เปิดนาทีซ้อนแผนจับนายกฯเมืองบางแก้ว เรียกสินบนหลักล้าน ของกลางคาหนังคาเขา

เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐหรือ ปปท. ร่วมกับตำรวจบก. ปปป. และตำรวจสอบสวนกลาง ซ้อนแผนเข้าจับกุมนายกเทศมนตรีเมืองบางแก้ว จ.สมุทรปราการ เรียกรับเงินสินบน 1 ล้าน 5 เเสนบาทจากผู้ประกอบการ



นายศรชัย ชูวิเชียร เลขาธิการปปท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตเเละประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจับกุม นายณัฐพงศ์ แตงสุวรรณ หรือ นายกฯเปิ้ล นายกเทศมนตรีเมืองบางแก้ว จ.สมุทรปราการ จากกรณีถูกกล่าวหาเรียกรับเงินสินบนจากผู้ประกอบการ พร้อมด้วยของกลางเป็นเงินสด จำนวน 1,560,650 บาท



การจับกุมเกิดขึ้นภายในศูนย์อาหารแห่งหนึ่ง ห่างจากสำนักงานเทศบาลเมืองบางแก้ว ประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งเป็นสถานที่นัดจ่ายเงิน จากนั้นได้ขอหมายค้น 4 จุด ประกอบด้วย บ้านพักนายกฯ / ห้องทำงาน / บ้านพักของภรรยาคนที่ 1 และบ้านพักของภรรยาคนที่ 2 เพื่อหาหลักฐานต่าง ๆ



ต่อมานายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ร่วมกับ ตำรวจ ปปป. และปปท. นำเงินสดของกลาง 1 ล้าน 5 เเสนบาท มาแถลงข่าว ระบุว่า การเรียกรับเงินสินบนผู้ประกอบการ ซึ่งเป็นผู้ชนะการเสนอราคา ในโครงการ e-bidding จัดหาป้ายประชาสัมพันธ์ LED จำนวน 3 จอ วงเงินตามสัญญา 13,359,000 บาท โดยเรียกรับเงินจากผู้เสียหาย 25% จากผู้เสียหาย เป็นเงิน 3,121,261 บาท และนัดหมายให้ผู้เสียหายนำเงิน มามอบให้ครึ่งหนึ่งในวันนี้ เป็นเงินจำนวน 1 ล้าน 5 เเสนบาท



จึงวางแผนร่วมจับกุม โดยมีการนัดหมาย เพื่อนำเงินไปให้ ที่ออฟฟิตของนายกฯเปิ้ล และผู้เสียหายมีการส่งมอบเงินให้ จากนั้นนายกเปิ้ลกับผู้เสียหายหายก็เดินออกมาเพื่อขึ้นรถ โดยมีวงจรปิดจับภาพได้ชัดเจน จึงมีการส่งสัญญาณให้จนท.เข้าจับกุม เมื่อนายกเปิ้ลเห็นตำรวจ ตัดสินใจทิ้งถุงดำที่ใส่เงินและเดินหนีทันที



พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการปปป. ระบุว่า พฤติการณ์ของนายกเปิ้ล เรียกว่าผู้มีอิทธิพล เพราะเรียกรับผลประโยชน์ และยังพบว่ามีหลายเรื่องที่เรียกรับ



ส่วนกรณีตำรวจกองปราบ ซ้อนแผนเข้าจับ สารวัตร สภ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี ผู้ถูกกล่าวหาก็คือ พ.ต.ท.ณัฐพล พงษานุวัฒน์ อายุ 56 ปี เป็นสารวัตรสอบสวน สภ.โคกสำโรง มีพฤติกรรมเรียกรับสินบนจากผู้ต้องหา ในคดีร่วมลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เป็นเงินค่าทำคดีจำนวน 1 เเสนบาท



ทางผู้ต้องหาจึงไปร้องเรียนกับ "กันจอมพลัง" ต่อมาได้ประสานไปยังตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการปราบปราม เจ้าหน้าที่จึงวางเเผนจับกุม โดยให้ผู้ต้องหาเอาเงินที่เหลืออีกก้อน จำนวน 5 หมื่นบาท ไปให้กับสารวัตรคนนี้ นัดหมายส่งมอบภายในลาดจอดรถร้านอาหารเเห่งหนึ่ง ในอำเภอโคกสำโรง



ทันทีที่สารวัตรรับเงินจากผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวเข้าจับกุมทันที พบเงินของกลาง 5 หมื่นบาท อยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านขวาหลัง



เบื้องต้นแจ้งข้อหา "เรียกรับสินบน" หลังจากนั้น สารวัตรณัฐพล ได้ขอใช้สิทธิ์ตามกฎหมายติดต่อญาติ โดยได้โทรศัพท์หาภรรยา และขอพูดคุยเป็นการส่วนตัว ก่อนจะควบคุมตัวไปทำบันทึกจับกุมที่ สภ.โคกสำโรง



ด้านผู้เสียหาย อายุ 34 ปี บอกว่า ตนเองร้องเรียนแทนพ่อ ซึ่งถูกดำเนินคดีหลังเข้าไปรับจ้างทุบตึก โดยตำรวจอ้างว่าจะช่วยเหลือคดีนี้ได้ ตอนแรกเรียกรับเงิน 3 เเสนบาท ซึ่งตนเองไม่มีเงิน จึงต่อรองเหลือ 1 เเสนบาท เเต่ยังไม่มีเงินให้ จนกระทั่งช่วงปลายเดือนธันวาคมปี 65 พ่อถูกออกหมายจับ จากนั้นสารวัตรก็ติดต่อมาหา โดยเร่งให้นำเงินมาให้



เห็นว่าไม่น่าจะดำเนินการได้จริง จึงร้องเรียน ก่อนจะประสานไปยังกองปราบฯเพื่อประชุมซ้อนเเผน จนกระทั่งสามารถจับกุมสารวัตรนายนี้ได้