สังคม

คณะกรรมการโรคติดต่อไฟเขียว ใช้ Rapid Antigen Test ตรวจเฉพาะในสถานพยาบาลเท่านั้น

โดย sujira_s

12 ก.ค. 2564

230 views

ภายหลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติครั้งที่7 กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เปิดแถลงข่าว โดยนายอนุทิน ได้กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครซึ่งพบอย่างต่อเนื่อง และมีการแพร่ระบาดกระจายไปยังพื้นที่ต่างจังหวัด


ทั้งนี้ พบมีการระบาดของสายพันธุ์เดลต้าที่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และกระจายไปหลายจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดที่มีสถานประกอบการโรงงาน ตลาดค้าส่ง โดยคาดการณ์ว่าอาจพบผู้ติดเชื้อสูงถึงระดับ 1 หมื่นรายต่อวัน หรือประมาณ 1 แสนกว่ารายภายในสองสัปดาห์นี้ และทำให้เกิดอัตราการเสียชีวิตที่เพิ่มมากขึ้น จึงจำเป็นต้องมีมาตรการป้องกันที่เข้มงวด ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด


เช่น ห้ามการรวมกลุ่มบุคคลมากกว่าห้าคน, การจำกัดการเดินทางข้ามจังหวัด, ลดจำนวนขนส่งสาธารณะข้ามจังหวัดระยะไกล, ปิดสถานที่เสี่ยง และให้มีการเวิร์คฟอร์มโฮมของพนักงานภาคเอกชนและภาครัฐให้มากที่สุด เพื่อลดโอกาสการสัมผัสโรค ลดการเคลื่อนย้ายและการดำเนินกิจกรรมของบุคคลให้มากที่สุด


รวมถึงมีการปรับแผนการฉีดวัคซีนโดยจะระดม ให้กับกลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มเสี่ยงผู้มีโรคประจำตัว 7 โรค โดยมีการตั้งเป้าฉีดวัคซีนในกลุ่มผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไปให้ได้ 1,000,000 คนภายในสองสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ซึ่งมีการระบาดรุนแรง เช่น กรุงเทพมหานครและปริมณฑล


ทั้งนี้ เพื่อสร้างให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ในกลุ่มประชากรผู้สูงอายุมากเกิน ร้อยละ80 จนถึงขณะนี้ดำเนินการฉีดวัคซีนไปแล้วมากถึง 12 ล้านโดส แตพบในกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยงที่กระทรวงสาธารณสุขได้ตั้งเป้าไว้ ยังได้รับวัคซีนไม่ครบตามจำนวน จึงมีความจำเป็นต้องเร่งให้กลุ่มเสี่ยงได้รับวัคซีนตามระยะเวลา


ส่วนการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติวันนี้ มีมติการประชุมสี่เรื่อง คือ คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติเห็นชอบให้สามารถฉีดวัคซีนโควิด-19 ต่างชนิด โดยเข็มที่หนึ่งเป็นซิโนแวค และเข็มที่สองเป็นเอสตราเซนิก้าได้ กำหนดให้ระยะเวลาห่างกันสามถึงสี่สัปดาห์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อกลายสายพันธุ์เดลต้า โดยจะสร้างภูมิคุ้มกันเชื้อไวรัสในระดับที่สูงมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้โรงพยาบาลต่างๆ สามารถดำเนินการได้ทันที เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อบุคลากรทางการแพทย์ บุคลากรด่านหน้าที่ปฎิบัติหน้าที่ดูแลผู้ป่วย


เรื่องที่ 2 ที่ประชุมรับทราบข้อเสนอการฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกัน หรือบูสเตอร์โดสสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า โดยการให้วัคซีนเข็มที่สามห่างจากเข็มสอง ในระยะตั้งแต่สามถึงสี่สัปดาห์ขึ้นไป ซึ่งบุคลากรทางการแพทย์ได้รับวัคซีนสองเข็มแรกเกินสี่สัปดาห์แล้วดังนั้นสามารถดำเนินการฉีดกระตุ้นบูสเตอร์โดส โดยทันทีเพื่อกระตุ้นให้เกิดภูมิคุ้มกันสูง ซึ่งไวรัสที่มีการกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์เดลตานั้น มีความจำเป็นที่จะต้องมีการฉีดวัคซีนเข็มที่สามให้กับบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อทำให้เกิดความมั่นใจ และเกิดความปลอดภัยต่อบุคลากรในการปฎิบัติหน้าที่ดูแลผู้ป่วย ซึ่งบูสเตอร์จะเป็นวัคซีนซิโนแวค หรือวัคซีนแอสตราเซเนกาก็สามารถใช้ได้


ประเด็นต่อมา ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแนวทางการใช้ชุดตรวจ Rapid Antigen Test Kit ในการตรวจทานเชื้อโควิด-19 เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในหลายพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการตรวจ ในทางเลือกที่เพิ่มขึ้นและใช้เวลาน้อยลง


โดยชุดตรวจต้องผ่านการรับรอง และขึ้นทะเบียนกับทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดยปัจจุบันมีผู้มาขึ้นทะเบียนแล้ว 24 ราย โดยจะอนุญาตให้ตรวจในสถานพยาบาลและหน่วยตรวจที่ได้รับรองมาตรฐาน ซึ่งในปัจจุบันมีมากกว่า 800 แห่ง และในระยะถัดไปจะสามารถอนุญาตให้ตรวจเองที่บ้าน เพื่อให้ประชาชนได้ทราบผลที่เร็ว และลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อ


ซึ่งทางกรมควบคุมโรคจะมอบหมายแนวทางการปฏิบัติให้กับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด และคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร กำกับและดำเนินงานตามแนวทางการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด



คุณอาจสนใจ