สังคม

มือมืดเผาเล้าไก่ พลเมืองดีช่วยดับไฟ เอาไม่อยู่ ลามไหม้บ้าน 2 หลัง

โดย nut_p

17 ม.ค. 2566

43 views

วันที่ 17 มกราคม ร.ต.อ.หญิง ศิริลักษณ์ ฮวบสกุล ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองสระบุรี ได้รับแจ้งเหตุเพลิงลุกไหม้บ้านเรือนประชาชน บริเวณชุมชนวัดเขาคูบา เขตเทศบาลเมืองสระบุรี จึงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างฯ รัตนตรัย พร้อมทั้งแจ้งดับเพลิงเทศบาลเมืองสระบุรี ให้นำรถน้ำเพื่อเร่งดับไฟ



ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งระดมฉีดน้ำไปยังบ้านที่เกิดเหตุและโดยรอบ เพื่อป้องกันไฟลุมลามไปยังบ้านหลังอื่น เนื่องจากภายในชุมชนมีผู้พักอาศัยกว่า 2,000 ครัวเรือน ส่วนรถน้ำดับเพลิงกว่า 10 คัน ต้องต่อแถวสลับผลัดเปลี่ยนกันเข้าไปและต่อสายยางฉีด เนื่องจากไม่สามารถนำรถเข้าไปในขุมชนได้ เพราะเป็นทางแคบ ใช้เวลากว่า 40 นาที เพลิงจึงสงบลง ตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า บ้านต้นเพลิงเป็นของ นาย ประพล พันธ์กล้วยไม้ เลขที่ 37/3 ถ.พิชัยรณรงค์สงคราม ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี



สอบถาม นายเกรียงไกร งามมา อายุ 26 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนเองเห็นไฟลุกไหม้ขึ้นมาจากบ้านที่เลี้ยงไก่ แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นบ้านของใคร แต่เปลวไฟปะทุขึ้นสูงมาก จนลามขึันติดบนหลังคาบ้าน ตนจึงได้เอาน้ำจากสายยางฉีดสกัดไว้ แต่ไฟก็ยังลามเข้ามาเรื่อยๆ จนเอาไม่อยู่ ตนเองเลยตะโกนว่าไฟไหม้ๆ มีใครได้ยินมั้ย ช่วยเรียกรถดับเพลิงให้หน่อย เมื่อชาวบ้านได้ยินก็ต่างวิ่งมาดูกัน จากนั้นไม่ถึง 5 นาที เจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็มาถึง ส่วนสาเหตุที่ไฟไหม้นั้น ตนเองเห็นเหมือนมีใครจุดอะไรภายในเล้าไก่ แล้วอยู่ดีๆไฟมันก็ปะทุขึ้นมา ขณะนั้นตนเองนั่งอยู่บริเวณนี้พอดี ส่วนคนที่จุดไฟนั้น ตนเองไม่รู้ว่าเป็นใคร



ด้านนายประสงค์ หงษ์ซัง อายุ 57 ปี เจ้าของบ้านข้างๆ ที่โดนไฟไหม้ เล่าว่า ทรัพย์สินของตนที่โดนไฟไหม้ มีรถจักรยานยนต์ 1 คัน แก๊ส 2 ถัง เงิน 2,000 กว่าบาท โทรทัศน์ เครื่องซักผ้า และอีกหลายอย่าง โดยไฟมันมาจากบ้านข้างล่าง ตอนนั้นตนกำลังนั่งล้างจานอยู่หลังบ้าน และมีคนเดินมาถามตนว่า เผาไฟเหรอ ตนก็บอกว่าไม่ได้เผา ก็นั่งล้างจานอยู่ ส่วนสาเหตุนั้นตนเองไม่รู้ รู้แต่ว่าไฟมันลุกลามมาจากบ้านข้างล่างมาถึงบ้านของตนเอง



ร.ต.อ.หญิง ศิริลักษณ์ ฮวบสกุล จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายจำนวน 2 หลัง โดยจะเรียกเจ้าของบ้านและผู้เห็นเหตุการณ์มาสอบปากคำ พร้อมสอบพยานแวดล้อมว่าพบเห็นคนแปลกหน้าเข้ามาภายในชุมชนหรือไม่ เพื่อหาผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News