สังคม
แม่ร้องครูสั่งลูกวัย 15 ลุก-นั่ง 200 ครั้ง ทำต้นขาอักเสบ-เป็นฝี ครูแจงลงโทษเพื่อไม่ให้เด็กโดดเรียน
โดย chutikan_o
30 ส.ค. 2565
559 views
แม่ร้องครูสั่งลุก-นั่ง 200 ครั้ง ลูกชายวัย 15 จนกล้ามเนื้อต้นขาอักเสบและติดเชื้อ กลายเป็นฝีที่ขาพับ ต้องผ่าตัดสองครั้ง พักฟื้นนานเกือบ 2 เดือน แต่ยังไร้การเยียวยา ผอ.สั่งยกเลิกการลงโทษด้วยการลุก-นั่งแล้ว ส่วนครูเผยพาเด็กไปหาหมอ-ติดตามต่อเนื่อง ยันไม่ตั้งใจทำเด็กบาดเจ็บ ลงโทษเพื่อไม่ให้เด็กโดดเรียนอีก
นางเล็ก ณีอู่ทอง อายุ 59 ปี ได้ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่า ลูกชาย อายุ 15 ปี เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียนมัธยมชื่อดังใน อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี ถูกครูผู้สอนสั่งลงโทษด้วยการทำท่าลุก-นั่ง จำนวน 200 ครั้ง จนลูกชายกล้ามเนื้อต้นขาอักเสบและติดเชื้ออย่างรุนแรง ก่อนจะตรวจพบว่าลูกชายมีฝีขึ้นที่บริเวณขาผับต้นขาซ้าย ต้องผ่าตัดถึงสองครั้ง และพักฟื้นนานกว่า 2 เดือน แต่ทางครูผู้สั่งลงโทษและโรงเรียนต้นสังกัดยังไม่มีการเข้ามาดูแลเยียวยาช่วยเหลือ แถมเมื่อเข้าแจ้งความกับตำรวจคดีก็ยังไม่มีความคืบหน้า
นางเล็ก กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา หลังลูกชายเลิกเรียนกลับมาถึงบ้าน ก็พบว่าลูกปวดตึงที่ต้นขาทั้งสองข้าง เมื่อสอบถามจึงทราบว่า ลูกชายถูกครูผู้สอนซึ่งเป็นครูผู้หญิงสั่งลงโทษ เนื่องจากไม่ยอมเข้าเรียน โดยการสั่งให้ทำท่าลุก-นั่ง จำนวน 200 ครั้ง เมื่อลูกกลับมาบ้านก็คิดว่าไม่เป็นอะไรมาก จึงไปซื้อยานวดมาทาและซื้อยาแก้อักเสบมาให้ลูกกิน แต่เวลาผ่านไปนานกว่า 7 วัน ลูกชายก็อาการไม่ดีขึ้น จึงตัดสินใจโทรหาครูที่สั่งลงโทษว่าลูกชายอาการไม่ดีขึ้น ครูจึงรับอาสาพาลูกชายไปหาหมอที่คลินิกในอำเภอท่าม่วงสองครั้ง พร้อมให้ยาฆ่าเชื้อและยาแก้อักเสบ แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น กระทั่งมีการส่งตัวมาตรวจอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลเลาขวัญ จึงพบว่าลูกชายมีอาการติดเชื้ออย่างรุนแรงจนต้นขาบวม และมีฝีขึ้นที่บริเวณข้อพับต้นขาซ้าย ต้องทำการผ่าตัด โดยผ่าตัดครั้งแรก เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม แต่พบว่ายังคงมีน้ำเหลืองไหลออกมาจากแผลผ่าตัด จึงต้องทำการผ่าตัดครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา อาการจึงดีขึ้น แต่ลูกชายก็ยังเดินไม่สะดวก ต้องทำแผลทุกวันและยังต้องพักฟื้นต่อเนื่อง รวมจนถึงตอนนี้ ลูกชายต้องหยุดเรียนมานานกว่า 2 เดือนแล้ว ซึ่งโดยส่วนตัวเชื่อว่าการที่อยู่ๆ ลูกชาย ซึ่งมีสุขภาพแข็งแรงและเป็นนักกีฬาฟุตบอล เกิดมีอาการป่วย ติดเชื้อ และมีฝีขึ้นที่ขาพับต้นขาซ้าย น่าจะเป็นผลมาจากการสั่งลงโทษให้ทำท่าลุก-นั่ง กว่า 200 ครั้ง ซึ่งเป็นการลงโทษที่รุนแรงเกินเหตุจนทำให้ลูกชายต้องเจ็บหนักเช่นนี้ หลังเกิดเหตุได้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรเลาขวัญกับสามี เพื่อดำเนินคดีกับครูสาวที่สั่งลงโทษลูกชายจนเจ็บหนัก แต่จนถึงขณะนี้ คดีก็ยังไม่คืบหน้า แม้ครูที่สั่งลงโทษจะพยายามเข้ามาเจรจาไกล่เกลี่ย แต่ก็ยังไม่มีการเยียวยาใดๆ จึงอยากให้ผู้สื่อข่าวช่วยนำเสนอเรื่องราวดังกล่าวให้สังคมได้รับรู้ เพื่อครูคนดังกล่าวจะไม่สามารถไปสั่งลงโทษเด็กนักเรียนคนอื่นแบบนี้ได้อีก
