้าท่านผู้ชมยังจำกันได้ ยังมีอีกหนึ่งคดีที่เกี่ยวเนื่องกัน ก็คือกรณีของ ลุงเปี๊ยก ในคดี 5 เยาวชนฆ่าป้าบัวผัว



ซึ่งในครั้งเเรก ตำรวจสภ.อรัญประเทศ เเจ้งว่า นายเปี๊ยก รับสารภาพเป็นคนฆ่าเเละกระทำด้วยความมึนเมา ก่อนจะพาไปชี้จุดทำเเผนประกอบคำรับสารภาพ เเต่หลักฐานจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุหน้าโรงพัก บันทึกเหตุการณ์ได้ชัดเจนว่า คนที่ทำร้ายเเละอุ้ม "นส.บัวผัน" ไม่ใช่ "นายเปี๊ยก" เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นร้อนทันที เมื่อมีการเปืดเผยคลิปเสียงที่ระบุว่า "นายเปี๊ยก" ถูกพาไปกระทำทรมานให้รับสารภาพ



ซึ่งต่อมาดีเอสไอ รับเรื่องนี้เป็นคดีพิเศษ เเละอัยการสูงสุด ก็ได้มีคำสั่งให้แต่งตั้งคณะทำงานร่วมกันตรวจสอบ



ล่าสุด ผลการพิจารณาได้ข้อสรุปว่า พนักงานสอบสวนดีเอสไอ จะออกหมายเรียกตำรวจสภ.อรัญประเทศ 9 นาย มารับข้อกล่าวหา ทั้งความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เเละความผิดที่เกี่ยวกับ พ.ร.บ.ทรมาน-อุ้มหายฯ



บางช่วงในคลิปเสียง ที่เปิดเผยออกมาทั้ง 2 คลิป เป็นหนึ่งในหลักฐานสำคัญ ที่นำมาสู่การตรวจสอบข้อสงสัยของสื่อมวลชน อะไรคือเหตุผลที่ "นายปัญญา หรือเปี๊ยก" รับเป็นคนฆ่าภรรยา ทั้งที่คนร้ายตัวจริง คือเเก๊งอันธพาลเด็ก มี 2 คน เป็นลูกตำรวจ



ย้อนกลับไปในช่วงกลางดึก คืนวันที่ 10 ต่อเนื่องเช้าวันที่ 11 มกราคม วงจรปิดในซอยหน้าสภ.อรัญประเทศ บันทึกพฤติกรรมเยาวชน 5 คน ลงมือทำร้ายเเละอุ้มนส.บัวผัน ขึ้นรถจักรยานยนต์ มุ่งตรงไปที่สระน้ำหลังโรงเรียนศรีอรัญโญทัย ซึ่งเป็นจุดที่พบศพ ซึ่งขณะนั้นภาพนี้ยังไม่เปิดเผย เเละไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น



วันต่อมา หลังจากกู้ภัยอรัญฯเเจ้งพบศพ ขณะนั้นก็พยายามหากันว่าใครคือฆาตกร การสืบสวนขณะนั้นให้น่ำหนักไปที่สามีซึ่งมีอาการติดสุรา กระทั่งช่วงสายวันเสาร์ที่ 13 มกราคม ตำรวจคุมตัว"นายเปี๊ยก" มาชี้จุด-ทำเเผนประกอบคำรับสารภาพ



นายเปี๊ยกถูกคุมตัวไปฝากขัง ท่ามกลางข้อสงสัยว่า อะไรคือเหตุจูงใจ จนกระทั่ง นายนัฏดนัย ผู้สื่อข่าวช่อง 8 ไล่วงจรปิดทั้งหมด เเละได้พบความจริงว่า คนฆ่าไม่ใช่"นายเปี๊ยก"



ร้อนถึงสำนักงานตำรวจเเห่งชาติ จนต้องรีบพานายเปี๊ยก ออกมาร่วมเเถลงข่าว ร่วมกับรองผบ.ตร.เเละผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เเละในตอนนั้นก็ยังยืนยันว่า "นายเปี๊ยก"รับสารภาพเอง ไม่มีใครบีบบังคับ



แต่ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว เมื่อมีคลิปเสียงเเละพยานออกมาเเฉว่า ก่อนที่นายเปี๊ยกปรากฏตัวในวันทำเเผนฯ มีตำรวจกลุ่มหนึ่ง ควบคุมตัวเเละมีพฤติการณ์เข้าข่ายทรมานให้รับสารภาพ



เมื่อตำรวจสอบกันเอง การเเถลงครั้งที่ 2 ผลคือเข้าข่ายผิดมาตรา 157 เเต่ยังไม่ชัดเรื่องความผิด ตามพรบ.ทรมาน-อุ้มหายฯ จึงเป็นเหตุผลที่ต่อมา ญาตินายเปี๊ยก ตีดสินใจร้องดีเอสไอ เเละรับเป็นคดีพิเศษ โดยทางสำนักงานอัยการสูงสุด ตั้งคณะทำงานร่วมกันตรวจสอบ ได้ข้อสรุปว่า ตำรวจสภ.อรัญฯทั้ง 9 นาย ตั้งเเต่ผู้บังบัญชา จนถึงชั้นประทวน เข้าข่ายความผิดมาตรา 157 เเละพ.ร.บ.ทรมาน-อุ้มหาย



นายน้ำเเท้ เลขานุการรองอัยการสูงสุด บอกว่า พนักงานสอบสวนดีเอสไอ จะออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา คาดว่าน่าจะช่วงหลังสงกรานต์นี้



ส่วนคดี 5 เยาวชน ที่ร่วมกันฆาตกรรม นส.บัวผัน ขณะนี้ยังอยู่ในการควบคุมในสถานทัณฑสถานของกรมราชทัณฑ์ เเละเมื่อ 13 มีนาคมที่ผ่านมา ศาลเยาวชนและครอบครัว จ.สระแก้ว สั่งปรับผู้ปกครองของเยาวชนทั้ง 5 คน ฐานความผิดปล่อยปละละเลย คนละ 10,000 บาท แต่ให้การรับสารภาพลดเหลือคนละ 5,000 บาท

คุณอาจสนใจ