สังคม

รมว.ศึกษาแนะ 'เศรษฐกิจพอเพียง' แก้หนี้ครู "นั่งรถรวมกันไปสอน ไม่มีเงินใส่ซองก็ช่วยล้างจาน"

โดย paweena_c

14 ก.ย. 2566

3.6K views

รมว.ศึกษาแนะ 'เศรษฐกิจพอเพียง' แก้หนี้ครู "นั่งรถรวมกันไปสอน ไม่มีเงินใส่ซองก็ช่วยล้างจาน"

พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยและนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมประชุมกับผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อมอบนโยบายการศึกษา

ตอนหนึ่งในการประชุม พูดเรื่องการแก้หนี้สินครู โดยคิดว่าเป็นเรื่องหลักที่ต้องทำ เนื่องจากในช่วงที่เป็นตำรวจตนเองก็เป็นประธานคณะกรรมการแก้หนี้ตำรวจมาแล้ว และสามารถแก้ไขปัญหาได้ในระดับหนึ่ง เชื่อว่าประสบการณ์ที่มีจะสามารถนำมาใช้ได้ แต่การแก้หนี้ครูจะยากกว่าตำรวจเล็กน้อย เพราะครูมีมากกว่าตำรวจ ครูมี 4 แสนกว่าคน ตำรวจมี 2 แสนคน อาจจะต้องใช้เวลามากกว่า การแก้หนี้ อาจจะใช้ "ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง" เพื่อให้ครูเข้าใจมากขึ้น และมีนโยบายที่แก้ไขหนี้สินครู

“ซึ่งกระบวนการในการช่วยก็คือ ศึกษาปัญหาต่าง ๆ เพื่อช่วยกัน เช่นเรื่องค่าใช้จ่าย เวลาจะไปสอน บางทีอาจจะรวมรถกันไปสอน และอยู่ในความพอเพียง แต่บางทีเพื่อความเป็นหน้าเป็นตา เวลาจะไปงานอะไรก็ต้องใส่ 200 บาท ส่วนตำรวจโชคดีหน่อยใส่ 20 บาทก็ได้ไม่เป็นไร"

"ฉะนั้น เราต้องพยายามแก้ค่านิยมเรื่องนี้ อยู่แบบพอเพียง มี 20 ก็ใส่ 20 ไม่มีเงินก็ไม่เป็นไร ไปงานเขา ก็ไปช่วยเขาล้างจาน มาร่วมงานก็เป็นเกียรติแล้ว ต้องเปลี่ยนค่านิยมในการอยู่อย่างพอเพียง”

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเพิ่มเติม ความเห็นรัฐมนตรีฯในประเด็นการออกเงินเดือนของข้าราชการ จากเดือนละครั้งเป็นเดือนละ 2 ครั้ง ตามนโยบายรัฐบาลนั้น ในเรื่องนี้รัฐมนตรีมองว่า เหรียญมี 2 ด้าน เป็นเรื่องนานาจิตตัง แต่ส่วนตัวคิดว่าจ่ายเงินเดือน 2 รอบดีกว่ารอบเดียว เพราะบางคนกลางเดือนไม่มีเงินต้องไปหากู้ยืมเงินคนอื่นมาใช้ ต้องเสียดอกเบี้ยร้อยละ 5 ร้อยละ 10

นอกจากนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เน้นย้ำว่า การทำงานของตนเองจากนี้ไป การลงพื้นที่ตรวจสถานศึกษา ตรวจโรงเรียน จะไม่แจ้งล่วงหน้า เพราะอยากเห็นสภาพความเป็นจริงของโรงเรียน จะเดินทางไปตรวจแบบเงียบๆ โดยไม่มีรถนำ พร้อมฝากไปถึงข้าราชการในกระทรวงศึกษาธิการ สิ่งที่รับไม่ได้คือเรื่องการทุจริต ถ้าพบกระทำผิด ตนเองจะไม่เห็นหัวใจ หากใครทำผิดนอกจากลงโทษทางวินัยแล้ว ตนเองจะประจารณ์คนที่ทุจริตให้สังคมรับรู้ด้วย

สุดท้ายรัฐมนตรีว่ากระทรวงศึกษาธิการ ได้ย้ำว่า จากนนี้จะพัฒนา 1 อำเภอ 1 โรงเรียนคุณภาพให้เป็นโรงเรียนต้นแบบ และโรงเรียนอื่น ๆ ที่เป็นเครือข่ายสามารถเข้าไปใช้ทรัพยากรของโรงเรียนของโรงเรียนคุณได้ด้วย

คุณอาจสนใจ

Related News