รวบ 2 หนุ่มชิงทรัพย์ยายวัย 74 อ้างหาเงินค่านม-แพมเพิส

เมื่อช่วงเช้าวันที่ 21 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา กล้องวงจรปิดจับภาพ ขณะที่วัยรุ่นชายสองคน ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาจอดที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง หลังจากเห็นเหยื่อที่เป็นหญิงสูงวัยรายหนึ่งกำลังเดินมายังบริเวณดังกล่าว พอผู้เสียหายเดินแวะเข้ามาพูดคุยกับเพื่อนบ้าน คนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว

อาศัยจังหวะที่ผู้เสียหายเผลอ แล้วลงจากท้ายรถจักรยานยนต์ปรี่เข้าหาผู้เสียหายก่อนจะกระชากทรัพย์สิน ซึ่งเป็นลอตเตอรีที่ถืออยู่ในมือ โดยคนร้ายได้ชิงลอตเตอรรีไปจากมือ แต่พอเห็นว่าสิ่งที่ได้ไปนั้นไม่ใช่เงิน จึงหันกลับมาชิงเงินสดในกระเป๋าเสื้อของผู้เสียหาย ก่อนจะพากันขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี

หลังเกิดเหตุผู้เสียหาย คือ นางธนพร อายุ 74 ปี ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนสภ.พระประแดง โดยระบุว่าทรัพย์สินที่คนร้ายสองคนได้ไปคือ เงินสด 3,700 บาท

หลังจากผู้เสียหายรายนี้เข้าแจ้งความ ฝ่ายสืบสวนของสภ.พระประแดง โดย พันตำรวจโท ธนกฤต รวยอารี รอง ผู้กำกับสืบสวน สภ.พระประแดง ได้ระดมกำลังฝ่ายสืบสวนของสภ.พระประแดง ประกอบด้วย พันตำรวจโท คณชัย มาลัย สารวัตรสืบสวนสอบสวน พันตำรวจตรีอดุลย์ มงคลเจริญ สารวัตรสืบสวนสอบสวน พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.พระประแดง ออกไล่ล่าหาเบาะแสและแกะรอยเส้นทางคนร้าย

จนกระทั่งทราบข้อมูลว่าสองคนร้ายรายนี้ มีแหล่งกบดานพักอาศัยในชุมชนบัวหลวง แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม. จึงนำกำลังไปเฝ้าสังเกตการณ์ จนกระทั่งช่วงกลางดึกของวันที่ 25 สิงหาคม ที่ผ่านมา พบชายวัยรุ่นต้องสงสัย นั่งอยู่เพิงไม้ริมทาง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าควบคุมตัว ทราบชื่อคือ นายสมพร อายุ 27 ปี ซึ่งตอนแรกให้การปฏิเสธเสียงแข็ง บอกว่าไม่ได้ก่อเหตุ จนเจ้าหน้าที่นำหลักฐานจากวงจรปิดและเส้นทางการหลบหนีมาให้นายสมพร ดู เจ้าตัวจึงยอมรับสารภาพ

และให้การซักทอดว่าร่วมกับนายสมชาย อายุ 24 ปี อีกคนในการก่อเหตุ ฝ่ายสืบสวนจึงขยายผลไปจับกุมตัวนายสมชายเอาไว้ พร้อมกับนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองไปค้นห้องพัก ตรวจยึดของกลาง ประกอบด้วย หมวกนิรภัยสีแดง 1 ใบ หมวกนิรภัยสีขาวคาดดำ 1 ใบ เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีกรมท่า 1 ตัว รองเท้าแตะฟองน้ำสีเทา 1 คู่ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 ไอ สีน้ำเงินแดง เลขทะเบียน 3 ขก 4185 กรุงเทพฯ ซึ่งทั้งหมดเป็นของกลางที่ใช้ในวันก่อเหตุ

นอกจากนั้น นายสมพร ยังให้การรับสารภาพอีกว่าตนเองเพิ่งไปก่อเหตุชิงทรัพย์กับหญิงสูงอายุรายหนึ่งในพื้นที่ของ สน.บางขุนนนท์ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา ก่อนจะนำเงินที่ได้ไปไถ่สร้อยคอมาใส่ นอกจากนั้นยังพบยาเสพติดและพบการพัวพันเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอีกจำนวนมาก ซึ่งนายสมพร ยอมรับว่าตนเองเป็นผู้สั่งยาเสพติดเข้ามาแล้วจะให้นายสมชายเป็นผู้เดินยา จนมาถูกจับกุม

ขณะที่จากการตรวจสอบประวัติย้อนหลัง พบว่านายสมพร มีประวัติเคยถูกจับกุมมาแล้วนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นคดียาเสพติด ลักทรัพย์ ชิงทรัพย์ ตำรวจจึงคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ซึ่งพบว่าผู้ต้องหาที่ลงมือกอ่เหตุ คือนายสมชาย นั้นพิการที่ข้อมือข้างขวาอีกด้วย โดยขณะทำแผน นายสมชาย ผู้ต้องหาที่พิการมือขวา ให้การยอมรับว่าที่ทำลงไปนั้น อ้างว่าต้องการหาเงินไปซื้อแพมเพิสและนมให้ลูก ส่วนนายสมพร ให้การอ้างว่าทำลงไปเพราะหาเงินค่านมให้หลาน

เบื้องต้นคุมตัวผู้ต้องหารทั้งสองส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ โดยใช้ยานพหนะเพื่อความสะดวกในการกระทำความผิดหรือเพื่อพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม” โดยประชาสัมพันธ์ผู้เสียหายรายใดที่เคยถูกคนร้ายรายนี้ก่อเหตุในลักษณะเช่นนี้สามารถมาชี้ตัวยืนยันและสั่งอายัดตัวดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป คาดยังมีผู้เสียหายอีกหลายราย