ตะเข้ 2 ตัว ติดตาข่ายดักปลาชาวบ้าน กัดมือหวิดขาด คาดหลุดมาจากฟาร์มที่อยู่ใกล้กัน

จระเข้ 2 ตัว ติดตาข่ายหาปลา กัดมือหวิดขาด คาดอาจหลุดมาจากฟาร์มที่อยู่ใกล้กัน ชาวบ้านทราบข่าวต่างหวาดกลัว วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหา 

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้ง มีชาวบ้านออกไปลงตาข่ายหาปลา ที่บริเวณหนองน้ำ และร่องสวนมะพร้าวหลังบ้านของ นายลำดวน ปุราสะเน อายุ 68 ปี ม.2 ต.บัวชุม อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี แต่กลับติดจระเข้ตัวขนาดใหญ่จำนวน 2 ตัว ก่อนกัดมือชาวบ้านหวิดขาด

หลังชาวบ้านทราบข่าว ต่างหวาดผวาเกรงจะได้รับอันตรายจากจระเข้  วอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งให้การช่วยเหลือ จับจระเข้อย่างจริงจัง เพื่อความปลอดภัยของชาวบ้าน

เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึง บริเวณโดยรอบเป็นทุ่งนา หนองน้ำ และร่องน้ำสวนมะพร้าว พบชาวบ้านจำนวนหลายคน ที่ทราบข่าวต่างเดินทางมายืนมุงดูจระเข้ขนาดใหญ่ จำนวน 2 ตัว ที่ถูกมัดปากและผูกล่ามไว้ใต้ต้นมะม่วงภายในสวน

พร้อมทั้งต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนาๆ ถึงความดุร้ายและอันตรายจากจระเข้ ที่อาจทำร้ายชาวบ้านที่ไปพบเห็น จากการเปิดเผยของนายตุ๋ย คอนเมฆ อายุ 72 ปี  ม.2 ต.บัวชุม อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี ชาวบ้านที่จับจระเข้ได้ กล่าวว่าช่วงเย็นวานที่ผ่านมา ตนเองได้นำตาข่ายดักปลาไนร่อนขนาดตากว้าง 22 ซ.ม. ไปลงดักปลาที่หนองน้ำตามปกติทุกวัน

และช่วงเวลาประมาณ 21.00 น.ตนได้ออกไปยามตาข่ายที่ลงไว้ที่จุดแรก ในหนองน้ำลึกประมาณ 2 เมตร ก็พบว่าจระเข้ตัวใหญ่ขนาดความยาว 170 ซม. น้ำหนักประมาณ 30 กว่ากก. จึงจับขึ้นมาจากน้ำก่อนมัดปาก และนำไปผูกล่ามไว้ที่ใต้ต้นมะม่วงใกล้ร่องสวนมะพร้าว

ต่อจากนั้นตนจึงได้เดินทางไปยามตาข่ายที่หนองน้ำจุดที่ 2 น้ำลึกประมาณ 2 เมตร ซึ่งอยู่ห่างกันไปประมาณ 150 เมตร กลับพบว่าได้มีจระเข้ตัวขนาดใหญ่ยาว 2 เมตร น้ำหนักประมาณ 40 กว่ากก. ติดตาข่าย ดิ้นไปมาอยู่ในน้ำ ตนจึงได้ลงไปนำขึ้นมาจากน้ำ และระหว่างที่ตนกำลังจะจับจระเข้ เพื่อมัดปากกลับถูกสะบัด และหันมากัดตนเข้าที่มือด้านขวาเลือดไหลอาบ

แต่ก็ไม่ละความพยายาม จนสามารถจับจระเข้มัดปากได้สำเร็จ ก่อนนำตัวไปผูกล่ามใต้ต้นมะม่วงคู่กันรวม 2 ตัว ยอมรับว่าจระเข้ตัวที่ 2 ที่จับได้นั้น มีสัญชาตญาณดุร้ายมาก เนื่องจากตนเคยจับจระเข้ตามแหล่งน้ำบริเวณนี้มาเป็นจำนวนหลายตัว จนนับไม่ถ้วน แต่ไม่คิดว่าจะมาพลาด ถูกจระเข้กัดเข้าที่มือจนเป็นแผลเหวะ แต่โชคยังดีที่ไม่ถึงกลับมือขาด

นายตุ๋ย ยังกล่าวต่ออีกว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ชาวบ้านสามารถจับจระเข้ได้ที่บริเวณแหล่งน้ำแห่งนี้จำนวนหลายตัว ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ เนื่องจากอยู่ติดกับฟาร์มจระเข้ และที่ผ่านๆมา เมื่อชาวบ้านจับจระเข้ได้ แล้วแจ้งให้เจ้าของฟาร์มจระเข้ทราบทุกครั้ง กลับได้รับการปฏิเสธ ว่าไม่ใช้จระเข้ที่หลุดรอดออกมาจากฟาร์ม

และส่วนใหญ่ชาวบ้านก็มักจะนำไปปรุงเป็นอาหาร หรือขายต่อให้กับผู้ที่ต้องการ แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า น่าจะเป็นจระเข้ที่หลุดรอดออกมาจากฟาร์ม

ในส่วนของชาวบ้าน ที่เดินทางมายืนมุงดู กล่าวว่าในพื้นที่แหล่งน้ำบริเวณโดยรอบฟาร์มจระเข้แห่งนี้ คาดว่ายังต้องมีจระเข้อีกจำนวนมาก เนื่องจากชาวบ้านที่เดินทางออกไปทุ่งนา ต่างพบเห็นว่ามีร่องรอยเท้า และลำตัวจระเข้ อีกจำนวนหลายแห่ง

ก่อนพาผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบ ซึ่งพบว่ามีร่องรอยเท้า และลำตัวของจระเข้ เดินผ่านที่บริเวณร่องน้ำข้างนาข้าว และร่องรอยจระเข้เดินผ่านต้นข้าว ที่กำลังตั้งท้องจนเป็นช่องราบทางยาว โดยชาวบ้านส่วนใหญ่ที่ทราบต่างหวาดผวา เกรงกลัวว่าซักวันอาจได้รับอันตราย ถูกจระเข้กัด หรือทำร้ายเอาก็เป็นได้

จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งออกติดตามไล่ล่าจับจระเข้ให้หมดไปเพื่อความปลอดภัยของชาวบ้าน