พรานล่าหมูป่า สารภาพทำปืนลั่นใส่เพื่อนดับ หลังปกปิดเพราะกลัวความผิด จนท.ตามหาอยู่ 2 วัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากเหตุการณ์ที่นายสุเมธ บุญเมือง อายุ 22 ปี ชาว ต.นบปริง อ.เมืองพังงา ได้หายตัวไปในป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขาเขากระทะคว่ำ ม.4 ต.ทุ่งคาโงก อ.เมือง จ.พังงา หลังจากออกไปล่าหมูป่ากับเพื่อนรวม 4 คน ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค. 65 โดยทางญาติได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทุ่งคาโงก และนายอำเภอเมืองพังงา แล้วเมื่อวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการสนธิกำลังออกเดินเท้าค้นหาในวันที่ 2-3 ส.ค. จนมาพบศพผู้ตายเมื่อช่วงเที่ยงวานนี้ (3 ส.ค. 65) ศพสวมเสื้อลายพรางแขนยาว กางเกงวอร์มขายาวสีดำ รองเท้าบูทยางสีน้ำตาล สภาพนอนตะแคงมีปืนยาวพาดอยู่บนลำตัว มีบาดแผลถูกกระสุนที่ใต้คาง กรามหลุดออกมา สภาพศพเริ่มเน่าเปื่อย

พ่อของผู้ตาย กล่าวว่า มีข้อสงสัยในหลายประการจากคำบอกเล่าของทีมพรานล่าหมูป่าทั้ง 3 คน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการสับเปลี่ยนปืน และเอาปืนมาวางบนศพลูกชาย การปกปิดเรื่องราวที่เกิดขึ้น แถมตอนนำทางขึ้นไปค้นหาเมื่อวานก็พาไปค้นหาอีกทางหนึ่ง จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบให้ละเอียดว่าจะเป็นการตั้งใจหรือการประมาทกันแน่ ขณะที่ว่าที่ ร.อ.พงศ์ศักดิ์ เวทยาวงศ์ นายอำเภอเมืองพังงาได้ประกาศปิดศูนย์เฉพาะค้นหาและกล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่มาร่วมช่วยปฏิบัติภารกิจจนสำเร็จ ส่วนในเรื่องของทางกฎหมายนั้นทาง สภ.ทุ่งคาโงกจะดำเนินการต่อไป

ล่าสุด วันนี้ (4 ส.ค. 65) พ.ต.อ.วิษฐชาคม คำจำปา ผกก.สภ.ทุ่งคาโงก กล่าวว่า ทางนายสุริยา ช่วยชู อายุ 38 ปี หนึ่งในทีมนายพรานล่าหมูป่า ที่เคยให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวว่า นายสุเมธแยกทางไปกับเพื่อนอีก 1 คน และระหว่างที่ไปถึงสวนทุเรียนก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด เช้าวันรุ่งขึ้นก็พบว่าทีมนายสุเมธกลับมาเพียงคนเดียว ซึ่งทุกคนก็คิดว่าเขาน่าจะเดินกลับไปยังหมู่บ้านของเขาแล้ว และเพิ่งมาทราบว่าเขายังไม่กลับบ้านในวันนี้ ตอนนี้ก็ได้แต่สงสัยว่าเขาอาจจะยิงหมู่ป่าไม่ตายและออกตามหมู่ป่าจนหลงเข้าไปในป่าลึกก็ได้

นายสุริยาได้เปิดปากรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เป็นคนที่ทำปืนลั่นโดนนายสุเมธตาย เนื่องจากขณะที่ตามรอยล่าหมูป่า มีนายสุเมธเดินตามหลัง เมื่อเห็นหมูป่าแล้วจึงยิงด้วยปืนลูกซองยาวไป 1 นัด ขณะที่ใส่กระสุนลูกใหม่เสร็จ มีหมูป่าอีกตัววิ่งพุ่งเข้ามาหา ก็ตกใจและเอี้ยวตัวตะโกนเตือนนายสุเมธที่อยู่ด้านหลังให้ระวังหมูป่า เป็นจังหวะที่ปากกระบอกปืนหันไปทางด้านหลังพอดี แล้วเกิดกระสุนปืนลั่นใส่นายสุเมธจนล้มตายคาที่ ด้วยความตกใจจึงนำปืนกระบอกที่ลั่นใส่วางไว้บนศพ และตกใจทำอะไรไม่ถูก จึงปกปิดเพื่อนร่วมทีมอีก 2 คนว่านายสุเมธ กลับลงไปอีกทางหนึ่งแล้ว และบอกคนอื่นว่า ผู้ตายไม่ได้ไปทางเดียวกับตัวเอง ที่ปกปิดไม่เปิดเผยความจริงนั้นเพราะกลัวความผิด ทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาเบื้องต้นว่า “กระทำการโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” ขณะที่จะทำการสอบสวนเพิ่มเติมในประเด็นอื่นและรอตรวจสอบหลักฐานทางนิติวิทยา มาประกอบสำนวนเพิ่มเติมอีก