สั่งแล้ว! ขยายเวลาลงทะเบียนเลือกบอร์ดประกันสังคม ถึง 10 พ.ย.

ปลัดกระทรวงแรงงานลงนามในคำสั่งให้ขยายเวลาในการลงทะเบียนเพื่อเลือกบอร์ดประกันสังคมแล้ว โดยจะเลื่อนออกไปอีก 10 วัน ถึง 10 พ.ย. และจะขยายเวลาการรับสมัครเป็นตัวแทนฝ่ายนายจ้างและลูกจ้างออกไปด้วย

หลังจากรัฐมนตรีแรงงาน คุณพิพัฒน์ รัชกิจประการ ให้สัมภาษณ์ทีมข่าวช่อง 3 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (29 ต.ค.66) ว่าจะขยายเวลาการลงทะเบียนเลือกบอร์ดประกันสังคมออกไป จากเดิมให้ลงทะเบียนถึงวันนี้ (31 ต.ค.) หลังพบว่ามีผู้มาลงทะเบียนเพียง 2 แสนคน คือ ประมาณ 1% กว่า ๆ ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งประมาณ 14 ล้านคน

ล่าสุดวันนี้ นายไพโรจน์ โชติกสเถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยกับทีมข่าวช่อง 3 ว่า เพิ่งลงนามในคำสั่งให้ขยายเวลาในการลงทะเบียนเลือกบอร์ดประกันสังคมออกไปถึงวันที่ 10 พ.ย. นี้ จากเดิมจะหมดเขตในวันนี้ เนื่องจากล่าสุดเพิ่งมีผู้มาลงทะเบียนในส่วนของลูกจ้างที่อยู่ในระบบประกันสังคมเพียง 4 แสนกว่าคน จากผู้มีสิทธิประมาณ 14 ล้านคน และในส่วนนายจ้างลงทะเบียนแค่ 2 พันกว่าคน จึงให้ขยายเวลาออกไปเพื่อให้มีผู้มาใช้สิทธิเบือกตั้งให้มากที่สุด

นอกจากนี้ ก็ให้ขยายเวลาในการสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้แทนฝ่ายลูกจ้างและฝ่ายนายจ้างไปถึงวันที่ 10 พ.ย. ด้วยเช่นกัน เนื่องจากถึงล่าสุดฝ่ายลูกจ้างมีผู้สมามัครเพียง 149 คน ฝ่ายนายจ้างมาสมัคร 35 คน ซึ่งจะมีการเลือกตัวแทนของแต่ละฝ่าย ฝ่ายละ 7 คน ทั้งนี้ ได้วางแผนให้มีการประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น หลังจากถูกวิจารณ์ว่าประชาสัมพันธ์น้อย ทำให้ผู้ประกันตนไม่ทราบเรื่องและไม่ไปลงทะเบียน

ทั้งนี้ บอร์ดประกันสังคม มีทั้งหมด 21 คน เป็นฝ่ายรัฐบาลซึ่งมาโดยตำแหน่ง 7 คน และตัวแทนฝ่ายนายจ้าง และ ฝ่ายลูกจ้าง ฝ่ายละ 7 คน ที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 ธันวาคม นี้

การเลือกบอร์ดประกันสังคมครั้งนี้ จะเป็นการเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมครั้งแรกในรอบ 8 ปี ตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม หลังจากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้อำนาจพิเศษตามมาตรา 44 เลื่อนการเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมมาตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งจะเป็นการเลือกตั้งใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากการเลือกตั้ง สส. โดยจากฐานข้อมูลผู้ประกันตน มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 14 ล้านคน จากผู้ประกันตนทั้งสิ้นประมาณ 24 ล้านคน บอร์ดทั้ง 21 คน ก็จะเข้าไปทำหน้าที่สำคัญ คือ บริหารเงินของกองทุนประกีนสังคม ที่มาจากการสมทบของทั้งนายจ้าง ลูกจ้าง และภาครัฐ ปัจจุบันมีทรัพย์สินมากกว่า 2 ล้านล้านบาท