ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน คุ้มครองชั่วคราว คดีสื่อฟ้อง 'ประยุทธ์' ปิดกั้นเสรีภาพปชช.

ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ในคดีที่สื่อมวลชน ประชาชน และภาคีนักกฏหมายเพื่อสิทธิมนุษยชน ยื่นฟ้อง พลเอกประยุทธ์​ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2564 ให้ยกเลิกคำสั่งที่ 29 พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ที่ห้ามเสนอข่าว หรือเผยแพร่ข้อความอันอาจทำให้ประชาชนหวาดกลัว โดยให้อำนาจรัฐบาลสามารถสั่งให้ กสทช.ระงับสัญญานอินเทอร์เน็ตของผู้ใช้บริการได้ ซึ่งมีการยกเลิกคำสั่งไปแล้ว แต่ฝ่ายโจทก์ได้ยื่นอุทธรณ์เพราะเห็นว่าต้องให้เพิกถอนคำสั่งไม่ใช่แค่ยกเลิก ขณะที่ฝ่ายจำเลย ก็ยื่นอุทธรณ์ด้วย แต่ศาลอุทธรณ์เห็นว่าคำสั่งศาลชั้นต้นเป็นไปโดยชอบแล้ว ฝ่ายสื่อและนักฏหมาย เตรียมพิจารณยื่นฎีกาเพื่อให้เป็นบรรทัดฐานในการที่รัฐไม่ออกกฏหมายที่ปิดปากประชาชนอีก



นางสาวพรพิมล มุกขุนทด ทนายความ ภาคีนักกฏหมายเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีที่สื่อมวลชนและประชาชนเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2564 ซึ่งศาลแพ่งมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวชะลอการบังคับใช้ข้อกำหนดที่ 29 พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ที่ห้ามเสนอข่าวและเผยแพร่ข้อความทำให้ประชาชนหวาดกลัว และให้อำนาจรัฐบาลมีคำสั่งให้ กสทช.ระงับสัญญานอินเตอร์เน็ตของผู้ใช้บริการได้ โดย พลเอกประยุทธ์ ได้ยกเลิกข้อกำหนดฉบับนั้นไปเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2564 แต่ฝ่ายโจทก์ได้ยื่นอุทธรณ์ว่าแม้คำสั่งจะยกเลิกแล้วแต่มีการบังคับใช้อยู่ระหว่างวันที่ 30 กรกฏาคม ถึง 9 สิงหาคม 2564 ซึ่งทำให้เกิดการกำจัดสิทธิและเสรีภาพไปแล้ว จึงขอให้เพิกถอนข้อกำหนดนี้ เพราะไม่ชอบด้วยกฏหมายและรัฐธรรมนูญ แต่ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ทางฝ่ายโจทก์และภาคีนักกฏหมายเพื่อสิทธิมนุษยชน จึงเตรียมหารือที่จะยื่นฎีกาเพื่อให้เป็นบรรทัดฐานที่รัฐจะไม่ออกกฏหมายตามอำเภอใจ



นางสาวฐปณีย์ เอียดศรีไชย ผู้ก่อตั้งสำนักข่าวเดอะรีพอร์ตเตอร์ ในฐานะโจทก์ที่ 1 เห็นด้วยที่จะยื่นฎีกา เพื่อเป็นคดีตัวอย่างที่ สื่อมวลชน ประชาชน และ นักฏหมาย ร่วมกันใช้กฏหมายปกป้องสิทธิเสรีภาพ ไม่จำยอมให้รัฐใช้อำนาจและกฏหมายมาปิดปากประชาชน



ส่วนฝ่ายจำเลยก็ยื่นอุทธรณ์เช่นกัน ซึ่งศาลอุทธรณ์ยืนตามพิพากษาศาลชั้นต้น ที่เห็นว่าคำฟ้องมีมูลและมีเหตุเพียงพอ ที่จะให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวระงับการใช้ข้อกำหนดแล้ว โดยพลเอกประยุทธ์ ในฐานะจำเลย มอบหมายนักกฏหมายมาฟังคำวินิจฉัยแทน