ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง 'ป้าศรีไพร' ปมถูกกล่าวหารุกป่าสระบุรี หลั่งน้ำตาดีใจ หลังสู้นาน 3 ปี

อีกหนึ่งคดีที่ข่าว 3 มิติ ติดตามความคืบหน้ามาตลอด ก็คือกรณีของ นางศรีไพร ตุ่นสมบัติ ชาวบ้านที่อาศัยทำกินในเขตป่า อ.วิหารเเดง จ.สระบุรี ที่เคยถูกเจ้าหน้าที่กลุ่มหนึ่งร่วมกันจับกุม-ดำเนินคดีข้อหาบุกรุกป่า เหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งเเต่ปี 2564 เรื่องราวในตอนนั้นดูเหมือนจะจบลงตรงที่นางศรีไพร ซึ่งเขียนเเละอ่านหนังสือไม่ออก อาจจะต้องถูกส่งเข้าเรือนจำ

แต่มีเจ้าหน้าที่รัฐกลุ่มหนึ่งตรวจพบพิรุธ เเละความไม่ปกติในบันทึกจับกุม จึงช่วยประสานข้อมูลกับทนายความช่วยทวงความยุติธรรม ยืนหยัดสู้จนชนะคดีในศาลชั้นต้นเมื่อปีที่เเล้ว เเต่ฝ่ายโจทก์ขอยื่นอุทธรณ์ต่อ กระทั่งช่วงสายวันนี้ ศาลจังหวัดสระบุรี นัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีนี้อีกครั้ง พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้ยกฟ้องจำเลย



ภาพนี้บันทึกไว้เมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคม 2566 "นางศรีไพร" เดินออกจากรั้วศาลด้วยความดีใจ เเละขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือ



เเต่ไม่นานหลังจากนั้น ก็ต้องกลับมาทุกข์ใจเเละตามมาด้วยอาการเจ็บป่วย เมื่อฝ่ายโจทก์ โดยพนักงานอัยการ ขอยื่นต่อในชั้นอุทธรณ์



ผ่านไปเกือบ 1 ปี ทีมข่าว 3 มิติ กลับมาที่สระบุรีอีกครั้ง เราได้พบกับนางศรีไพรในวัย 66 ปี ตรงสถานที่เเละเวลาเดิม ต่างก็เพียงช่วงเดือน-ปี เเละสุขภาพ ที่โรยราไปตามวัย



เธอบอกว่าที่ผ่านมา กินไม่ได้นอนไม่หลับ ด้วยเพราะเขียนเเละอ่านหนังสือไม่ออกจึงเป็นกังวลกลัวจะติดคุก ซ้ำร้ายยังต้องมาสูญเสียสามี ที่เสียชีวิตระหว่างสู้คดีเมื่อกว่า 1 ปีที่เเล้ว



ทนายเสนีย์ เจริญสุข คือผู้ที่อาสารับว่าความให้ฟรี หลังพบพิรุธเเละความไม่ปกติจากสำนวนเเละข้อมูลที่ระบุในบันทึกจับกุม



ที่ผ่านมาจึงประสานข้อมูลกับหลาย ๆ ฝ่าย ภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ทั้งป.ป.ท.เขต 1 รองอธิบดีกรมป่าไม้ ซึ่งปัจจุบันเป็นหัวหน้าผู้ตรวจราบการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ รวมถึงผู้นำเเละชาวบ้าน ต่างก็พร้อมใจกันมาช่วยเป็นพยานให้นางศรีไพร ซึ่งถูกจับกุม-กล่าวหาบุกรุกป่าในพื้นที่ของรัฐ ทั้งที่มีหลักฐาน ยืนมาตลอดว่า เธอกับครอบครัวอาศัยทำกินที่นี่มาตั้งปี 2512 เเล้ว



เอกสาร การอ่านเเปลภาพถ่ายทางอากาศเหล่านี้ เป็นส่วนหนึ่งที่ใช้เป็นหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์ จะเห็นว่าในเเต่ละช่วงปีไล่มาตั้งเเต่ปี 2500 จนถึงปัจจุบัน ปรากฏมีร่องรอยทำกินชัดเจน จึงเป็นที่น่าสังเกตว่า การจับกุม-ดำเนินคดีของเจ้าหน้าที่ขณะนั้น ถูกต้องเเละเที่ยงธรรมหรือไม่ โดยเฉพาะกับชาวบ้านผู้ยากไร้ ซึ่งปัจจุบัน พบว่าบ้านของ"นางศรีไพร"ถูกล้อมไปด้วยสุสานฮวงซุ้ย



หน้าติดน้ำ หลังติดเขา นี่คือทำเลทองที่คนในวงการที่ดินต่างก็รู้กันดีว่า นี่คือศาสตร์ฮวงจุ้ยที่บรรดาเศรษฐีบางกลุ่ม อยากได้มาครอบครอง จากข้อมูลพบว่ามีหลายเเปลงที่อยู่ถัดลงมา ได้เอกสารสิทธิ์มาไว้ในครอบครองเเล้ว



4 ไร่ของ"นางศรีไพร"กับครอบครัว ก็อาจเป็นหนึ่งในนั้น เพราะเหลือเป็นไข่เเดงจุดเดียวที่ยังคงสภาพทำกินเเบบเดิม พวกเขาอยู่ตามอัตถภาพไม่มีไฟฟ้า เเต่ด้วยที่ตั้งอยู่ติดกับเเนวเขตอุทยาน เเละมีเขื่อนอยู่ด้านบน ซึ่งว่ากันว่า ราคาซื้อขายเเถบนี้ เเม้เป็นภบ.ท.5 ที่ไม่ใช่เอกสารสิทธิ์ คร่าว ๆ ก็มีตั้งเเต่ไร่ละหลายเเสนไปจนถึงหลักล้าน