สังคม

เถื่อน! พ่อค้าหมูปิ้งถูกแก๊งมาเฟียรุมทำร้าย ยิงปืนขู่เรียกเก็บค่าที่ ถาม "รู้ไหมแถวนี้ใครใหญ่"

โดย panisa_p

8 ต.ค. 2565

386 views

กลุ่มชายฉกรรจ์ ก่อเหตุรุมทำร้ายพ่อค้าขายหมูปิ้งริมถนนย่านเพลินจิต และใช้ปืนจ่อยิงแต่ปืนไม่ทำงาน ก่อนที่จะอ้างเป็นเจ้าของพื้นที่เรียกเก็บค่าเช่าเดือนละ 3,000 บาท แต่ผู้เสียหายไม่ยอมจึงถูกรุมทำร้าย


วันที่ 8 ตุลาคม 2565 นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ลงพื้นที่เกิดเหตุบริเวณริมถนนดวงพิทักษ์ ใกล้กับถนนสุขุมวิท ใต้ทางด่วนเพลินจิต หลังได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหาย ซึ่งเป็นพ่อค้าขายหมูปิ้งถูกกลุ่มชายฉกรรจ์บุกทำร้ายร่างกาย เพื่อยึดพื้นที่ขายของ เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา


นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ผู้ที่ได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหาย ได้เรียกร้องให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล เร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมด เพราะถือว่าเป็นเหตุอุกฉกรรจ์ที่เกิดขึ้นกลางเมือง มีการนำปืนมาข่มขู่เรียกเก็บค่าคุ้มครอง ทั้งที่บริเวณนี้ไม่สามารถเก็บค่าเช่าพื้นที่ได้


และยังได้ข้อมูลมาอีกว่า กลุ่มชายเหล่านี้ได้เรียกเก็บค่าคุ้มครองในพื้นที่สุขุมวิทไปจนถึงทองหล่อมานานแล้ว หากใครไม่จ่ายก็จะโดนข่มขู่ ขณะที่ผู้เสียหาย ก็เคยบอกว่าถูกโทรศัพท์มาข่มขู่ตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม ให้จ่ายค่าเช่าพื้นที่ ถ้าไม่จ่ายจะเข้าไปทำร้ายร่างกาย และได้นำคลิปเสียงไปแจ้งความกับตำรวจ สน.ลุมพินีแล้ว


ซึ่งตำรวจบอกเพียงว่ายังไม่เกิดเหตุขึ้น จึงยังไม่ได้ดำเนินการอะไร หลังจากนี้จะตรวจสอบถึง “ผู้ใหญ่” ที่กลุ่มผู้ก่อเหตุกล่าวอ้างถึงว่าเป็นใคร อีกทั้งยังพูดจาข่มขู่ผู้เสียหายอีกว่า “รู้ไหมใครใหญ่ ยุคนี้เป็นยุคใคร”


ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ขณะกำลังขายหมูปิ้งอยู่บริเวณดังกล่าว มีกลุ่มชาย 6-7 คน เข้ามาพูดคุยในลักษณะข่มขู่ เรียกเก็บเงินค่าเช่าที่ขายของ แต่ไม่ยอมให้ จากนั้นก็ถูกทำร้ายร่างกาย ทั้งบีบคอ รุมเตะต่อยหลายครั้ง จากนั้นนำปืนมาจ่อยิงและลั่นไก 2 ครั้ง แต่ปืนยิงไม่ออก จึงพยายามวิ่งหลบหนี ทั้งนี้ได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้า หัวแตกเย็บ 4 เข็ม และตามร่างกายหลายแห่ง


ขณะที่พี่สาวที่ขายน้ำมะพร้าวอยู่ใกล้กัน ก็ถูกทำร้ายร่างกายเช่นกัน ได้รับบาดเจ็บที่ปาก และถูกนำปืนมาจ่อยิงที่ท้องเช่นกัน แต่ปืนยิงไม่ออก ก่อนที่กลุ่มผู้ต้องหาได้แยกย้ายกันหลบหนี


ผู้เสียหาย เปิดเผยอีกว่า กลุ่มผู้ต้องหาเคยมาเก็บค่าเช่ามาแล้วเดือนละ 1,000 บาท แต่ในช่วงนี้ได้มาเรียกเก็บใหม่เดือนละ 3,000 บาท จึงเห็นว่าแพงเกินไป โดยกลุ่มนี้อ้างว่ามีผู้ใหญ่ในพื้นที่ยกพื้นที่ให้ดูแลแล้ว และก่อนหน้านี้เคยมีตลาดนัด ก่อนที่จะยกเลิกไป


เพราะปรับปรุงพื้นที่เป็นสวนสาธารณะ แต่กลุ่มผู้ค้า 4-5 คน ได้มาขายต่อที่ใกล้กับถนนสุขุมวิท เนื่องจากยังมีความจำเป็นต้องหารายได้เลี้ยงลูกที่พิการ และได้ไปขออนุญาตกับการรถไฟแห่งประเทศไทยแล้ว ซึ่งทางการรถไฟฯ ก็อนุโลมให้ขายได้ แต่ขอให้รักษาความสะอาดให้เหมือนเดิม


ทั้งนี้มีรายงานว่า พนักงานสอบสวน อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับผู้ก่อเหตุทั้ง 4 คน ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกาย และความผิดตามพ.ร.บ.อาวุธปืน และจะเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News