สังคม
ตาเลี้ยงเดี่ยววอนช่วย สุขภาพแย่ทำงานไม่ไหว กำลังจะถูกไล่ที่ กลัวตายไปหลานสาว 5 คนจะไม่มีกิน ไร้ที่อยู่
โดย nut_p
1 ธ.ค. 2566
333 views
ตาเลี้ยงเดี่ยววัย 70 ปี วอนช่วยเหลือ เลี้ยงหลานสาว 5 คนตามลำพัง สุขภาพเริ่มย่ำแย่ ทำงานไม่ไหว ซ้ำกำลังจะถูกไล่ที่ กลัวตายไปหลานจะไม่มีกิน ไร้ที่อยู่
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 1 ธันวาคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจาก นายแป สานิพันธ์ อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 134/13 ม.1 ชุมชนพัฒนา ถนนแจ้งสนิท ต.บ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ว่า ร่างกายแก่ชราลง ทำให้ไม่สามารถ รับจ้าง หารายได้ มาเลี้ยงหลาน 5 คนได้เหมือนในอดีตที่ผ่านมา จึงอยากขอความช่วยเหลือ จากผู้มีจิตศรัทธา มาช่วยเหลือครอบครัว
ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ ไปที่บ้านของนายแป พบว่าเป็นบ้านไม้ ที่เก่าผุพัง ในชุมชนพัฒนา และบ้านที่สร้างอาศัยอยู่นั้น อยู่ในพื้นที่ของการรถไฟ โดยนายแปอาศัยอยู่กับหลานสาว รวม 5 คน คนโตอายุ 18 ปี ร่างกายไม่แข็งแรง คนที่สองอายุ 14 ปี คนที่ 3 เรียนชั้น ป5 คนที่ 4 เรียนชั้น ป2 คนที่ 5 เรียนชั้น ป.1
นายแป เปิดเผยว่า อาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวกับภรรยาและลูกชาย แต่ภรรยาเสียชีวิตไปประมาณ 7 ปีแล้ว ส่วนลูกชายมีภรรยาเป็นชาวลาว มีบุตรด้วยกัน 5 คน ตอนลูกสาวคนที่ 5 อายุได้เพียง 3 เดือน ลูกชายก็ถูกจับในคดียาเสพติด ถูกตัดสินจำคุก 8 ปี 6 เดือน ขณะนี้ติดคุกไปแล้ว 7 ปี ส่วนลูกสะไภ้ หนีออกจากบ้านไปตั้งแต่คลอดลูกคนที่ 5 แล้วก็ไม่กลับมาอีก
“ผมรับจ้างทุกอย่างเพื่อให้มีรายได้มาเลี้ยงหลาน 5 คน รายได้จากการรับจ้างในวันที่มีคนจ้างวันตกประมาณ วันละ 200 บาท หากไม่มีคนจ้างก็ไม่มีรายได้ หาเลี้ยงหลานมาจนถึงทุกวันนี้ แต่ขณะนี้ผมอายุมากขึ้น ร่างกายก็แก่ชรา รับจ้างไม่ไหว รายได้ก็ไม่มี จึงได้ไปขอข้าววัดมาให้หลานๆกินกัน โดยอาศัยรายได้จากเงินคนชราที่รัฐบาลให้มาเท่านั้นมาก ส่วนบ้านที่อาศัยอยู่ก็อยู่ในพื้นที่ของการรถไฟ และการรถไฟก็อยู่ในให้คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ออกไปอยู่ที่อื่น เพราะจะเอาที่ดินคืน แต่ไม่รู้จะหาที่อยู่ที่ไหนได้ จะไปอยู่บ้านมั่นคง ก็ไม่มีเงินผ่อน จึงยังหาทางออกไม้ได้ว่าจะพาหลานไปอยู่ที่ไหน ห่วงหลานทั้ง 5 คนมาก เพราะเกรงว่าถ้าตนตายไป หลานจะอยู่ยังไง”
นายแป กล่าวอีกว่า ขณะที่การเรียนหนังสือของหลานนั้น ได้รับการช่วยเหลือค่าเล่าเรียนจากรัฐบาล คนละ 500 บาท ส่วนเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้านักเรียน ต้องหาเงินมาซื้อเอง ทุกวันนี้ตนจึงให้หลานสาวคนโตและคนที่สองหยุดเรียน และให้สมัครเรียน กศน. มีเพียงหลานสาว 3 คนที่ยังเรียนตามปกติ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ตนหารายได้ไม่ได้ทำให้หลานต้องอดมื้อกินมื้อ เพราะไม่มีเงินซื้ออาหารมาให้กิน เคยมีหน่วยงานปกครองท้องถิ่น มาช่วยเงิน 5,000 บาท ช่วงที่ภรรยาเสียชีวิต แต่ก็ 7 ปี ผ่านมาแล้วหลายปี เงินก็หมดแล้ว เคยขอความช่วยเหลือกับหน่วยงานในพื้นที่ แต่ได้รับคำตอบว่า ไม่มีงบประมาณมาช่วยเหลือ จึงไม่มีทางออกว่าจะมีรายได้จากที่ไหน ใครจะมาช่วยเหลือได้บ้าง จึงขอความช่วยเหลือจากสื่อมวลชนให้ประชาสัมพันธ์ ความทุกข์ยากของตนออกไป เผื่อจะมีคนใจบุญมาช่วยเหลือตนกับหลาน 5 คน จะขอบพระคุณเป็นอย่าง