สังคม

รวบโจรชิงทรัพย์นักธุรกิจสาว ลานจอดรถห้างดังแคราย สารภาพเป็นหนี้เกือบ 2 ล้าน

โดย nattachat_c

6 พ.ย. 2567

78 views

คนร้ายชิงทรัพย์นักธุรกิจสาวในลานจอดรถ สารภาพเป็นหนี้เกือบ 2 ล้าน ขอโทษสำนึกผิด ผู้เสียหายฝากเตือนภัยหญิงที่จะไปไหนคนเดียว

จากกรณี น.ส.วริฐา อายุ 45 ปี นักธุรกิจสาว ถูกคนร้ายพยายามชิงทรัพย์ และทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ ขณะขับรถไปจอดที่ลานจอดชั้น 3A ของห้างแห่งหนึ่ง ย่านแคราย เพื่อไปออกกำลังกายในฟิตเนส ผู้เสียหายได้ต่อสู้กับคนร้ายภายในรถ ก่อนที่คนร้ายจะเห็นว่ามีคนเดินผ่านมา จึงวิ่งหลบหนีไป แต่คนร้ายทำกระเป๋าสะพายตกอยู่ในรถ ตำรวจตรวจสอบในกระเป๋า พบ บัตรประชาชน สายรัดเคเบิ้ลไทร์ มีด 1 เล่ม และเอกสารใบแจ้งหนี้สินของธนาคาร ระบุชื่อ นายฤทธา กวีวงศ์ โดยเหตุเกิด เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 67 เวลา 14.00 น.

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจขออนุมัติหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี นายฤทธา กวีวงศ์ อายุ 48 ปี ผู้ต้องหารายนี้ ในข้อหาพยายามชิงทรัพย์และเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจโดยใช้ยานพาหนะ, พกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร และจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน ต.ไร่เก่า อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์

ความคืบหน้า เมื่อวานนี้ (5 พ.ย.67) เวลา 13.30 น. ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์  พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน  ควบคุมตัวนายฤทธา กวีวงศ์ อายุ 48 ปี ผู้ต้องหา มาสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ลานจอดรถห้างดังกล่าว

จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า สาเหตุที่ลงมือเนื่องจากต้องการนำเงินไปใช้หนี้ เพราะตนเป็นหนี้เงินสดอยู่ 3 แสนบาท เป็นหนี้ทรัพย์สินอีกกว่า 1 ล้านบาท โดยตนเห็นผู้เสียหายดูท่าว่าจะเป็นคนมีเงิน เพราะขับรถหรู จึงต้องการข่มขู่ให้ผู้เสียหายโอนเงินสดให้ โดยตั้งใจจะผลักผู้เสียหายเข้าไปในรถ เพื่อให้ขับรถไปเรื่อย ๆ แต่ที่ชกต่อยทำร้ายผู้เสียหายเพราะผู้เสียหายดิ้นรน จึงต้องการให้หยุด ส่วนมีดในกระเป๋านั้น ตนพกเป็นประจำอยู่แล้ว

ส่วนที่เลือกก่อเหตุที่ห้างนี้ เพราะเป็นเส้นทางที่ตนผ่านประจำ หลังก่อนเหตุได้กลับไปยังที่พักย่านบางรัก เก็บเสื้อผ้า แล้วหนีขึ้นภาคเหนือ จะไปแม่สาย แต่พอเห็นข่าวว่าตำรวจรู้เรื่องที่ตนทำบัตรประชาชนหาย ก็เปลี่ยนแผนกลับมาบ้านที่ จ.นนทบุรี เมื่อรู้ว่าตำรวจกำลังติดตามตัว ก็เดินทางไป จ.ประจวบคีรีขันธ์ จนถูกจับกุมได้  

พร้อมบอกว่าตนอยากจะขอโทษผู้เสียหายที่ทำร้ายร่างกาย ตนไม่มีทางเลือกจริง ๆ ก่อนหน้านี้ ตนเคยทำงานเป็นช่างของบริษัทแห่งหนึ่ง แต่ตนป่วยเส้นเลือดสมองแตก ทางบริษัทได้เปลี่ยนให้ไปทำหน้าที่อื่น ทำให้ตนต้องมีรถกระบะในการทำงาน จึงได้มีปัญหาเรื่องจ่ายค่าใช้จ่ายหลายอย่าง

ต่อมา ผู้เสียหายมาที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ เพื่อที่จะให้ปากคำกับตำรวจเพิ่มเติม และขอไม่พบหน้าผู้ต้องหา เพราะยังหวาดกลัวอยู่  

ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนรู้สึกโล่งอก และขอบคุณที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ติดตามจับกุมคนร้ายได้ ขอบคุณพลเมืองดีทุกคนที่เข้ามาช่วยเหลือในวันเกิดเหตุ รวมทั้งขอบคุณสื่อที่ช่วยติดตามข่าวให้ด้วย ตอนนี้ แม้จะโล่งอก แต่ก็ยังมีอาการแพนิคอยู่บ้าง ยังหวาดผวา และวิตกกังวลอยู่ ซึ่งยังต้องไปพบแพทย์ เพื่อรักษาสภาพจิตใจ

ทุกวันนี้ ตนยังไม่กล้าเดินทางไปไหนคนเดียว ต้องมีเพื่อน หรือมีน้องสาวไปด้วย จึงฝากถึงผู้หญิงที่ต้องเดินทางไปทำธุระเพียงคนเดียวว่า หากเกิดเหตุการณ์แบบตน ขอให้ตั้งสติ ยิ่งในสภาวะที่เศรษฐกิจไม่ดี อาจจะมีคนที่คิดใช้วิธีง่าย ๆ แบบนี้ พร้อมฝากถึงทุกคนที่มีหนี้ ควรหาวิธีใช้หนี้ด้วยตัวเอง พึ่งพาตัวเองให้ได้มากที่สุด มันมีวิธีไกล่เกลี่ยประนอมหนี้ แต่ไม่ควรไปใช้วิธีสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหาทำแผนประกอบคำสารภาพ  โดยทางห้างไม่ยินยอมให้สื่อมวลชนบันทึกภาพ จากนั้นจะนำตัวมาควบคุมต่อที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ เพื่อนำตัวฝากขังศาลจังหวัดนนทบุรี ต่อไป



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/O24BzL2SB1I

คุณอาจสนใจ