ศาลฎีกา พิพากษายืนจำคุกตลอดชีวิต 'อดีต ผอ.รร.' ฆ่าอำพรางสาว 19 ทิ้งไร่อ้อย

ศาลฎีกาพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งเคยรับราชการในจังหวัดสระแก้ว ในข้อหาคดีฆาตกรรม และซ่อนเร้นอำพรางศพ หญิงสาวชื่อหลิว เมื่อ 12 ปีก่อน จนกลายเป็นบุคคลสูญหาย แต่มูลนิธิกระจกเงา รับเรื่องร้องเรียนจากญาติ และได้ติดตามหาจนพบเบาะแส และเมื่อประสานงานให้ตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ ก็พบว่าความจริงว่าหญิง ที่ถูกฆ่าเผาอำพรางในไร่อ้อยแห่งหนึ่งที่จังหวัดสระแก้ว คือหญิงชื่อหลิว ที่หายตัวไป



วันนี้ศาลจังหวัดสระแก้ว อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีที่อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดสุพรรณบุรี และเคยรับราชการ ที่จังหวัดสระแก้ว ตกเป็นผู้ต้องหา คดีฆาตกรรมนางสาวมยุรี ยอดพะเนา หรือหลิว วัย 19 ปี พนักงานโรงงานแห่งหนึ่ง ในนิคม อุตสาหกรรม 304 จังหวัดปราจีนบุรี โดยศาลฎีกาพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต และให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ครอบครัว จำนวน 1 ล้าน 7 แสนบาท



คดีนี้เริ่มจากเมื่อปลายเดือนเมษายน 2555นางสาวมยุรี หรือหลิววัย 19 ปี ออกจากบ้านเกิดที่ตำบลโคกสูง อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว เพื่อไปทำงานโรงงานที่จังหวัดปราจีนบุรี แต่เดือนพฤษภาคม หลิวก็ขาดการติดต่อกับญาติและเพื่อน โดยพบเพียง รถจักรยานยนต์จอดไว้ใกล้ห้างค้าปลีก ที่จังหวัดปราจีนบุรี ต่อมามีผู้ส่งข้อความเข้าโทรศัพท์มือถือเพื่อน ของหลิว ระบุว่า "หลิวไปทำงานต่างประเทศแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง" อย่างไรก็ตาม ญาติได้แจ้งความไว้ที่ สภ.ศรีมหาโพธิ และพยามตามหาตลอดมา แต่ไม่พบเบาะแส



กระทั่ง ปี 2562 หรืออีก 7 ปีต่อมา ญาติประสานงานไปที่มูลนิธิกระจกเงา เพื่อให้ช่วยตามหา และมูลนิธิได้ประสานตรวจสอบ ความเคลื่อนไหว รวมถึงประวัติการออกไปทำงานต่างประเทศ ก็ไม่พบเบาะแส จึงประเมินข้อมูลอื่นๆของนางสาวหลิว โดยเฉพาะ ความสัมพันธ์กับบุคคลที่เข้ามาใกล้ชิดกับนางสาวหลิว และครอบครัวเป็นพิเศษ รวมถึง ตรวจสอบข้อมูลของศพนิรนาม ที่อยู่ในพื้นที่สระแก้ว ชลบุรี ปราจีนบุรี และฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อของจุดที่คาดว่าหายไป กระทั่งพบข้อมูลว่า มีศพนิรนาม เป็นเพศหญิง 3 ศพ ลักษณะถูกฆาตกรรมและนำศพไปทิ้งอำพราง



ต่อมาปี 2564 มีการเก็บตัวอย่างดีเอนเอ มารดาของนางสาวหลิว เพื่อเปรียบเทียบกับ ดีเอนเอของศพนิรนามทั้ง 3 ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ผลปรากฎว่า ศพหญิงนิรนาม ที่พบในไร่อ้อย หมู่ 13 ตำบลท่าเกวียน อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว ลักษณะถูกยิงตามร่างกายหลายจุด มีผลตรวจดีเอนเอ ปรากฎว่า ตรงกับมารดาของนางสาวหลิวที่หายไปนอกจากนี้ ห้วงเวลาที่พบศพในไร่อ้อย คือวันที่ 13 พฤษภาคม 2555 ซึ่งสอดคล้องกับช่วงเวลาที่นางสาวหลิวหายไป



เมื่อผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ เป็นที่ชัดเจนว่าศพนิรนาม คือนางสาวมยุรี หรือน้องหลิว มูลนิธิกระจกเงา ได้ประสานตำรวจ สอบสวนกลาง ตำรวจภูธรวัฒนานคร เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน จนศาลอนุมัติหมายจับ ผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งที่จังหวัดสุพรรณบุรี

ซึ่งผู้อำนวยการคนนี้เคย ทำงานที่จังหวัดสระแก้ว และขณะนั้นก็มีความสัมพันธ์ชู้สาว กับนางสาวหลิวมาหลายปี ต่อมาก็มีปมหึงหวง จนนำไปสู่การก่อเหตุ คดีนี้ผู้ต้องหาถูกดำเนินคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา/ ซ่อนเร้นอำพรางศพ และพกพาอาวุธโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อคดีขึ้นสู่ชั้นศาล ในปี 2565 ศาลชั้นต้น ตัดสินจำคุกตลอดชีวิต และให้ชดใช้ค่าเสียหายแก่ครอบครัว 1ล้าน 7 แสนบาท ในปี 2566 ศาลอุทธรณ์ตัดสินยืนตามศาลชั้นต้น และวันนี้ศาลฏีกา พิพากษายืนเช่นกัน