สังคม

กลัวตายฟรี! พ่อร้องสื่อ ลูกวัย 15 ถูกรถบรรทุกชนเสียชีวิตคาที่ หวั่นคดีไม่คืบ

โดย chiwatthanai_t

20 ธ.ค. 2566

100 views

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 20 ธันวาคม 2566 นายสิริ ลอยดี อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 หมู่ 9 ต.ขามเฒ่า อ.เมือง จ.นครพนม ได้เดินทางเข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว กรณีบุตรชายคือนายสิริมงคล อายุ 15 ปี เด็กนักเรียนโรงเรียนดังแห่งหนึ่งในจังหวัดนครพนม ถูกรถบรรทุกเทรลเลอร์เฉี่ยวชนจนเสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดบนถนนชยางกูร ฝั่งจากอำเภอเมือง จ.นครพนม มุ่งหน้าไปยังอำเภอธาตุพนม ช่วงบ้านดงหมู ต.ท่าค้อ อ.เมือง จ.นครพนม เมื่อช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 12 ธันวาคม 2566 โดยขณะเกิดเหตุมีพยานหลายคนเห็นเหตุการณ์ และกล้องหน้ารถของพยานสามารถบันทึกภาพรถคันก่อเหตุไว้ได้ และพยายามเรียกให้คนขับรถบรรทุกหยุดช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่คนขับรถบรรทุกเพียงแค่ชะลอรถดูเหตุการณ์เพียง 2-3 นาที โดยไม่ยอมลงจากรถ เมื่อเห็นว่าผู้ประสบเหตุเสียชีวิตแน่นอนก็ได้ขับรถหลบหนีไปทันที



นายสิริ กล่าวว่าหลังทราบข่าวลูกชายประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต ตนซึ่งไปทำงานที่จังหวัดอุดรธานี ก็รีบลางาน และเดินทางกลับมาจัดงานศพให้ลูก และได้ติดตามความคืบหน้าทางคดีกับร้อยเวรสอบสวนเจ้าของคดี คือ ร.ต.อ. พยุง ศรีโฮง ก็ได้รับคำตอบแต่เพียงว่ากำลังติดตามทำคดีให้อยู่ แต่เนื่องจากคนขับรถที่ก่อเหตุได้ขับรถหลบหนีไปหลังเกิดเหตุเฉี่ยวชน ทำให้มีความยากลำบากในการติดตามรถที่ก่อเหตุ พร้อมแนะนำให้ตนไปขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามที่ต่างๆ ที่คาดว่ารถคันก่อเหตุวิ่งผ่านว่ามีหมายเลขทะเบียนอะไรบ้าง จะได้ออกหมายเรียกให้นำรถต้องสงสัยมาตรวจสอบให้ ซึ่งตนก็ได้เดินทางไปขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามที่ต่างๆ จนสามารถ ทราบหมายเลขทะเบียนรถต้องสงสัยมีลักษณะตามที่มีพยานที่เห็นเหตุการณ์แจ้งเบาะแสให้ และได้แจ้งให้ร้อยเวรเจ้าของคดีทราบแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ และประเด็นที่น่ากังขาประการหนึ่งคือ หลังเกิดเหตุเฉี่ยวชนจนมีผู้เสียชีวิตตนได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยในวันเกิดเหตุว่า ได้แจ้งลักษณะรถคันที่ก่อเหตุและเส้นทางที่ขับหลบหนีให้ร้อยเวรที่มาตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว แต่ไม่มีการขอความร่วมมือให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจตามสถานีตำรวจระหว่างทางสกัดจับเพื่อตรวจสอบแต่อย่างใด แต่กลับปล่อยให้ขับรถหลบหนีไปได้อย่างลอยนวล จนเวลาล่วงเลยไปกว่า 10 วัน ก็ยังไม่สามารถจับกุมรถคันก่อเหตุได้ ตนเกรงว่าหากจับได้จริงหลักฐานการกระทำผิดเช่นรอยแตกที่เกิดจากการเฉี่ยวชนจะถูกทำลายไปจนหมดสิ้นแล้ว จนไม่สามารถเอาผิดผู้ก่อเหตุได้อีก ตนเกรงว่าลูกจะตายฟรีจึงต้องเดินทางมาร้องเรียนต่อสื่อมวลชน เพื่อขอให้ช่วยติดตามคดีนี้ให้ด้วยเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้ลูกชายที่ต้องจบชีวิตลงในเหตุการณ์ครั้งนี้



โดย ร.ต.อ.พยุง ศรีโฮง ร้อยเวรเจ้าของคดี ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า คดีนี้อยู่ระหว่างเรียกรถต้องสงสัย ซึ่งมีทั้งหมด รวม 4 คัน ที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดที่วิ่งผ่านเส้นทางดังกล่าวในช่วงเวลาเกิดเหตุ ให้เจ้าของนำรถมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ อย่างละเอียดโดยจะตรวจหาร่องรอยการเฉี่ยวชน เปรียบเทียบกับรถจักรยานยนต์ ที่ถูกเฉี่ยวชนอย่างละเอียด พร้อมตรวจสอบกับระบบ จีพีเอส ของกรมขนส่งทางบก ที่สามารถตรวจสอบได้แบบเรียลไทม์ ว่าขณะเวลาเกิดเหตุรถคันไหนอยู่ในตำแหน่งใดด้วย โดยยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งทำคดีนี้อย่างเต็มที่ แต่เนื่องจากช่วงเวลาเกิดเหตุเป็นช่วงพลบค่ำ และรถก่อเหตุได้หลบหนี จึงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อตรวจหาทะเบียนรถต้องสงสัย ซึ่งก็ได้มาหลายคันและได้ออกหมายเรียกให้เจ้าของนำรถมาให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบแล้ว

คุณอาจสนใจ

Related News