ตร.ซ้อนแผนจับพ่อค้าเสือโคร่งข้ามชาติ ยึดซากได้ 3 ตัว พบตั้งราคาขายสูงถึง 9 แสน

เรื่องขบวนการค้าเสือโคร่งที่ข่าว 3 มิติ ติดตามนำเสนอไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา จนถึงตอนนี้ เจ้าหน้าที่ก็ยังตามสืบสวนขยายผลต่อเนื่อง ล่าสุด กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย บก.ปทส. ร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซ้อนเเผนเข้าจับกุมชายวัย 60 ปี พร้อมของกลางเป็นซากเสือโคร่ง 3 ตัว หลังพบว่าผู้ต้องหารายนี้ เคยนำซากเสือโคร่งมาเสนอขายตั้งราคาสูงถึง 9 เเสนบาท



กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย บก.ปทส. ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช สั่งการให้ พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติเเละสิ่งเเวดล้อม นำกำลังเจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เข้าจับกุม นายชาลี อายุ 60 ปี พร้อมตรวจยึดของกลาง ประกอบด้วยซากสัตว์ป่าเสือโคร่งจำนวน 3 ตัว มีสภาพสมบูรณ์ โดยกล่าวหาว่ามีการกระทำผิด พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ฐานมีไว้ในครอบครอง,ค้าหรือจำหน่าย ซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองหรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยจับกุมได้ที่บ้านพัก ในต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี



การจับกุมครั้งนี้ มาจากการขยายผลต่อเนื่องภายใต้ภาคีความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่กรมบริหารทรัพยากรสัตว์น้ำและสัตว์ป่าแห่งสหรัฐอเมริกา ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ถือเป็นกาาต่อยอดความสำเร็จในการต่อต้านการค้าสัตว์ป่าระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตามโครงการ US Fish and Wildlife Service Southeast Asia เพื่อแก้ไขปัญหาการลักลอบค้าสัตว์ป่าซึ่งเป็นอาชญากรรมข้ามชาติ



ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนหาข่าว จนทราบว่ามีบุคคลได้พยายามนำซากสัตว์ป่าสงวน (เสือโคร่ง) สภาพสมบูรณ์จำนวน 3 ตัว ออกมาเสนอขาย เจ้าหน้าที่จึงทำการสืบสวนจนทราบว่าซากเสือโคร่งทั้ง 3 ตัวดังกล่าว ผู้ครอบครองนำมาเก็บไว้ที่บ้านพัก จึงทำการขอหมายค้นและได้เข้าตรวจยึดเเละจับกุมในครั้งนี้



ข้อมูลจากการสืบสวนทราบมาว่า ซากเสือทั้ง 3 ตัว เป็นเสือโคร่งสุมาตรา ผู้ต้องหาได้มาจากประเทศอินโดนีเซียมานานกว่า 40 ปีแล้ว อ้างว่าเดือดร้อนขัดสนเรื่องเงิน จึงตัดสินใจนำมาขาย โดยตั้งราคาขายให้กับสายลับในราคา 900,000 บาท ต่อรองกันจนเหลือ 200,000 บาท แต่ภายหลังผู้ต้องหาไหวตัวจึงยุติการซื้อขายลง ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการ 4 บก.ปทส. สืบสวนติดตามจนรู้แหล่งซุกซ่อนของซากเสือดังกล่าว ก่อนจะขอหมายค้นบ้านพัก นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง ดำเนินคดีตามกฎหมาย



ตำรวจ ปทส. ยังเเจ้งเตือนไปถึงผู้ที่ครอบครองซากสัตว์ป่า นอกจากเป็นการสนับสนุนผู้กระทำความผิดในการล่าแล้ว ยังทำลายสมดุลทางธรรมชาติในทางอ้อมด้วย ผู้ที่มีเบาะเเส หรือมีข้อมูลผู้กระทำความผิด ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บก.ปทส. สายด่วนหมายเลขโทรศัพท์ 1136