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังโรงเรียนมัธยมที่เกิดเหตุ และได้พูดคุยกับนางสาวเสาวณี วงษ์พัฒน์ ผู้อำนวยการโรงเรียน โดยกล่าวว่า ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้วและได้สั่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้วด้วย โดยจากการตรวจสอบ พบว่าครูที่สั่งลงโทษ คือ นางสาวรัตนากร สงคราม อายุ 31 ปี ส่วนสาเหตุที่สั่งลงโทษด้วยการสั่งให้เด็กทำท่าลุก-นั่ง จำนวน 200 ครั้งนั้น เป็นเพราะเด็กโดดเรียน ไม่ยอมเข้าเรียนในคาบวิชาที่ครูรัตนากรเป็นผู้สอน ซึ่งการลงโทษด้วยการสั่งให้ทำท่าลุก-นั่ง เป็นการทำโทษตามข้อตกลงระหว่างครูผู้สอนและนักเรียน เพื่อไม่ให้เด็กโดดเรียนอีก โดยครูผู้สอนยืนยันว่าสั่งทำโทษเด็กไปจำนวน 150 ครั้ง และให้เพื่อนในห้องเป็นคนนับจำนวนกันเอง ครูผู้สอนยืนยันว่าที่ทำไปเพียงเพื่อเป็นการลงโทษเด็กให้หลาบจำไม่กล้าโดดเรียนอีก ไม่มีเจตนาที่จะทำให้เด็กบาดเจ็บ อีกทั้ง หลังทราบว่าเด็กมีอาการป่วยติดเชื้อ ก็ได้พาเด็กไปพบหมอที่คลินิกด้วยตัวเอง และครูผู้สอนรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด นอกจากนี้ ระหว่างที่เด็กพักฟื้นอยู่ที่บ้าน ครูผู้สอนและผอ.ได้ไปติดตามเยี่ยมเยียนอาการของเด็กที่บ้านอย่างสม่ำเสมอ พร้อมประสานครูที่ปรึกษาของเด็กให้ดูแลเรื่องการเรียนและการบ้านของเด็กให้พักเอาไว้ก่อน เพื่อให้ผู้ปกครองมั่นใจว่าเด็กจะไม่เสียการเรียน พร้อมกันนี้ ก็ได้สั่งยกเลิกการลงโทษเด็กโดยการทำท่าลุก-นั่งอย่างเด็ดขาดไปแล้ว เนื่องจากการลงโทษดังกล่าวไม่ได้อยู่ในระเบียบของสถานศึกษาและอาจเสี่ยงทำให้เด็กบาดเจ็บได้
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของคณะกรรมการ พบว่า ในวันดังกล่าว นอกจากผู้เสียหายแล้ว ยังมีเด็กคนอื่นที่ถูกสั่งลงโทษด้วยวิธีการเดียวกัน แต่ไม่มีเด็กคนใดที่มีอาการป่วยเหมือนผู้เสียหาย อย่างไรก็ตาม ทางครูผู้สั่งลงโทษและคณะผู้บริการสถานศึกษา ได้พูดคุยกับผู้ปกครองของผู้เสียหายแล้ว แต่ยังไม่สามารถตกลงกันในส่วนของเงินค่าเยียวยาได้ เนื่องจาก ทางพ่อและแม่ของผู้เสียหาย เรียกร้องเงินเยียวยาและเงินค่าขาดรายได้ของผู้ปกครอง ที่ต้องหยุดงานมาดูแลลูก กว่า 2 เดือน รวมเป็นเงิน 250,000 บาท แม้จะมีการต่อรองกันจนลดลงมาเหลือ 150,000 บาท แต่ทางครูผู้สั่งลงโทษก็ไม่มีเงินพอที่จะเยียวยาได้ในจำนวนดังกล่าว จึงได้มอบเงินเยียวยาเบื้องต้นให้จำนวน 30,000 บาท แต่ทางพ่อแม่ของเด็กยังไม่ยอมรับและยืนยันที่จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
ในส่วนของคดีความนั้น ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่สถานีตำรวจภูธรเลาขวัญ เพื่อสอบถามถึงความคืบหน้าในคดี พบว่า เบื้องต้นพ่อแม่ของเด็กชายนราวิชญ์ ได้เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับคุณครูผู้สั่งลงโทษ ในความผิดฐาน ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง ซึ่งขณะนี้ อยู่ในระหว่างให้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมและเจรจาถึงค่าเยียวยาต่อกัน