ศาลอุทธรณ์ สั่งรื้อ!! ให้สอบพยานใหม่ คดีโอนหุ้น 'เสี่ยชูวงษ์'

เช้าวันนี้ (23 ก.ย. 64) ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลอุทธรณ์ อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีปลอมเอกสารโอนหุ้นของ นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง จากกรณีที่พนักงานอัยการ สำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ 3 เป็นโจทก์ และ นางศิริรัตน์ แซ่ตั๊ง ภรรยาของนายชูวงษ์ เป็นโจทก์ที่ 2 ยื่นฟ้อง นางสาวกัญฐณา หรือน้ำตาล ศิวาธนพล, นางสาวอุรชา หรือป้อนข้าว วชิรกุลฑล หรือวัชรียา วัชรประยงค์วุฒิ , พันตำรวจโทบรรยิน ตั้งภากรณ์ และนางสาวศรีธรา พรหมา มารดาของ น.ส.อุรชา เป็นจำเลยที่ 1- 4

โดยคดีนี้ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา ว่า จำเลยที่ 1-3 มีความผิดฐานร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม ให้จำคุก น.ส.กัญฐณา หรือน้ำตาล อดีตพริตตี้ จำเลยที่ 1 และ น.ส.อุรชา หรือป้อนข้าว อดีตโบรกเกอร์ จำเลยที่ 2 คนละ 4 ปี ส่วน พ.ต.ท.บรรยิน จำเลยที่ 3 ให้จำคุก 2 กระทง กระทงละ 4 ปี รวมจำคุก 8 ปี โดยให้ยกฟ้อง น.ส.ศรีธรา มารดาของอดีตโบรกเกอร์ จำเลยที่ 4

ต่อมา โจทก์ที่ 2 และจำเลยที่ 1, 2, 3 ยื่นอุทธรณ์ ซึ่งวันนี้ศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ผ่านระบบ VDO Conference ไปยังเรือนจำที่จำเลยที่ 1-3 ถูกคุมขัง โดยคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ สรุปว่า อุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 ที่โต้แย้งเกี่ยวกับการสืบพยานบางปาก ในกระบวนพิจารณาลับหลังจำเลยที่ 2,4 นั้นฟังขึ้น โดยมีพยานบางส่วนที่ดำเนินการสืบพยานลับหลังจำเลยไม่ถูกต้องตาม ป.วิ.อ.มาตรา 172 วรรคหนึ่ง และ 172 ทวิ (1)

ศาลอุทธรณ์จึงพิพากษา ให้ยกคำพิพากษาของศาลชั้นต้น โดยให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาในขั้นตอนการสืบพยานโจทก์ 10 ปากในส่วนของจำเลยที่ 2 และที่ 4 กับสืบพยานโจทก์ 1 ปาก ในส่วนของจำเลยที่ 4 ใหม่ แล้วมีคำพิพากษาใหม่เฉพาะจำเลยที่ 2 และที่ 4 ไปตามรูปคดี โดยให้ยกอุทธรณ์ของโจทก์ที่ 2 ในส่วนของจำเลยที่ 4 สำหรับอุทธรณ์ของโจทก์ที่ 2 ในส่วนอื่นและอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 และที่ 3 นั้น ให้รอไว้วินิจฉัยเมื่อศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาใหม่ เฉพาะจำเลยที่ 2 และที่ 4 เรียบร้อยแล้ว

สำหรับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ดังกล่าว จะส่งผลให้ผลคำพิพากษาเดิมเฉพาะในส่วนของจำเลยที่ 2 และที่ 4 ของศาลชั้นต้นยังไม่มีผลบังคับตามกฎหมาย ส่วนจำเลยอื่นผลคำพิพากษาคงเป็นไปตามที่ศาลชั้นต้นพิพากษามา ซึ่งการพิจารณาอุทธรณ์ในส่วนอื่นรวมถึงหากศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่สำหรับจำเลยที่ 2 และที่ 4 แล้ว หากผลของคดีเปลี่ยนแปลงอาจมีการอุทธรณ์ในส่วนนี้อีกครั้ง

ทำให้คดีนี้ต้องรอศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนการสืบพยานโจทก์ทั้ง 11 ปากตามที่ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาใหม่เสียก่อน ขณะที่เมื่อสิ้นสุดการพิพากษา ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในส่วนของ นางสาวอุรชา หรือป้อนข้าว จำเลยที่ 2 ยังไม่มีรายงานว่ามีคำสั่งให้ปล่อยตัว หรือไม่ เนื่องจากยังไม่ปรากฏคำสั่งการปล่อยตัว