พี่สาวหวั่นตายฟรี! น้องชายวัย 16 ถูกรุมทำร้าย เลือดคั่งในสมองดับ ผู้ก่อเหตุได้ประกันตัว

สาวร้องเพจโหนกระแส น้องชายวัย 16 ถูกวัยรุ่น 3 คนใช้ปืนตบ ทำร้ายร่างกายจนเลือดคั่งในสมองเสียชีวิต ผู้ก่อเหตุเข้ามอบตัวก่อนได้รับประกันตัว แม้ค้านประกันแล้ว

ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ พูดคุยกับ น.ส.สุภัทรา ลูกพี่ลูกน้องผู้เสียชีวิต กล่าวว่า เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา น้องชายของเธออายุ 16 ปี ไปเที่ยวงานดนตรีแถวบ้าน ในพื้นที่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก โดยน้องขี่ จักรยานยนต์ไป วันนั้นเธอก็ไปด้วยเช่นกัน แต่ขับรถยนต์แยกกันไป ไปกับญาติๆ

ระหว่างที่อยู่ในงาน มีน้องผู้หญิงที่รู้จักกันและเป็นคนหมู่บ้านใกล้ๆ กัน มาคุยกับน้องชาย แล้วเกิดถูกใจกัน ถ่ายรูปเล่นกัน จากนั้นพองานเลิกตอนเที่ยงคืน น้องผู้หญิงขอให้น้องชายไปส่ง น้องชายก็ไปส่งที่บ้าน แต่ด้วยเวลานั้นดึกมากแล้ว ฝ่ายหญิงจึงบอกให้น้องชายนอนพักก่อน

แต่จังหวะนั้นแฟนของพี่สาวน้องผู้หญิง เห็นรถจักรยานยนต์ มาวนเวียนหน้าบ้านฝ่ายหญิง ซึ่งมาทราบภายหลังว่าเป็นแฟนเก่าของฝ่ายหญิง ซึ่งฝ่ายหญิงกลัวจึงให้น้องชายของเธอไปแอบในห้องนอน

น.ส.สุภัทรา กล่าวอีกว่า น้องชายเห็นท่าไม่ดี จึงบอกว่าขอกลับบ้านดีกว่า แต่ปรากฏว่า ไม่นานนัก อีกฝ่ายบุกมาทางหลังบ้าน มากัน 3 คน นายธนากร อายุ 26 ปี (อดีตแฟนฝ่ายหญิง) และเพื่อนรุ่นน้อง นายสุภนัย อายุ 21 ปี และนายสุธน อายุ 20 ปี เข้ารุมทำร้ายน้องชาย และใช้ปืนทุบหัวน้องชาย น้องผู้หญิงจึงรีบวิ่งไปปลุกพ่อ พอพ่อของฝ่ายหญิงตื่น จึงเข้ามาห้ามปราม บอกให้ทั้งสองฝ่ายแยกย้าย พอเห็นว่ากำลังแยกย้าย พ่อฝ่ายหญิงกำลังเดินเข้าห้องน้ำ ก็ได้ยินเสียงดังโวยวายอีกครั้ง พ่อฝ่ายหญิงจึงวิ่งไปดู อีกฝ่ายไม่ยอมจบ กลับทำร้ายน้องชายเธอจนล้มหงายหลัง มีเลือดออกที่ศีรษะ

จากนั้นนำน้องชายส่งโรงพยาบาล หมอแจ้งว่าน้องหมดลมหายใจตั้งแต่อยู่ที่บ้านฝ่ายหญิงแล้ว หมอปั๊มหัวใจเพื่อยื้อชีวิต จนน้องชายชีพจรกลับมา แต่สุดท้ายอาการไม่ดีขึ้น เนื่องจากน้องกระโหลกร้าว มีเลือดคั่งในสมองเป็นจำนวนมาก และกระดูกซี่โครงหัก จนน้องชายมาเสียชีวิตเวลาประมาณ 21.00 น. ของวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา

หลังจากเกิดเหตุ เธอสอบถามข้อมูลต่างๆ จนพอทราบเรื่องราวทั้งหมด เธอจึงไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ รวม 3 คน ซึ่งในวันต่อมา ก็พบว่าผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คน มามอบตัวพร้อมทนายความ เจ้าหน้าที่ส่งศาลเพื่อฝากขัง ซึ่ง น.ส.สุภัทราก็เดินทางไปคัดค้าน แต่ไม่สามารถคัดค้านได้ จากนั้นตำรวจก็ให้ประกันตัวออกไป

น.ส.สุภัทรา กล่าวว่า ตอนนี้เธออยากร้องขอความเป็นธรรม เกรงว่าน้องชายจะเสียชีวิตฟรี รวมถึงทางครอบครัวยังกังวลด้วยว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุจะกลับมาทำร้ายคนในครอบครัว เนื่องจากทั้ง 3 คนมีพฤติกรรมติดยา อยากดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

น.ส.สุภัทรา กล่าวเพิ่มเติมว่า โดยปกติแล้วน้องชายจะไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ แต่จะอยู่บ้านเดียวกับคุณตา วัย 75 ปี คอยดูแลตา พอน้องเสียชีวิตไปตาก็ต้องอยู่คนเดียว เธอสงสารตามาก

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/6fKmRtrZmNU