‘อัจฉริยะ’ แจงเหตุไม่ร่วมงานวันเกิด ‘แม่แตงโม’ เพราะไม่ใช่งานแม่ตัวเอง รับไม่ได้ เชิญ ‘คนบนเรือ’ อวยพรด้วย

วันนี้ (19 ก.ค. 65) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กล่าวถึงการจัดงานวันเกิดอายุครบ 67 ปี ของนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของน.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีรพงษ์ หรือ แตงโม เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา ว่า เหตุผลที่ตนไม่เดินทางไปงานวันเกิดนางภนิดา เพราะไม่ใช่งานวันเกิดแม่ของตนเอง และโชคดีที่ตนไม่มีแม่เช่นนี้ งานวันเกิดเมื่อวานเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะคดีแตงโมนั้นอัยการอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานในการเอาผิดกลุ่มผู้ต้องหาบนเรือ ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่รู้สาเหตุว่าการสรุปสำนวนจะออกมาอย่างไร แต่กลับจัดงานวันเกิด

อีกทั้งคนบนเรือยังเข้าอวยพรวันเกิด ซึ่งหากเป็นตนคงรับไม่ได้ เพราะทำให้ลูกเสียชีวิต จนแตงโมเป็นเหมือนธุรกิจไปแล้ว มีการจัดงานวันเกิดใหญ่โต

นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า ตนมองว่าบุคคลที่เข้าร่วมงานที่ไม่ใช่สื่อมวลชนนั้นเป็นการใส่หน้ากากเข้าหากัน ตนก็ไม่ทราบว่าสังคมเกิดอะไรขึ้น คนบนเรือมาเป็นลูกชายและให้อภัยกัน ซึ่งไม่ควรจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ที่บอกว่าแตงโมไม่มาหานั้น ก็เป็นเพราะมีแม่แบบนี้ ทั้งนี้ส่วนเรื่องหลักฐานนั้น เรื่องจีพีเอส ภาพบาดแผล ไฟล์วิดีโอที่เกี่ยวกับศพแตงโม อาจเป็นเรื่องยากสำหรับนางภนิดา แต่เป็นเรื่องจริงที่ตรวจสอบได้ทางวิทยาศาสตร์ว่าจริงหรือไม่ หากไม่จริง ผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดในคดีก็ต้องกลัวถูกฟ้อง ดังนั้นสิ่งที่นางภนิดาพูดนั้นเป็นการพูดเท็จต่อสังคม ตอนนี้ตนปล่อยให้คนแก่พูดไปเพราะไม่อยากถือสา แต่สิ่งที่สังคมเห็น จะรับได้หรือไม่ที่มีแม่แบบนี้ คดีนี้ในความรู้สึกตน หากแน่จริงก็อย่าถอนคดีออก ซึ่งตนอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีการจัดงานวันเกิด เพราะสามารถถอนคำฟ้องได้ หากมีตนอยู่ก็คงไม่มีการจัดงานวันเกิด

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามตนไม่เสียดายที่ไม่ได้ทำคดีต่อ เพราะเป็นสิทธิของนางภนิดา แต่เสียดายที่ไม่สามารถช่วยให้แตงโมได้รับความยุติธรรม และคงไม่มีแม่ที่ไหนในโลก ที่มาทำลูกแล้วมาทำแบบนี้ หากเป็นลูกตน แค่บาดเจ็บก็คงใช้วิธีการทุกรูปแบบ คงไม่ต้องใช้กฎหมาย เพราะตนยอมไม่ได้ แต่ที่เป็นเช่นนี้เพราะคดีนี้มีทั้งธงและใบสั่ง จึงเป็นคดีประมาทอย่างเดียว ในความรู้สึกตน หากให้เลือกว่าเป็นประมาท อุบัติเหตุ หรือฆาตกรรม จะตนเลือกเป็นฆาตกรรม เพราะว่าหลักฐานบาดแผล

นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า ขณะนี้แม้แต่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ตำรวจภูธรภาค 1 (ภ.1) อัยการ หรือกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตอบคำถามประชาชนว่าบาดแผลขาข้างขวานั้นเกิดจากใบพัดเรือจริงหรือเกิดจากของมีคม และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ว่าอะไรที่ทำให้เชื่อคำให้การของนายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือแซน ว่าแตงโมตกเรือ หากตอบทั้งสองคำถามนี้ได้โดยมีหลักฐานรองรับ ตนยอมกราบเท้า แต่หากไม่ใช่ กล้าพูดหรือไม่ว่าสิ่งที่ทำคือธงหรือใบสั่งที่ทำให้เป็นคดีประมาท

“สุดท้ายฝากอวยพรวันเกิดแม่ว่า ขอให้แม่โชคดี ขอให้แม่ใช้เงินที่ได้มาเยอะจากการเสียชีวิตของลูกอย่างมีความสุข แฮปปี้เอ็นดิ้งกับเงินที่ได้ไปอย่างมีความสุข” นายอัจฉริยะกล่าว