สังคม

ไม่รอด! ตร.รวบสาววัย 16 ลักทองร้านเดียวถึง 2 ครั้ง พบเคยมีประวัติขโมยของมาแล้ว

โดย parichat_p

5 ต.ค. 2565

686 views

สาววัย 16 สุดแสบวันเดียวก่อเหตุเข้าลักสร้อยข้อมือทองคำรูปพรรณร้านทองกลางเมืองสุราษฎร์ร้านเดียวไปได้ 2 ครั้งสามารถนำทองไปได้ถึง 8 บาทมูลค่ากว่า 2 แสนบาท แต่ไม่รอดตำรวจไล่กล้องวงปิดจับกุมได้อย่างรวดเร็ว


วันนี้ (5 ต.ค.) พ.ต.ท.ยศ ชาวเรา รอง ผกก.สืบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเข้าควบคุมตัว น.ส.สิรภัทร อายุ 16 ปี หลังสืบทราบว่าเป็นผู้ก่อเหตุเข้าไปลักทองรูปพรรณ น้ำหนัก 8 บาทจากร้านทองแห่งหนึ่ง ทั้งนี้เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี รับแจ้งจากเจ้าของร้านทอง ริมถนนหน้าเมือง ต.ตลาด เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานีว่า


ได้เกิดเหตุคนร้ายทำทีเข้าไปซื้อทองรูปพรรณแล้วแอบขโมยสร้อยข้อมือ 2 เส้น น้ำหนักรวม 8 บาท ชุดสืบสวนจึงได้เข้าตรวจสอบ ภาพบันทึกจากกล้องวงจรปิดของร้านทอง พบว่าเมื่อเวลา 12.12 น. วันที่ 4 ตุลาคม 2565 ได้มีหญิงสาววัยรุ่นสวมหมวกแก๊ปสีชมพู ใส่เสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีขาว สวมเสื้อแจ็คเก็ตแขนยาวสีดำ ปิดบังใบหน้าด้วยหน้ากากอนามัย ได้เข้ามาทำทีขอซื้อสร้อยข้อมือทองคำรูปพรรณขณะดูของพนักงานขายเผลอใช้โทรศัพท์บังพร้อมใช้มือขวาจับสร้อยข้อมือน้ำหนัก 4 บาทใส่ในกระเป๋าสะพายบริเวณหน้าอกแล้วออกไป


และเวลา 14.15 น. ของวันเดียวกันได้ย้อนกลับมาที่ร้านและซื้อสร้อยข้อมือ พร้อมจี้รูปหัวใจ น้ำหนัก 15.18 กรัม สร้อยข้อมือ จำนวน 1 เส้น น้ำหนัก 7.59 กรัม และแหวน 1วงน้ำหนัก 1.90 กรัม ในราคา 22,000 บาท แต่ในขณะเดียวกันพนักงานขายเผลอได้ก่อเหตุลักสร้อยข้อมือทองคำน้ำหนัก 4 บาทไปอีก 1 เส้น ซึ่งต่อมาชุดสืบสวนได้เข้าดำเนินการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี จนมาพบว่าคนร้ายซึ่งใช้รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกูปปี้ สีขาวดำ ได้สิ้นสุดที่บ้านหลังดังกล่าว และพบ น.ส.สิรภัทร


ซึ่งจากการสอบถามในเบื้องต้น น.ส.สิรภัทร ให้การรับสาภาพแต่โดยดี ว่าเป็นผู้ก่อเหตุ พร้อมทั้งนำเจ้าหน้าที่ตรวจยึดของกลางทั้งหมด ประกอบด้วย 1 สร้อยข้อมือพร้อมจี้รูปหัวใจ น้ำหนัก 15.18 กรัม 2 สร้อยข้อมือ 1 เส้น น้ำหนัก 7.59 กรัม 3 แหวน 1 วงน้ำหนัก 1.90 กรัม พร้อมด้วยกล้องพลาสติกสีส้มฝาใส ประทับตราห้างทองผู้เสียหาย 1 กล่อง ถุงผ้ากำมะหยี่สีแดงประทับตราห้างทองผู้เสียหาย 2 ใบ 4 เสื้อผ้าและอุปกรณ์อื่นๆที่ผู้ก่อเหตุสวมใส่ขณะก่อเหตุ และสมุดบัญชีธนาคาร มีเงินฝากจำนวน 20000 บาท


เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดและควบคุมตัว น.ส.สิรภัทร ส่งพนักงานสอบสวน เพื่อสอบสวนปากคำ จากการสอบสวนปากคำ น.ส.สิรภัทร ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุจริง โดยครั้งแรกได้ทำทีเข้าไปขอดูทองรูปพรรณและอาศัยจังหวะพนักงานเผลอ ได้ขโมยสร้อยข้อมือน้ำหนัก 4 บาท แล้วนำทองไปขายที่ร้านทองที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงและนำเงินย้อนกลับมาซื้อสร้อยข้อมือและแหวน ราคา 22,000 บาท และลักสร้อยข้อมือไปอีก 1 เส้น น้ำหนัก 4 บาท และนำทองไปขายก่อนจะกลับเข้าบ้าน


โดยขายสร้อยข้อมือได้เงินทั้งสิ้น 120,000 บาท ตำรวจจึงแจ้งข้อหา ลักทรัพย์ โดยมอมหน้าหรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม เพื่อดำเนินคดีต่อไป อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า น.ส.สิรภัทร ปัจจุบันศึกษาอยู่ระดับ ปวช. พบว่าเคยก่อเหตุเข้าไปลักไอเพด และเสื้อผ้า มาแล้ว2ครั้ง แต่ผู้ปกครองได้เข้าไปเคลียร์กับผู้เสียหายจึงไม่เอาความ


เนื่องจากผู้ต้องหามีประวัติรักษาตัวที่โรงพยาบาลสวนสราญรมณ์ด้วยโรคซึมเศร้า และในการก่อเหตุครั้งล่าสุด ผู้ต้องหาได้ทองรูปพรรณ น้ำหนัก 8 บาทมูลค่า 246,400 บาท แต่นำไปขายได้เงิน 120,000 บาท และเหลือเงินในบัญชีเพียง 20,000 บาท ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าหลังขายทองที่ขโมยมา นำไปซื้อทองยังร้านที่ก่อเหตุ 22,000 บาท พบรายการโอนเงินไปยังบัญชีการพนัน จำนวน 84,000 บาท โอนไปยังบัญชีเพื่อนที่ผู้ต้องหาอ้างว่าใช้หนี้ จำนวน 10,000 บาท และซื้อไอเพด 1 เครื่องราคา 6,000 บาท นอกจากนั้นยังพบว่าเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ที่ผู้ต้องหาสวมใส่เป็นสินค้าแบรนด์เนมทั้งสิ้น

คุณอาจสนใจ