ย้อนรอยจับแก๊งลอบขนน้ำมันเถื่อน เครือข่าย 'โจ้ ปัตตานี' โยงคดีเรือของกลางหายปริศนา

การจับกุมน้ำมันเถื่อน ของศูนย์ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง เกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยจับผู้ต้องหาได้ 28 คน ทั้งหมดมีทนายความเข้ามายื่นข้อประกันไป ด้วยเหตุผลเรือน้ำมันของกลางรั่ว ต้องมีผู้ดูแล กระทั่งเรือหายไปเมื่อคืนวันที่ 11 มิถุนายน ก็คาดว่ามีกลุ่มผู้ต้องหาเป็นผู้ลักลอบนำเรือ ออกไปนอกน่านน้ำและยังหาไม่พบ



เสี่ยโจ้ ปัตตานี มีชื่อเข้ามาเกี่ยวข้องอีกครั้ง เพราะถูกระบุว่าเขาเป็นเจ้าของเรือน้ำมันเถื่อน จำนวน 3 ลำ ซึ่งเป็นของกลางในคดีที่ศูนย์ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีพล ต อ ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้าศูนย์ยึดเรือน้ำมันเถื่อน 3.3 แสนลิตร เขตรอยต่อน่านน้ำสากลเมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา



ตำรวจกองปราบปรามและตำรวจน้ำ ติดตามเรือต้องสงสัย จำนวน 5 ลำ ตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค. 67 โดยใช้เวลาร่วม 2 วัน 2 คืน กว่าจะควบคุมเรือได้ โดยมีเรือ น้ำมัน 3 ลำ ที่บรรจุน้ำมันดีเซล 3.3 แสนลิตร



โดยพบมีแทงก์น้ำมันในเรือซีฮอต น้ำมันเถื่อนประมาณ 150,000 ลิตร และเรืออีกลำประมระมาณ 8 หมื่นลิตร ส่วนเรือดาวรุ่ง พบน้ำมันเถื่อนประมาณ 100,000 ลิตร ส่วนเรืออีก 2 ลำ เป็นเรือที่มา รับถ่ายน้ำมัน ขนส่งไปเทียบที่ท่าเรือใน อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี เพื่อขนถ่ายต่อไปยังรถบรรทุกน้ำมัน เพื่อขายต่อ



ซึ่งการลักลอบนำเข้าน้ำมันเถื่อนที่ ไม่เสียภาษี ทำให้ภาครัฐสูญเสียรายได้จากจัดเก็บภาษี หลายหมื่นล้านบาทต่อปี ขณะเจ้าหน้าที่ตรวจค้นบนเรือ พบว่าเรือได้ลักลอบขายน้ำมันเถื่อน กลางทะเล มาประมาณ 1 เดือนส่วนอีก2 ลำ ไม่มีน้ำมัน



ขณะนำเรือเข้าฝั่งที่ท่าเทียบเรือ ของตำรวจน้ำสัตหีบ ได้ควบคุมตัว ผตห 28 คน (เป็นคนไทย 22 เมียนม่า 3 ลาว 2 กัมพูชา 1) ในข้อหา ร่วมกันพยายามลักลอบนำเข้าฯ พ.ร.บ.ศุลกากรฯ พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิตฯ



โดยวันที่ 19 มี.ค.67 ชุดจับนำส่ง พนักงานสอบสวน กก.2ตำรวจปราบปราบอาชญากรรม ทางเศรษฐกิจหรือ ปอศ และมีการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมด แต่เรือมีรอยรั่ว



ทำให้มีทีมทนายความมาร่วมกว่า 10 คน มาขอประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมด โดยใช้ข้ออ้างว่าต้องประกันตัวไปดูแลเรือ โดยยื่นประกันทั้งหมด 28 คน รวมค่าประกัน 3 ล้าน1 แสนบาท ส่วนเรือได้ยึดเป็นของกรมศุลกากร แต่ศุลกากรไม่มีที่จัดเก็บ จึงส่งมอบให้ตำรวจน้ำเป็นผู้ดูแลของกลาง และกรมศุลกากรจะเป็นผู้ประเมินราคาเพื่อประมูลแต่ผ่านมากว่า 2 เดือน ยังประเมินราคาไม่แล้วเสร็จ และคดีนี้ เป็นคดีนอกราชอาณาจักร อัยการสูงสุด มอบหมาย พนง สอบสวนปอศ. ทำการสอบสวนร่วมกับ อัยการ



ม.20 อัยการสูงสุด เป็นผู้มีความเห็นทางคดี ซึ่งมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า คดีจับเรือน้ำมันเถื่อน ซึ่งมี เสี่ยโจ้ ปัตตานี เข้ามาเกี่ยวข้อง น่าจะมีเครือข่ายให้การช่วยเหลืออยู่เบื้องหลัง เพราะมีการตั้งทีมทนายความให้ผู้ต้องหาเป็นรายบุคคล